ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “ธ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์” ที่ “A-” และหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน ที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ที่ “BBB” ยกเลิก “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม “Positive” และแทนที่ด้วยแน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 4, 2017 18:00 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นทั้งหมดโดย บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A-” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของธนาคารที่ระดับ “BBB” ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังยกเลิกเครดิตพินิจแนวโน้ม “Positive” หรือ “บวก” ของธนาคารแล้วเปลี่ยนเป็นแนวโน้มอันดับเครดิต “Positive” หรือ “บวก” แทนเพื่อสะท้อนสถานะทุนของธนาคารที่แข็งแกร่งขึ้น รวมถึงโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต และแนวโน้มสถานะทางธุรกิจที่ดีขึ้นจากการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับ CTBC Bank Co., Ltd. (CTBC Bank) จากไต้หวัน ทั้งนี้ อันดับเครดิตองค์กรสะท้อนถึงสถานะทางธุรกิจและการเงินของ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กที่มีคุณภาพสินทรัพย์แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตมีข้อจำกัดจากการที่ธนาคารมีส่วนแบ่งทางการตลาดของสินเชื่อและเงินฝากที่ค่อนข้างเล็ก ตลอดจนลักษณะของผลประกอบการที่ขาดแหล่งรายได้สำคัญที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย การกระจุกตัวของกลุ่มลูกค้าเงินกู้รายใหญ่ และโครงสร้างเงินทุนที่อ่อนแอ

การลงทุนเชิงกลยุทธ์ของ CTBC Bank เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 ด้วยสัดส่วนการถือหุ้น 35.6% ใน บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป ส่งผลให้ CTBC Bank เป็นหุ้นส่วนที่เท่าเทียมกันกับกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นจากกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ประกอบด้วย บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการถือหุ้นรวมของทั้งสองบริษัทใน บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป ลดลงเหลือ 35.6% หลังจากการลงทุนของ CTBC Bank

CTBC Bank เป็นธนาคารซึ่งเป็นบริษัทลูกของ CTBC Financial Holding Co., Ltd. (CTBC FHC) CTBC FHC เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ในไต้หวันซึ่งมีมูลค่าสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 4,839 พันล้านดอลล่าร์ไต้หวัน ณ สิ้นปี 2559 บริษัทลูกที่สำคัญอื่น ๆ ภายใต้ CTBC FHC ประกอบด้วยบริษัทที่ดำเนินธุรกิจประกันชีวิต (Life Insurance) ธุรกิจหลักทรัพย์ (Securities) ธุรกิจร่วมลงทุน (Venture Capital) และธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (Asset Management) CTBC Bank มีสถานะที่แข็งแกร่งในธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) และธุรกิจบัตรเครดิต (Credit Card Services) อีกทั้งยังมีความเข้มแข็งในธุรกิจสินเชื่อสำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจซึ่งประกอบไปด้วยบริการธุรกรรมระหว่างประเทศ (Trade Finance) บริการบริหารการเงิน (Treasury Services) บริการด้านธุรกรรมธนาคาร (Transaction Banking) และบริการทางการเงินต่างประเทศ (Offshore Finances) CTBC Bank ได้รับการจัดอันดับเครดิตจาก S&P Global Ratings ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” และจาก Moody’s Investors Service (Moody’s) ที่ระดับ “A2” ด้วยแนวโน้ม “Stable หรือ “คงที่

อันดับเครดิตของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ สะท้อนถึงสถานะในการเป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ของไทย ณ วันสิ้นงวดครึ่งแรกของปี 2560 มูลค่าสินทรัพย์รวมของธนาคารที่ระดับ 214,668 ล้านบาทนั้นถือว่ามีขนาดเล็กที่สุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยทั้ง 11 แห่งที่มีหุ้นซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดทั้งสินเชื่อและเงินฝากเท่ากันที่ 1.3% อัตราการเติบโตของสินเชื่อและเงินฝากของธนาคารในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม ณ สิ้นงวดครึ่งแรกของปี 2560 สินเชื่อและเงินฝากของธนาคารขยายตัวแบบปีต่อปีที่ระดับ 4% และ 10.8% ตามลำดับ แม้ว่าอัตราการเติบโตจะอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง แต่ธุรกิจของธนาคารยังค่อนข้างจำกัดอยู่เฉพาะในส่วนของการปล่อยสินเชื่อให้แก่กลุ่มลูกค้าธุรกิจเท่านั้น การที่ธนาคารขาดธุรกิจที่สร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมที่สำคัญบ่งบอกถึงการพึ่งพิงธุรกิจการปล่อยสินเชื่อในระดับสูงเมื่อเทียบกับกลุ่มธนาคาร สัดส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิของธนาคารอยู่ที่ 85.4% ของรายได้รวมในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 62.2% ในช่วงเวลาเดียวกัน ในขณะที่สัดส่วนรายได้จากค่าธรรมเนียมสุทธิของธนาคารอยู่ที่ระดับเพียง 5.4% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2560

ทริสเรทติ้งคาดว่าการถือหุ้นของ CTBC Bank จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่สถานะธุรกิจของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ได้ โดยจะมีบุคลากรของ CTBC Bank เข้ามามีส่วนร่วมทั้งในระดับคณะกรรมการและระดับบริหารของ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป และ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ในระยะสั้น CTBC Bank จะสามารถช่วยธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ขยายฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจที่เป็นของชาวไต้หวันในประเทศไทยซึ่งอาจเริ่มจากการมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์เงินฝาก แต่การจะสร้างฐานธุรกิจจากฐานลูกค้าในกลุ่มสำคัญนี้ให้สำเร็จได้นั้นธนาคารจำเป็นจะต้องนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความครอบคลุมให้มากขึ้น โดยเฉพาะบริการธุรกรรมระหว่างประเทศและบริการด้านธุรกรรมธนาคาร อย่างไรก็ตาม การริเริ่มใหม่ ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับการมีแนวร่วมเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการขยายฐานลูกค้านั้นเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลา

สถานะเงินทุนของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากเงินเพิ่มทุนจำนวน 16,599 ล้านบาทจาก CTBC Bank ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2560 ทริสเรทติ้งมองว่าฐานเงินทุนที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้นนั้นเพียงพอต่อการรองรับการขยายธุรกิจของธนาคารในช่วงสองถึงสามปีข้างหน้า โดยประมาณการอัตราส่วนการดำรงเงินกองทุนตามหลัก Basel-III ของธนาคารจะอยู่ที่ระดับ 22% ณ สิ้นปี 2560 ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นจาก 13.76% ณ วันสิ้นงวดครึ่งแรกของปี 2560 สัดส่วนเงินทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ (Core Equity Tier-1) ต่อเงินกองทุนรวมคาดว่าจะเพิ่มสูงกว่า 85% จาก 74.7% อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าธนาคารจะไม่คงอัตราส่วนการดำรงเงินกองทุนที่ระดับสูงเช่นนี้ในอนาคต อัตราส่วนการดำรงเงินกองทุนของธนาคารคาดว่าจะค่อย ๆ ลดลงจากการขยายสินเชื่อซึ่งดำเนินการตามแผนธุรกิจใหม่ร่วมกับ CTBC Bank

ความสามารถในการทำกำไรของธนาคารในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของกลุ่ม แม้ว่าธนาคารจะมีธุรกิจสินเชื่อที่ให้ส่วนต่างของดอกเบี้ยน้อยและมีต้นทุนทางการเงินที่สูง แต่อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยยังอยู่ในระดับ 1.2% ในปี 2559 และ 0.62% ในครึ่งแรกของปี 2560 ธนาคารมีต้นทุนทางเครดิตที่ต่ำ แม้ว่าการเสื่อมถอยลงของคุณภาพสินทรัพย์จะส่งผลให้สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2.21% ณ วันสิ้นงวดครึ่งแรกของปี 2560 จากระดับ 1.9% ในเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา แต่ธนาคารก็ยังมีอัตราการสูญเสียทางเครดิตที่ดีกว่ากลุ่ม ในระหว่างปี 2555 จนถึงปี 2559 ต้นทุนทางเครดิตเฉลี่ยของธนาคารอยู่ที่ระดับ 0.6% เทียบกับ 1.3% ของกลุ่ม องค์ประกอบสำคัญประการหนึ่งที่มีผลต่อผลประกอบการของธนาคารในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคือผลกำไรจากเงินลงทุนในตราสารหนี้ เนื่องจากผลตอบแทนจากการลงทุนในหลักทรัพย์มีความผันผวนตามสภาวะของตลาด ธนาคารจึงอาจจะไม่สามารถดำรงผลตอบแทนจากเงินลงทุนดังกล่าวอย่างต่อเนื่องได้ในระยะยาว

ผลประกอบการและความสามารถในการทำกำไรของธนาคารเกี่ยวข้องอย่างมากกับสถานะในการตั้งสำรองหนี้สูญซึ่งบ่งชี้โดยสัดส่วนปริมาณสำรองหนี้สงสัยจะสูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ การตั้งสำรองในระดับสูงรวมทั้งการขายและการตัดหนี้สูญของหนี้ด้อยคุณภาพในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาได้ส่งผลให้สัดส่วนปริมาณสำรองหนี้สงสัยจะสูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารเพิ่มสูงขึ้นในปี 2558 และปี 2559 โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 84.5% ณ สิ้นปี 2557 มาอยู่ที่ระดับ 105.5%

ณ วันสิ้นงวดครึ่งแรกของปี 2560 สถานะสำรองส่วนเกินของธนาคาร (ปริมาณสำรองหนี้สงสัยจะสูญต่อสำรองพึงกันตามเกณฑ์ของทางการ) ก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน โดยเพิ่มจาก 164% เป็น 198%

ธนาคารมีความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์ไทยขนาดกลางและขนาดเล็กอื่น ๆ ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตโดยทริสเรทติ้ง กลุ่มลูกค้าที่มีส่วนแบ่งของสินเชื่อและแหล่งเงินฝากรวมของธนาคารมีสัดส่วนที่สูงซึ่งสะท้อนถึงธุรกิจของธนาคารที่มุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อให้แก่กลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และการขาดฐานเงินฝากจากลูกค้ารายย่อยที่กระจายตัว

ทริสเรทติ้งประเมินโครงสร้างเงินทุนของธนาคารให้อยู่ในระดับอ่อนแอเนื่องจากธนาคารมีการพึ่งพิงแหล่งเงินทุนจากสถาบันในระดับสูง รวมทั้งมีฐานเงินฝากที่จำกัด และมีการกระจุกตัวของกลุ่มฐานลูกค้าเงินฝากขนาดใหญ่ การมีสัดส่วนเงินกู้ยืมระหว่างธนาคารและเงินกู้ยืมต่อแหล่งเงินทุนในระดับสูงบ่งชี้ถึงการพึ่งพิงแหล่งเงินทุนจากสถาบันเป็นอย่างมาก โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2560 สัดส่วนเงินกู้ยืมของธนาคารอยู่ที่ระดับ 22% ของแหล่งเงินทุนซึ่งรวมส่วนของผู้ถือหุ้น เงินทุนจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์บัญชีปัจจุบัน (Current Account-Savings Account -- CASA) ซึ่งโดยทั่วไปเป็นแหล่งเงินทุนที่มั่นคงและมีต้นทุนต่ำที่สุดมีสัดส่วน 45.7% ของเงินฝากซึ่งรวมตั๋วแลกเงิน ณ วันสิ้นงวดครึ่งแรกของปี 2560 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม อย่างไรก็ตาม เงินฝากส่วนใหญ่มาจากเงินฝากออมทรัพย์ประเภทพิเศษที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป ลูกค้าเงินฝากขนาดใหญ่ส่วนใหญ่ของธนาคารเป็นลูกค้าองค์กรซึ่งทริสเรทติ้งถือว่าเป็นแหล่งเงินทุนจากสถาบันอีกประเภทหนึ่ง

สถานะสภาพคล่องของธนาคารอยู่ในระดับที่เพียงพอและสอดคล้องกับอุตสาหกรรม สัดส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องต่อสินทรัพย์รวมและต่อเงินฝากรวมตั๋วแลกเงินอยู่ที่ระดับ 32.6% และ 39.3% ตามลำดับ ณ วันสิ้นงวดครึ่งแรกของปี 2560 ซึ่งเทียบเคียงได้กับธนาคารพาณิชย์ไทยอื่น ๆ ในขณะที่สัดส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องสำหรับใช้รองรับสถานการณ์ด้านสภาพคล่องที่มีความรุนแรง (Liquidity Coverage Ratio) นั้นก็อยู่ในระดับสูงกว่าเกณฑ์

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ซึ่งมีความร่วมมือทางธุรกิจเชิงกลยุทธ์กับ CTBC Bank จะสามารถนำความชำนาญของ CTBC Bank มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงมุมมองของทริสเรทติ้งว่าธนาคารจะสามารถขยายฐานลูกค้า ตลอดจนเพิ่มสัดส่วนรายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการ และ/หรือลดการกระจุกตัวของสินเชื่อและเงินฝากได้เช่นเดียวกัน การเพิ่มอันดับเครดิตจะขึ้นอยู่กับผลสำเร็จของพัฒนาการดังกล่าว ในขณะที่การลดอันดับเครดิตสามารถเกิดขึ้นได้จากการเสื่อมถอยลงอย่างรุนแรงของคุณภาพสินทรัพย์และผลการดำเนินงานของธนาคาร

อันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามหลักเกณฑ์ Basel III

อันดับเครดิต “BBB” สำหรับหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 (LHBANK255A) สะท้อนความเสี่ยงในการด้อยสิทธิและความเสี่ยงในการไม่ชำระหนี้ตามเงื่อนไขการรองรับผลขาดทุนเมื่อธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ตราสารดังกล่าวมีคุณสมบัติที่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ Basel III และสามารถนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตราสารประเภทนี้มีลักษณะด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ไม่สามารถเลื่อนชำระดอกเบี้ย และไม่สามารถแปลงสภาพได้ ธนาคารสามารถไถ่ถอนตราสารคืนทั้งจำนวนก่อนวันครบกำหนดได้หากวันไถ่ถอนมีระยะเวลาอย่างน้อย 5 ปีนับจากวันที่ออกตราสารและได้รับความเห็นชอบจาก ธปท. ผู้ถือตราสารประเภทนี้มีสิทธิที่ด้อยกว่าผู้ฝากเงินและผู้ถือหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของธนาคาร ทั้งนี้ ตราสารดังกล่าวจะถูกตัดเป็นหนี้สูญได้ในกรณีที่หน่วยงานกำกับดูแลเห็นว่าธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้

Land and Houses Bank PLC (LH BANK)
อันดับเครดิตองค์กร A-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
LHBANK255A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 BBB
แนวโน้มอันดับเครดิต: Positive
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2560 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ