ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กร “บริษัทเงินทุน ศรีสวัสดิ์” ที่ “BBB” ด้วยแนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 10, 2018 18:10 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กรให้แก่ บริษัทเงินทุน ศรีสวัสดิ์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB” โดยอันดับเครดิตสะท้อนสถานะของบริษัทในการเป็นสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังมีปัจจัยสนับสนุนจากโอกาสในการเติบโตที่ดีและความสามารถในการทำกำไรของบริษัทที่ปรับตัวดีขึ้นด้วย อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงสภาพคล่องที่เพียงพอและความยืดหยุ่นทางการเงินที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการที่บริษัทสามารถรับเงินฝากได้ซึ่งจะช่วยให้บริษัทมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลงในขณะที่คู่แข่งหลายรายไม่สามารถทำได้

อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตก็มีข้อจำกัดจากการแข่งขันที่รุนแรงและความเสี่ยงด้านเครดิตที่อยู่ในระดับสูงเนื่องจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทเป็นกลุ่มที่มีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ บริษัทจำเป็นต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ความสามารถในการขยายพอร์ตสินเชื่อ รวมทั้งดำรงคุณภาพสินเชื่อ และสร้างผลประกอบการทางการเงินในระดับที่น่าพอใจต่อไป

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

ความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น

ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทดีขึ้นอย่างชัดเจนหลังจากที่ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ซื้อเงินลงทุนส่วนใหญ่ในบริษัท ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มศรีสวัสดิ์ โดยหลังจากการเข้าครอบครองกิจการดังกล่าวแล้ว บริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น ก็ทำหน้าที่เป็นผู้พิจารณาสินเชื่อ ในขณะที่สินเชื่อบางส่วนจะมีการบันทึกที่บริษัท

อัตราผลตอบแทนจากเงินให้สินเชื่อและความสามารถในการทำกำไรของบริษัทดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญภายหลังการปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยบริษัทมีอัตราผลตอบแทนจากเงินให้สินเชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 9.4% ในปี 2560 และ 16.4% ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2561 (ปรับเป็นตัวเลขเต็มปี) จาก 6.8% ในปี 2559 และส่งผลให้กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 235 ล้านบาทในปี 2560 หรือเพิ่มขึ้น 82.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2561 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 107 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 265.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยก็เพิ่มขึ้นเป็น 2.8% ในปี 2560 จาก 2.4% ในปี 2559 อัตราส่วนดังกล่าวเพิ่มเป็น 3.5% ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2561 (ปรับเป็นตัวเลขเต็มปี)

ใช้เครือข่ายสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศของบริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น บริษัทปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลแบบมีหลักประกันผ่านการใช้เครือข่ายสาขาของบริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น เครือข่ายสาขาที่ครอบคลุมนี้เป็นประโยชน์ทั้งต่อบริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่นและบริษัทเนื่องจากช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ง่ายขึ้น บริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น มีพนักงานพิจารณาสินเชื่อที่มีประสบการณ์ซึ่งช่วยสนับสนุนบริษัทได้ พอร์ตสินเชื่อของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 9,372 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2560 และอยู่ที่ 11,616 ล้านบาท ณ เดือนมีนาคม 2561 จาก 1,904 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2559

สินเชื่อคงค้างของบริษัทเกือบทั้งหมด (87%) เป็นสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีหลักประกันเป็นยานพาหนะและอสังหาริมทรัพย์ ส่วนที่เหลือเป็นสินเชื่อซึ่งพิจารณาโดยบริษัทตั้งแต่ก่อนมีการครอบครองกิจการ โดยสินเชื่อส่วนบุคคลซึ่งค้ำประกันโดยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของพนักงานบริษัทเอกชนคิดเป็นสัดส่วน 10.0% ของทั้งพอร์ต และสินเชื่อที่ปล่อยให้แก่ลูกค้าที่เป็นบริษัทเอกชนคิดเป็น 3.0%

มีสภาพคล่องและความยืดหยุ่นทางการเงินที่เพียงพอ

บริษัทมีการใช้แหล่งเงินทุนระยะยาวเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งได้แก่ เงินฝากระยะยาวและเงินกู้ยืมจากบริษัทศรีสวัสดิ์

คอร์ปอเรชั่น ทั้งนี้ ณ เดือนมีนาคม 2561 บริษัทมีเงินฝากระยะยาวจำนวน 1,213 ล้านบาทและมีเงินกู้ยืมระยะยาวจำนวน 4,506 ล้านบาท

สัดส่วนของแหล่งเงินทุนของบริษัทเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ โดยเงินฝากระยะสั้นเคยเป็นแหล่งเงินทุนเพียงแหล่งเดียวของบริษัทในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันเงินฝากระยะสั้นลดลงอยู่ที่ระดับ 57.0% ของหนี้สินรวม ณ สิ้นปี 2560 และอยู่ที่ระดับ 45.0% ณ เดือนมีนาคม 2561

ความยืดหยุ่นทางการเงินของบริษัทมีความแข็งแรงมากกว่าของคู่แข่ง การมีสถานะเป็นบริษัทเงินทุนทำให้บริษัทสามารถให้บริการรับฝากเงินได้ อีกทั้งการครอบครองกิจการยังเสริมให้บริษัทมีความยืดหยุ่นทางการเงินเพิ่มขึ้นอีกด้วย ปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นไปพร้อมกับพอร์ตสินเชื่อที่ขยายตัว นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถพึ่งพาวงเงินสินเชื่อจากบริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น ได้ในกรณีที่จำเป็นอีกด้วย

คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นแต่ยังไม่ผ่านการพิสูจน์

คุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทที่ปรับตัวดีขึ้นในช่วงหลังถือว่ายังไม่แน่นอน อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (สินเชื่อที่ค้างชำระเกินกว่า 90 วัน) ต่อสินเชื่อรวมของบริษัทลดลงอย่างมีนัยสำคัญหลังจากที่บริษัทเริ่มปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลแบบมีหลักประกันเพิ่มมากขึ้น โดยอัตราส่วนดังกล่าวลดลงอยู่ที่ระดับ 2.8% ณ สิ้นปี 2560 จาก 17.8% ณ สิ้นปี 2559 อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 3.3% ณ เดือนมีนาคม 2561 โดยสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของบริษัทส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อสำหรับลูกค้าที่เป็นบริษัทเอกชนซึ่งบริษัทได้ชะลอการปล่อยสินเชื่อดังกล่าวลงตลอด 5 ปีที่ผ่านมา อนึ่ง อันดับเครดิตของบริษัทอยู่บนพื้นฐานความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถควบคุมพอร์ตสินเชื่อขนาดใหญ่และดำรงคุณภาพสินเชื่อเอาไว้ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” อยู่บนพื้นฐานความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถขยายพอร์ตสินเชื่อ ตลอดจนปรับปรุงความสามารถในการทำกำไร และดำรงสภาพคล่องให้อยู่ในระดับที่เพียงพอ รวมถึงสามารถควบคุมคุณภาพสินเชื่อให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

การปรับเพิ่มอันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจเกิดขึ้นได้ในกรณีที่พอร์ตสินเชื่อของบริษัทมีการขยายอย่างต่อเนื่อง ความสามารถในการทำกำไรและการก่อหนี้ปรับตัวดีขึ้น และคุณภาพสินทรัพย์ดำรงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจลดลงได้ในกรณีที่คุณภาพสินทรัพย์และสถานะทางการแข่งขันของบริษัทถดถอยลงอย่างมีนัยสำคัญ

บริษัทเงินทุน ศรีสวัสดิ์ จำกัด (มหาชน) (BFIT)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2561 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ