ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ สช. 35/2562 เรื่อง การให้ความเห็นชอบที่ปรึกษาทางการเงินและขอบเขตการดำเนินงาน พ.ศ. 2552 (ฉบับที่ 8)

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 12, 2019 14:47 —ประกาศ ก.ล.ต.

ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

ที่ สช. 35/2562

เรื่อง การให้ความเห็นชอบที่ปรึกษาทางการเงิน

และขอบเขตการดำเนินงาน พ.ศ. 2552

(ฉบับที่ 8)

__________________________

โดยที่ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนเกี่ยวกับการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ การจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน และการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ กำหนดให้การให้คำปรึกษา ให้ความเห็นและจัดเตรียมเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ การขออนุมัติจัดตั้งและจัดการกองทุนรวม รวมทั้งการขออนุมัติเพิ่มเงินทุนจดทะเบียนของ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน และการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ ต้องมีที่ปรึกษาทางการเงินซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในบัญชีที่สำนักงานให้ความเห็นชอบเป็นผู้ร่วมจัดทำหรือให้ความเห็น และโดยที่เป็นการสมควรให้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์บางประการเกี่ยวกับความเป็นอิสระในการทำหน้าที่ของที่ปรึกษาทางการเงินให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น สำนักงานออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ให้ยกเลิกความใน (20) และ (21) ของข้อ 3 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการให้ความเห็นชอบที่ปรึกษาทางการเงินและขอบเขตการดำเนินงาน พ.ศ. 2552 ลงวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สช. 24/2557 เรื่อง การให้ความเห็นชอบที่ปรึกษาทางการเงินและขอบเขตการดำเนินงาน (ฉบับที่ 4) ลงวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2557 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“(20) “หน่วยทรัสต์” หมายความว่า ใบทรัสต์ที่แสดงสิทธิของผู้ถือในฐานะผู้รับประโยชน์ในทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือทรัสต์เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน แล้วแต่กรณี

(21) “ผู้จำหน่ายทรัพย์สิน” หมายความว่า บุคคลดังต่อไปนี้

(ก) กรณีทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ ผู้ที่จะจำหน่าย จ่าย โอน ให้เช่า หรือให้สิทธิในอสังหาริมทรัพย์แก่ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

(ข) กรณีทรัสต์เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน หรือกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ ผู้ที่จะจำหน่าย จ่าย โอน ให้เช่า หรือให้สิทธิในทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานแก่ทรัสต์เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน หรือกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน แล้วแต่กรณี”

ข้อ 2 ให้ยกเลิกความในข้อ 22 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการให้ความเห็นชอบที่ปรึกษาทางการเงินและขอบเขตการดำเนินงาน พ.ศ. 2552 ลงวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สช. 24/2557 เรื่อง การให้ความเห็นชอบที่ปรึกษาทางการเงินและขอบเขตการดำเนินงาน (ฉบับที่ 4) ลงวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2557 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“ข้อ 22 เพื่อให้มั่นใจได้ว่าที่ปรึกษาทางการเงินในการออกหรือเสนอขายหลักทรัพย์จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเป็นอิสระ ห้ามมิให้ที่ปรึกษาทางการเงินที่มีประโยชน์ที่อาจขัดแย้งกับการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว รับหรือทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการออกหรือเสนอขายหลักทรัพย์ เว้นแต่เป็นการออกหรือเสนอขายหลักทรัพย์ประเภทใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ หรือหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงซึ่งให้สิทธิชำระคืนต้นเงินหรือผลตอบแทนเป็นหลักทรัพย์ซึ่งมิใช่หลักทรัพย์ที่ออกโดยผู้ออกหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงนั้น

ในกรณีดังต่อไปนี้ ซึ่งมีรายละเอียดตามภาคผนวกท้ายประกาศ ให้ถือว่าที่ปรึกษาทางการเงินมีประโยชน์ที่อาจขัดแย้งกับการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการออกหรือเสนอขายหลักทรัพย์ตามวรรคหนึ่ง

(1) ที่ปรึกษาทางการเงินเป็นผู้ถือหุ้นในผู้ออกหรือเสนอขายหลักทรัพย์ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม

(2) ที่ปรึกษาทางการเงินมีผู้ออกหรือเสนอขายหลักทรัพย์เป็นผู้ถือหุ้น ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม

(3) ที่ปรึกษาทางการเงินมีกรรมการ ผู้บริหาร ผู้ควบคุมการปฏิบัติงาน หรือพนักงาน ซึ่งรับผิดชอบ ดูแล หรือปฏิบัติงานในสายงานที่ปรึกษาทางการเงิน เป็นบุคคลหรือกลุ่มบุคคลเดียวกับกรรมการของผู้ออกหรือเสนอขายหลักทรัพย์

(4) ที่ปรึกษาทางการเงินมีความเกี่ยวข้องหรือมีส่วนได้เสียอื่นใดกับผู้ออกหรือเสนอขายหลักทรัพย์ในลักษณะที่อาจทำให้ที่ปรึกษาทางการเงินขาดความเป็นอิสระในการทำหน้าที่

การพิจารณากรณีตามวรรคสอง ให้พิจารณารวมถึงบุคคลที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับที่ปรึกษาทางการเงินและผู้ออกหรือเสนอขายหลักทรัพย์ด้วย ทั้งนี้ ตามรายละเอียดในภาคผนวกท้ายประกาศ

เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการออกหรือเสนอขายหลักทรัพย์ประเภทหน่วยทรัสต์ ให้ใช้คำว่า “ผู้จำหน่ายทรัพย์สิน” แทนคำว่า “ผู้ออกหรือเสนอขายหลักทรัพย์” ตามวรรคสองและวรรคสาม”

ข้อ 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ 22/1 ในส่วนที่ 1 ที่ปรึกษาทางการเงินในการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ ของหมวด 2 หน้าที่และขอบเขตการดำเนินงานของที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้ควบคุมการปฏิบัติงาน แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการให้ความเห็นชอบที่ปรึกษาทางการเงินและขอบเขตการดำเนินงาน พ.ศ. 2552 ลงวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552

“ข้อ 22/1 การพิจารณากรณีตามข้อ 22 วรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

(1) มิให้นำการถือหุ้น การส่งบุคคลเข้าเป็นกรรมการ หรือการมีส่วนได้เสีย ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น (ไม่รวมบริษัทที่มีหุ้นเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน) กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระองค์ หรือบุคคลอื่นที่ได้รับการผ่อนผันจากสำนักงาน มาพิจารณา

(2) การคำนวณอัตราการถือหุ้นให้เป็นไปตามวิธีการตามภาคผนวกท้ายประกาศ โดยให้นับรวมจำนวนหุ้นที่จะเกิดจากการใช้สิทธิของหุ้นกู้แปลงสภาพ ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ และใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ รวมทั้งหุ้นที่เป็นปัจจัยอ้างอิงสำหรับส่งมอบในการชำระหนี้ตามหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง และหุ้นอ้างอิงของใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงด้วย ทั้งนี้ เฉพาะกรณีตามข้อ 22 วรรคสอง (1) และ (2)”

ข้อ 4 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นส่วนที่ 1/1 ที่ปรึกษาทางการเงินของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ข้อ 22/2 ในหมวด 2 หน้าที่และขอบเขตการดำเนินงานของที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้ควบคุมการปฏิบัติงาน แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ว่าด้วยการให้ความเห็นชอบที่ปรึกษาทางการเงินและขอบเขตการดำเนินงาน พ.ศ. 2552 ลงวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552

“ส่วนที่ 1/1

ที่ปรึกษาทางการเงินของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน

__________________________

ข้อ 22/2 ให้นำความในข้อ 22 และข้อ 22/1 มาใช้บังคับกับที่ปรึกษาทางการเงินในการขออนุมัติจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หรือการขออนุมัติเพิ่มเงินทุนจดทะเบียนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โดยอนุโลม

เพื่อประโยชน์ในการอนุโลมใช้หลักเกณฑ์ตามวรรคหนึ่ง ให้ใช้คำว่า “ผู้จำหน่ายทรัพย์สิน” แทนคำว่า “ผู้ออกหรือเสนอขายหลักทรัพย์””

ข้อ 5 ให้ยกเลิกความในข้อ 25 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการให้ความเห็นชอบที่ปรึกษาทางการเงินและขอบเขตการดำเนินงาน พ.ศ. 2552 ลงวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“ข้อ 25 ห้ามมิให้ที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของผู้ถือหุ้นตามข้อ 24 หรือเป็นที่ปรึกษาทางการเงินของผู้ขอผ่อนผัน ในกรณีที่ที่ปรึกษา ทางการเงินมีความเกี่ยวข้องหรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับกิจการ ผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ หรือผู้ขอผ่อนผัน ในลักษณะเดียวกับข้อ 22 และข้อ 22/1 โดยอนุโลม ทั้งนี้ ให้ใช้คำว่า “กิจการ” “ผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์” หรือ “ผู้ขอผ่อนผัน” แทนคำว่า “ผู้ออกหรือเสนอขายหลักทรัพย์””

ข้อ 6 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของข้อ 25/1 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการให้ความเห็นชอบที่ปรึกษาทางการเงินและขอบเขต การดำเนินงาน พ.ศ. 2552 ลงวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สจ. 41/2553 เรื่อง การให้ความเห็นชอบที่ปรึกษาทางการเงินและขอบเขตการดำเนินงาน (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2553 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“ข้อ 25/1 ในกรณีเป็นการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เพื่อปรับโครงสร้างการถือหุ้นที่เป็นไปตามลักษณะดังต่อไปนี้ ที่ปรึกษาทางการเงินที่ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของผู้ถือหุ้นอาจเป็นบุคคลเดียวกับที่ปรึกษาทางการเงินในการจัดทำแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้น หรือที่ปรึกษาทางการเงินในการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ได้ โดยไม่เป็นการต้องห้ามตามข้อ 25 ประกอบกับข้อ 22 วรรคสอง (4)

(1) ผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เป็นบริษัทลงทุนที่จัดตั้งขึ้นใหม่โดยบริษัทจดทะเบียน ทั้งนี้ บริษัทลงทุนดังกล่าวต้องเป็นบริษัทมหาชนจำกัดที่ไม่มีการประกอบธุรกิจหลักของตนเอง แต่มีวัตถุประสงค์หรือสินทรัพย์หลักเป็นการถือหุ้นในบริษัทอื่น

(2) เป็นการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เพื่อเพิกถอนหุ้นของบริษัทจดทะเบียนดังกล่าวออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และ

(3) มีการกำหนดเงื่อนไขให้ต้องยกเลิกคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ หากจำนวนหุ้นที่มีผู้แสดงเจตนาขายมีจำนวนน้อยกว่าร้อยละเจ็ดสิบห้าของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทจดทะเบียน โดยได้มีการระบุเงื่อนไขดังกล่าวไว้อย่างชัดเจนในคำเสนอซื้อหลักทรัพย์”

ข้อ 7 ให้เพิ่มภาคผนวกท้ายประกาศนี้ เป็นภาคผนวกท้ายประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการให้ความเห็นชอบที่ปรึกษาทางการเงินและขอบเขตการดำเนินงาน พ.ศ. 2552 ลงวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ข้อ 8 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2562

(นายรพี สุจริตกุล)

เลขาธิการ

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

ที่มา: http://www.sec.or.th/


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ