ทริสเรทติ้งคาดการรัฐประหารจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในระยะสั้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 23, 2014 16:12 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งระบุวันนี้ว่า การบังคับใช้กฎอัยการศึกในประเทศไทยน่าจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของธุรกิจต่าง ๆ ในระยะสั้นหลังจากการประกาศบังคับใช้กฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 ได้ยกระดับมาเป็นการรัฐประหารยึดอำนาจการปกครองโดยกองทัพเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ทั้งนี้ แม้การรัฐประหารจะส่งผลกระทบในด้านลบต่อเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ในระยะยาวอาจส่งผลดีหากการรัฐประหารสามารถยุติความขัดแย้งทางการเมืองที่ยืดเยื้อมานานลงได้

ความวุ่นวายทางการเมืองที่ยืดเยื้อมานานได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ โดยธุรกิจทุกประเภทมีผลการดำเนินงานที่ค่อยๆ ถดถอยลงตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ความวุ่นวายทางการเมืองส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง การจัดทำงบประมาณภาครัฐล่าช้า โดยงบประมาณส่วนใหญ่เป็นงบประมาณสำหรับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทั้งสิ้น นอกจากนี้ บรรยากาศในการลงทุนก็สูญเสียไป โดยในไตรมาสแรกของปี 2557 การลงทุนของภาครัฐและเอกชนโดยรวมลดลงกว่า 9.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน นอกจากนี้ มูลค่าโครงการลงทุนใหม่ๆ ที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2557 ก็ลดลงไปถึง 87% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยลดลงจากประมาณ 328,500 ล้านบาทในปี 2556 เหลือเพียง 43,500 ล้านบาทในปี 2557

ในมุมมองของทริสเรทติ้งคาดว่าธุรกิจท่องเที่ยวและสายการบินจะได้รับผลกระทบมากที่สุดในระยะสั้นจากการประกาศกฎอัยการศึกและรัฐประหาร อย่างไรก็ตามธุรกิจดังกล่าวคาดว่าจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วจากความต้องการของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการให้บริการของสายการบินต้นทุนต่ำที่เป็นที่นิยมในขณะนี้ สำหรับธุรกิจบางประเภทอาจจะไม่ได้รับผลกระทบในทันทีแต่ก็น่าจะได้รับผลกระทบในไม่ช้า โดยคาดว่าธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างน่าจะได้รับผลกระทบในระยะปานกลาง ทั้งนี้ เนื่องจาก ณ สิ้นปี 2556 บริษัทหลายแห่งในธุรกิจเหล่านี้มียอดขายที่รอการรับรู้รายได้ค่อนข้างมาก ดังนั้น ผลกระทบด้านลบอาจจะเห็นชัดเจนมากขึ้นในปี 2558 เมื่อยอดขายสะสมล่วงหน้าดังกล่าวมีการทะยอยรับรู้รายได้และค่อยๆหมดไป ในส่วนของภาคธนาคารคาดว่าจะเห็นสัดส่วนของสินเชื่อด้อยคุณภาพที่เพิ่มขึ้นทั้งจากกลุ่มลูกค้ารายย่อยและกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2557 สัดส่วนของสินเชื่อด้อยคุณภาพเทียบกับสินเชื่อทั้งหมดของธนาคาร 11 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 3.02% จาก 2.88% ณ สิ้นปี 2556 อย่างไรก็ดี ทริสเรทติ้งเชื่อว่าธนาคารเหล่านี้มีการคงปริมาณสำรองเพียงพอที่จะรองรับความสูญเสียที่เกิดจากคุณภาพสินทรัพย์ที่ด้อยลง โดย ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2557 ปริมาณสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญโดยรวมของธนาคารทั้ง 11 แห่งคิดเป็น 133% ของสินเชื่อด้อยคุณภาพ

อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยน่าจะช้ากว่าช่วงหลังการรัฐประหารเมื่อปี 2549 ทั้งนี้ เนื่องจากภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงกว่าในอดีตค่อนข้างมาก โดยสัดส่วนหนี้ภาคครัวเรือนเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ณ สิ้นปี 2556 สูงถึง 82.3% จากที่ระดับ 47.6% ในปี 2549 นอกจากนี้ การจัดทำงบประมาณภาครัฐก็มีความล่าช้ากว่ามากจากการที่ประเทศไม่มีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มบริหารงานมาเป็นเวลานาน รวมถึงการส่งออกที่มีแนวโน้มจะเติบโตในอัตราที่น้อยกว่าในช่วงปี 2549 โดยมูลค่าการส่งออกในไตรมาสแรกของปี 2557 หดตัวลง 0.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติคาดว่าการส่งออกในปีนี้น่าจะเติบโตเพียง 3.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าในขณะที่ในปี 2549 การส่งออกเติบโตถึง 17% -- จบ

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2557  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ