ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ ธนาคารเมกะ สากลพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “AA+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ อันดับเครดิตถูกปรับเพิ่มขึ้นจากอันดับเครดิตเฉพาะของธนาคารซึ่งสะท้อนถึงสถานะความเป็นบริษัทย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของ Mega International Commercial Bank (Mega ICBC-Taiwan) อันดับเครดิตเฉพาะของธนาคารสะท้อนเงินกองทุนที่แข็งแกร่งอย่างมาก ตลอดจนระบบบริหารความเสี่ยงที่เพียงพอ และความได้เปรียบในกลุ่มสินเชื่อสำหรับนักลงทุนไต้หวัน อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตมีข้อจำกัดจากส่วนแบ่งทางการตลาดที่มีขนาดเล็กทั้งในส่วนของสินเชื่อและเงินรับฝาก ตลอดจนเครือข่ายในประเทศที่มีจำกัด และความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของสินเชื่อและเงินรับฝาก ทั้งนี้ ด้วยปริมาณการลงทุนที่มีอย่างจำกัดของบริษัทสัญชาติไต้หวันในประเทศไทยและการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของธนาคาร
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนการคาดการณ์ว่าธนาคารจะยังคงสถานะความเป็นบริษัทย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของ Mega ICBC-Taiwan และยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากธนาคารแม่ต่อไป
อันดับเครดิต และ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคารอาจได้รับผลกระทบในกรณีที่สถานะทางเครดิตของ Mega ICBC-Taiwan มีการเปลี่ยนแปลง หรือมุมมองต่อระดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของธนาคารที่มีต่อกลุ่ม Mega ICBC เปลี่ยนแปลงไป
ธนาคารเมกะ สากลพาณิชย์ เป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นทั้งหมดโดย Mega ICBC-Taiwan ทั้งนี้ Mega ICBC-Taiwan เป็นผู้นำทั้งในธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Foreign Exchange) และธุรกิจธนาคารในต่างประเทศ (Offshore Banking) ของไต้หวัน โดยได้รับอันดับเครดิตจาก Moody’s Investors Service ที่ระดับ “A1” และจาก Standard and Poor’s ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่”
ธนาคารเมกะ สากลพาณิชย์ เริ่มดำเนินธุรกิจในกรุงเทพฯ ในสถานะสาขาของธนาคารต่างประเทศมาตั้งแต่ปี 2490 และได้ยกระดับขึ้นเป็นธนาคารพาณิชย์ที่เป็นบริษัทลูกของธนาคารต่างประเทศในปี 2548 ธนาคารเน้นการให้บริการในตลาดเฉพาะกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มลูกค้าชาวไต้หวันและกลุ่มลูกค้าที่เกี่ยวข้องซึ่งดำเนินกิจการในประเทศไทย ธนาคารอาศัยแฟรนไชส์รวมทั้งชื่อเสียงที่แข็งแกร่งของธนาคารแม่เพื่อขยายธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย ทั้งนี้ ฐานลูกค้าชาวไต้หวันของธนาคารเป็นผลมาจากการมีสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างธนาคารแม่กับบริษัทสัญชาติไต้หวันที่เข้ามาลงทุนหรือเปิดบริษัทย่อยในประเทศไทย นอกจากนี้ วงเงินสินเชื่อที่ได้รับจากธนาคารแม่ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงินให้แก่ธนาคารอีกด้วย
ณ สิ้นปี 2558 ธนาคารเมกะ สากลพาณิชย์ มีสินทรัพย์ที่เกือบจะเล็กที่สุดในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดของสินเชื่อ 0.1% และเงินรับฝาก 0.1% ธนาคารมีประเภทธุรกิจที่ให้บริการค่อนข้างน้อยและมีเครือข่ายที่จำกัดกว่าธนาคารอื่น โดยธนาคารนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินผ่านสำนักงานใหญ่และสาขาเพียง 4 สาขาเท่านั้น
พอร์ตสินเชื่อของธนาคารหดตัวลงและคุณภาพสินเชื่อด้อยลงเป็นผลจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับ ณ เดือนธันวาคม 2558 มีทั้งสิ้น 15.1 พันล้านบาท ลดลง 9% จากปีก่อน คุณภาพสินเชื่อของธนาคารด้อยลงโดยสะท้อนจากการมีอัตราก่อตัวของสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่เพิ่มขึ้นในปี 2558 ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2558 สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 308 ล้านบาท เทียบกับ 172 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2557 อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นเป็น 2.04% แต่ยังคงเป็นระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม และแม้ว่าสินเชื่อด้อยคุณภาพจะเพิ่มขึ้น แต่น่าจะยังสามารถควบคุมและบริหารจัดการได้ นอกจากนี้ ปริมาณสำรองหนี้สงสัยจะสูญส่วนเกินของธนาคารลดลงแต่ยังคงเพียงพอต่อความเสียหายของพอร์ตสินเชื่อในอนาคต ณ สิ้นปี 2558 ธนาคารมีปริมาณสำรองคิดเป็น 187% ของสำรองพึงกัน เทียบกับ 239% ณ เดือนธันวาคม 2554 โดยอัตราส่วนของธนาคารยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 162%
พอร์ตสินเชื่อของธนาคารมีการกระจุกตัวเนื่องจากประเภทธุรกิจและสถานที่ตั้งของลูกค้ายังมีการกระจายตัวไม่มากนัก อีกทั้งธนาคารยังมีสินเชื่อที่ให้แก่กลุ่มลูกค้าชาวไต้หวันในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูงและมีกลุ่มลูกหนี้รายใหญ่จำนวนมาก ซึ่งคุณภาพสินทรัพย์และเงินกองทุนของธนาคารอาจลดลงได้หากสินเชื่อเหล่านั้นกลายเป็นสินเชื่อที่ประสบปัญหา
โครงสร้างแหล่งเงินทุนของธนาคาร ณ สิ้นปี 2558 ประกอบด้วย เงินรับฝาก (46% ของเงินทุนรวม) ส่วนของผู้ถือหุ้น (27%) และเงินกู้ยืมระหว่างธนาคารและตลาดเงิน (27%) นอกจากเงินรับฝากแล้ว ธนาคารยังมีแหล่งเงินทุนสกุลเงินตราต่างประเทศซึ่งรับจากสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องกันในต่างประเทศด้วย โดยธนาคารจะได้นำไปใช้สำหรับอำนวยสินเชื่อสกุลเงินตราต่างประเทศต่อไป ธนาคารมีความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของเงินรับฝากเนื่องจากลูกค้าเงินฝากส่วนใหญ่เป็นบริษัทสัญชาติไต้หวันขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม คาดว่าธนาคารน่าจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารแม่ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่องลงได้
ธนาคารมีกำไรสุทธิในปี 2558 จำนวน 278 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อน และมีอัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ย 1.42% ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม ฐานเงินทุนของธนาคารมีความแข็งแกร่งอย่างมาก โดย ณ สิ้นปีมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงเท่ากับ 26.42% ซึ่งมากกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำและเพียงพอต่อการเติบโตในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 ? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2559 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html