ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน “บ. สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์” ที่ “BBB+” หุ้นกู้มีการค้ำประกันบางส่วน (85%) ที่ “A+” หุ้นกู้มีการค้ำประกันบางส่วน (70%) ที่

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 12, 2019 14:40 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันที่ “BBB+” ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งได้คงอันดับเครดิตที่ระดับ “A” สำหรับหุ้นกู้มีการค้ำประกันในสัดส่วน 70% และที่ระดับ “A+” สำหรับหุ้นกู้มีการค้ำประกันในสัดส่วน 85% โดยหุ้นกู้ได้รับการค้ำประกันบางส่วนจาก Credit Guarantee and Investment Facility (CGIF) ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ “AAA” จากทริสเรทติ้ง

อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงตำแหน่งทางการตลาดของบริษัทที่เข้มแข็งในประเทศไทย การมีเครือข่ายกระจายสินค้าที่แข็งแกร่ง และฐานลูกค้าที่กระจายในแต่ละภูมิภาค อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตถูกลดทอนบางส่วนจากความต้องการในประเทศที่ยังคงอ่อนตัว ความอ่อนไหวต่อความเสี่ยงด้านราคาก๊าซ LPG (Liquefied Petroleum Gas) ที่สูงจากการดำเนินกิจการในต่างประเทศ รวมไปถึงโครงสร้างหนี้สินที่กำลังจะสูงขึ้นอีกด้วย

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

ตำแหน่งทางการตลาดที่แข็งแกร่ง

บริษัทยังคงสามารถรักษาตำแหน่งในฐานะผู้จัดจำหน่าย LPG รายใหญ่อันดับ 2 ของประเทศไทยไว้ได้ ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทค่อนข้างคงที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 24.6% ในปี 2561 ตามหลังผู้นำตลาด หรือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 41.1%

ทั้งนี้ ความต้องการของตลาดในประเทศไทยหดตัวเป็นเวลาหลายปี โดยมีสาเหตุหลักจากการลดลงของความต้องการบริโภค LPG ในภาครถยนต์เป็นหลัก ในส่วนของภาคก๊าซหุงต้มซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับ LPG นั้น ค่อนข้างคงที่ ในขณะที่การใช้งานในภาคอุตสาหกรรมมีการเติบโตไม่มากนัก

จากความต้องการในประเทศที่อ่อนตัว บริษัทจึงมุ่งเน้นการขยายธุรกิจในต่างประเทศมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ธุรกิจหลักในประเทศนั้นยังคงเป็นแหล่งกำไรที่มั่นคง เนื่องจากเป็นตลาดที่มีการควบคุม ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันได้ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจาก ขนาดธุรกิจที่ใหญ่ ชื่อเสียงของตราสินค้าที่มีมายาวนาน การครอบคลุมตลาดทั่วประเทศ รวมถึงเครือข่ายโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่งอีกด้วย ธุรกิจค้า LPG ในประเทศจะเป็นปัจจัยที่ช่วยลดผลกระทบต่อความผันผวนของกระแสเงินสดจากธุรกิจค้าก๊าซในต่างประเทศได้

โครงข่ายกระจายสินค้าที่แข็งแกร่ง

ทริสเรทติ้งมองว่าข้อได้เปรียบที่สำคัญของบริษัทที่เหนือคู่แข่งนั้นคือโครงข่ายจัดจำหน่ายสินค้าของบริษัท สำหรับในประเทศไทย บริษัทมีคลังเก็บก๊าซ LPG ขนาดใหญ่จำนวน 8 แห่ง โรงบรรจุน้ำมันและสถานีบริการก๊าซที่ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงรถและเรือขนส่ง LPG จำนวนมาก สำหรับในต่างประเทศ บริษัทมีคลังเก็บสินค้าขนาดใหญ่ 2 แห่งในประเทศจีน คลังเก็บ LPG ลอยน้ำในประเทศสิงคโปร์ และกองเรือขนส่ง LPG อีกด้วย

บริษัทได้รับประโยชน์จากสินทรัพย์หลักเหล่านี้จากต้นทุนการขนส่งที่ลดลง รวมถึงความสามารถในการจำหน่ายสินค้าทั่วประเทศอย่างมีเสถียรภาพ สินทรัพย์ที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทยนั้น ยังช่วยทำให้บริษัทสามารถนำเข้า LPG เข้ามาในประเทศไทย และสามารถขนส่ง LPG ได้ทั่วบริเวณเอเชียตะวันออกได้อีกด้วย ทั้งนี้ คู่แข่งของบริษัทไม่น่าจะสร้างความสามารถดังกล่าวได้ในระยะเวลาอันใกล้เนื่องจากต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก

ธุรกิจค้าก๊าซในต่างประเทศยังเป็นปัจจัยเติบโตที่สำคัญ

ธุรกิจค้าก๊าซในต่างประเทศยังคงเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และสามารถชดเชยการหดตัวของความต้องการในประเทศไทยได้ โดยยอดขายรวมของบริษัทนั้นยังคงเติบโตประมาณ 7.6% เป็น 3.43 ล้านตันในปี 2561 โดยเป็นการเติบโตติดกันเป็นปีที่ 4

ธุรกิจในต่างประเทศของบริษัทยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญ โดยยอดขายในต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 2.42 ล้านตันในปี 2561 หรือคิดเป็นเติบโต 12.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยสาเหตุหลักมาจากความสำเร็จในการเปิดตลาดในประเทศบังคลาเทศ เมื่อเทียบกับอดีต ยอดขายในต่างประเทศเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจาก 1.3 ล้านตันในปี 2557 ในทางตรงกันข้ามยอดขายในประเทศนั้นค่อย ๆ หดตัวเหลือ 1.01 ล้านตันในปี 2561 จาก 1.14 ล้านตันในปี 2557

ตลาดในประเทศจีนยังคงเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัท โดยมียอดขายคิดเป็นประมาณ 37% ของยอดขายทั้งหมด ในไตรมาสแรกของปี 2562 นั้น ยอดขายในต่างประเทศยังคงเพิ่มขึ้นเป็น 716,000 ตัน เติบโตประมาณ 30.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่งผลให้ยอดขายรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 962,000 ตันหรือเติบโตถึง 19% เมื่อเทียบกับปีก่อน

?

ความอ่อนไหวต่อความเสี่ยงด้านราคาก๊าซในตลาดต่างประเทศ

บริษัทยังต้องเผชิญความเสี่ยงด้านราคาที่สูงของ LPG จากตลาดต่างประเทศถึงแม้ว่าตลาดต่างประเทศจะช่วยเกื้อหนุนบริษัทให้เติบโตได้ในอนาคต ทั้งนี้ กำไรของบริษัทนั้นอาจผันผวนอย่างมากในแต่ละไตรมาสหากราคา LPG ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว ในปี 2561 ยอดขายของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 68,500 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 7.4% จากปีก่อนหน้า แต่ทว่า ผลกำไรและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทนั้นกลับลดลงต่ำกว่าที่ทริสเรทติ้งคาดการณ์ไว้ เนื่องจากการลดลงอย่างรวดเร็วของราคา LPG ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2561 ส่งผลให้เงินทุนจากการดำเนินงานลดลงอย่างมากเหลือเพียง 1,840 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 4,100 ล้านในปี 2560 และ 2,400 ล้านบาทในปี 2559

ทริสเรทติ้งมองว่าผลกระทบจากความเสี่ยงจากราคาก๊าซต่อบริษัทนั้นน่าจะเพิ่มขึ้นในระยะกลาง จากแผนการขยายตัวไปยังต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง และความเป็นไปได้ของการเปิดตลาดเสรีของ LPG ในประเทศไทย ความผันผวนของกำไรของบริษัทถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งแรงกดดันต่ออันดับเครดิตของบริษัท ถึงแม้ว่าความเสี่ยงดังกล่าวจะถูกชดเชยจากตลาดในประเทศที่มีการควบคุมและรายได้ที่มั่นคงจากการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าแล้วก็ตาม

โครงสร้างหนี้สินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการลงทุนครั้งใหม่

ปัจจุบันบริษัทกำลังพยายามที่จะขยายไปสู่ธุรกิจการค้าก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquefied Natural Gas -- LNG) อันเนื่องมาจากแนวโน้มของการขาดแคลนอุปทานของ LNG ในประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างท่าเรือและคลังเก็บก๊าซเพื่อใช้ในการนำเข้า LNG เข้ามาในประเทศไทย โดยในเบื้องต้น มูลค่าในการก่อสร้างนั้นคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาทและน่าจะเริ่มการก่อสร้างได้ในปี 2563 หรือหลังจากนั้น

จากผลของการลงทุนขนาดใหญ่ดังกล่าว สถานะทางการเงินของบริษัทมีแนวโน้มอ่อนลงในไม่ช้า ภายใต้การคาดการณ์ขั้นพื้นฐานของทริสเรทติ้งในช่วงปี 2562-2564 ธุรกิจ LPG ของบริษัทนั้นน่าจะสร้างเงินทุนจากการดำเนินงานได้เฉลี่ยที่ 2,400 ล้านบาทต่อปี ในขณะที่ ค่าใช้จ่ายสำหรับเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 10,600 ล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนจะเพิ่มขึ้นเป็น 60% อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินจะลดลงแต่น่าจะยังอยู่สูงกว่า 10% ถึงแม้ว่าอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนทุนและกระแสเงินสดต่อหนี้สินของบริษัทนั้นจะแย่กว่าที่ทริสเรทติ้งคาดไว้ก่อนหน้านี้ แต่การยืนยันอันดับเครดิตนั้น ยังคงสะท้อนถึงการคาดการณ์ว่า บริษัทจะยังสามารถสร้างกำไรได้และจะบริหารสภาพคล่องอย่างรอบคอบตลอดช่วงการลงทุนนี้

สภาพคล่องยังคงเพียงพอ

บริษัทมีสภาพคล่องที่เพียงพอ โดยมีวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้ใช้จำนวนมาก โดยในอีก 12 เดือนข้างหน้าแหล่งที่มาของเงินทุนจะประกอบด้วยเงินสดในมือจำนวน 2,900 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2562 วงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้เบิกใช้จำนวนประมาณ 15,000 ล้านบาทและ เงินทุนจากการดำเนินงานซึ่งคาดการณ์ไว้ที่อย่างน้อย 2,000 ล้านบาท ในขณะที่การใช้เงินทุนในอีก 12 เดือนข้างหน้านั้น ประกอบด้วย เงินกู้ยืมระยะยาวที่จะครบกำหนดชำระมูลค่า 1,360 ล้านบาท และเงินลงทุนประมาณ 2,500 บาท ทั้งนี้ สำหรับหุ้นกู้มูลค่า 2,000 ล้านบาทซึ่งจะครบกำหนดในเดือนมกราคม 2563 นั้น คาดว่าบริษัทจะทำการรีไฟแนนซ์

ตามที่ระบุไว้ในเงื่อนไขของหุ้นกู้ บริษัทจะต้องรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นไม่เกิน 2 เท่า ในขณะที่ อัตราส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 1.16 เท่า ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2562 ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขทางการเงินได้ถึงแม้ว่าบริษัทจะดำเนินการตามแผนการลงทุนที่วางไว้ก็ตาม

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

• ยอดขายในตลาดต่างประเทศของบริษัทจะเติบโตปีละ 2%-6% ในขณะที่ยอดขายในประเทศจะลดลงประมาณ 1%-3% ต่อปีในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

• อัตรากำไรจากการดำเนินงาน (ก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย) จะอยู่ที่ประมาณ 4%-5%

• เงินลงทุนของบริษัทจะเท่ากับ 2,500 ล้านบาทในปี 2562 และปีละ 4,100 ล้านบาทในปี 2563-2564

• อัตราการจ่ายเงินปันผลอยู่ที่ 50%

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต“ Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถรักษาสถานะที่แข็งแกร่งในฐานะผู้จัดจำหน่าย LPG รายใหญ่อันดับ 2 ของประเทศไทยไว้ได้ กระแสเงินสดที่น่าเชื่อถือจากการดำเนินงานในประเทศจะช่วยลดความผันผวนของการดำเนินงานต่างประเทศ ทริสเรทติ้งยังคาดหวังว่าธุรกิจการค้าก๊าซในต่างประเทศจะยังคงทำกำไรได้แม้ว่าจะเผชิญต่อความเสี่ยงด้านราคาที่สูงขึ้นก็ตาม

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากบริษัทมีกระแสเงินสดที่เพิ่มขึ้นและมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น หรือหากบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนลดไปจากระดับปัจจุบันอย่างมาก ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้หากบริษัทสามารถเพิ่มสถานะทางการแข่งขันที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในประเทศจีนได้ หรือสามารถขยายแหล่งรายได้ที่มั่นคงได้มากยิ่งขึ้น

อันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับลดลงหากสถานะการเงินของบริษัทถดถอยลงอย่างมากและเป็นระยะเวลานาน ซึ่งอาจเกิดจากอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินด้อยกว่าประมาณการพื้นฐานของทริสเรทติ้ง หรือบริษัทมีการซื้อกิจการซึ่งทำให้เกิดภาระหนี้สินจำนวนมากจนส่งผลให้สถานะการเงินของบริษัทด้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ

อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของหุ้นกู้มีการค้ำประกันบางส่วนของบริษัทสะท้อนคุณภาพเครดิตของทั้งผู้ออกหุ้นกู้และผู้ค้ำประกันคือ CGIF ซึ่งอันดับเครดิตของหุ้นกู้ดังกล่าวอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ในกรณีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของคุณภาพเครดิตของบริษัทหรือของผู้ค้ำประกัน

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561

- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 31 ตุลาคม 2550

บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) (SGP)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
SGP201A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 BBB+
SGP221A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 BBB+
SGP232A: หุ้นกู้มีการค้ำประกันบางส่วน (85%) 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A+
SGP23DA: หุ้นกู้มีการค้ำประกันบางส่วน (70%) 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2562 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ