ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “บ. ไมด้า ลิสซิ่ง” ที่ “BB+” และแทนที่แนวโน้ม ด้วย “Negative”

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 11, 2020 15:18 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ไมด้า ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BB+” ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้ง

ยกเลิก “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม “Negative” หรือ “ลบ” ที่ให้ไว้และแทนที่ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” ปัจจุบันอันดับเครดิตของบริษัทถูกจำกัดโดยอันดับเครดิตของ บริษัท ไมด้า แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ดังนั้น แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” ของบริษัทจึงเป็นผลมาจากแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทไมด้า แอสเซ็ท ซึ่งสะท้อนถึงมุมมองของทริสเรทติ้งต่อผลการดำเนินงานของบริษัทแม่ว่าจะยังคงได้รับแรงกดดันต่อไปอีกในช่วง 12 เดือนข้างหน้าจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19)

อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทสะท้อนถึงฐานทุนที่แข็งแกร่งและความสามารถในการทำกำไรที่มีเสถียรภาพของบริษัท อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตก็มีข้อจำกัดจากสถานะทางการตลาดของบริษัทที่อยู่ในระดับปานกลางและคุณภาพสินทรัพย์ที่เสื่อมถอยลง

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

ฐานทุนที่แข็งแรงและระดับหนี้ที่ต่ำ

ทริสเรทติ้งพิจารณาว่าระดับฐานทุนของบริษัทอยู่ในระดับที่แข็งแรงมาก จากการมีอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงเฉลี่ย 5 ปีที่ระดับ 59.7% เทียบกับระดับ 51.9% ณ สิ้นปี 2562 ทั้งนี้ ระดับฐานทุนของบริษัทมีความแข็งแกร่งกว่าผู้ประกอบการรายอื่นและอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับคุณภาพความเสี่ยงด้านเครดิตของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว

ในขณะเดียวกัน ระดับการก่อหนี้ของบริษัทก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อพิจารณาจากอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนที่ระดับ 0.94 เท่า ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2563 ซึ่งปรับตัวดีขึ้นจาก 1.1 เท่า ณ สิ้นปี 2561 อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนในปัจจุบันยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 3 เท่าตามเงื่อนไขในข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้ ทริสเรทติ้งคาดว่าฐานทุนของบริษัทจะยังคงแข็งแกร่งในระยะปานกลางอันเนื่องมาจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่ การขยายสินเชื่อที่ชะลอตัวลงท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่อ่อนแอ นโยบายการจ่ายเงินปันผลในระดับต่ำ และความสามารถในการทำกำไรที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องแม้จะลดลงในปีนี้ตามที่คาดการณ์ไว้ก็ตาม

สถานะทางการตลาดอยู่ในระดับปานกลาง

อันดับเครดิตของบริษัทมีข้อจำกัดจากการมีสถานะทางการตลาดที่อยู่ในระดับปานกลาง ทั้งนี้ บริษัทให้สินเชื่อในตลาดเฉพาะกลุ่มซึ่งบริษัทมีโอกาสและมีความชำนาญเท่านั้นโดยเน้นไปที่ตลาดรถกระบะใช้แล้ว สินเชื่อส่วนใหญ่จะมีขนาดตั้งแต่ 50,000-300,000 บาทต่อสัญญา สินเชื่อคงค้างของบริษัทมีจำนวน 3.4 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2563 โดยสินเชื่อรวมของบริษัทมีแนวโน้มว่าน่าจะขยายตัวไปอย่างช้า ๆ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่อ่อนแอและเงินทุนที่จำกัด

ความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้น

คุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทมีแนวโน้มที่จะอ่อนแอลงอีกในปี 2563 จากผลกระทบทางเศรษฐกิจเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (สินเชื่อที่ค้างชำระเกิน 90 วันต่อสินเชื่อรวม) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 5.7% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2563 จากระดับ 5.3% ณ สิ้นปี 2562 และยังสูงกว่าระดับ 3%-4% ในอดีต ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่

ทริสเรทติ้งมีความกังวล ทั้งนี้ อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อาจเพิ่มสูงยิ่งขึ้นหากการแพร่ระบาดยังคงยืดเยื้อต่อไป

แต่แม้ว่าคุณภาพสินทรัพย์จะอ่อนแอลง ทริสเรทติ้งยังมีมุมมองว่าระดับสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญในปัจจุบันตามมาตรฐานรายงานทางการเงิน TFRS 9 ของบริษัทนั้นอยู่ในระดับที่เพียงพอ โดยบริษัทมีการกลับรายการสำรองส่วนเกินจำนวน 18.2 ล้านบาทในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563

ความสามารถในการทำกำไรที่ลดลงในระยะปานกลาง

ทริสเรทติ้งคาดว่าความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจะลดลงในระยะ 2 ปีข้างหน้าและหลังจากนั้นจะกลับฟื้นมาสู่ระดับปัจจุบัน อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยคาดว่าจะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 2% เล็กน้อยในช่วงปี 2563-2564 จากระดับ 2.7% ในปี 2562 และหลังจากนั้นจะฟื้นตัวกลับมาอยู่ที่ระดับเหนือกว่า 3% ทริสเรทติ้งยังคาดการณ์ด้วยว่าอัตราส่วนกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์เสี่ยงถัวเฉลี่ยของบริษัทจะลดลงต่ำกว่า 2.5% ในปี 2563-2565 และจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับที่มากกว่า 3.5% หลังจากปี 2565 ความสามารถในการทำกำไรที่ลดลงน่าจะเป็นผลมาจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงและต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น

ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของบริษัทในปี 2562 ลดลงต่ำลงกว่าระดับปกติที่บริษัทเคยทำได้ที่ 10%-11% ทริสเรทติ้งคาดว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจะลดลงต่อไปอีกในปี 2563-2564 แม้ว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจะลดลงซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อต้นทุนทางการเงินของบริษัท ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่มีโอกาสแคบลงนั้นอาจเป็นผลมาจากสาเหตุ 2 ประการคือรายได้ดอกเบี้ยรับที่ลดลงจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่บริษัทอาจจะมีให้แก่ลูกหนี้บางส่วนและต้นทุนทางการเงินที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้นจากการลดอันดับเครดิตของบริษัท อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งเชื่อว่าในระยะยาวนั้นส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของบริษัทจะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้เมื่อสถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายสู่สภาพปกติ

ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องยังคงอยู่ในระดับสูง

แม้สถานการณ์ของตลาดตราสารหนี้จะดีขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ทริสเรทติ้งยังคงมีมุมมองที่เห็นว่าความเสี่ยงในการกู้ยืมใหม่เพื่อชำระหนี้เดิมของบริษัทและบริษัทแม่น่าจะยังมีอยู่ต่อไปเมื่อพิจารณาจากแผนการชำระหนี้หุ้นกู้คงค้างในปีนี้ที่ยังไม่แน่นอน ทั้งนี้ จากประมาณการของบริษัท กระแสเงินสดรับและกระแสเงินสดจ่ายสำหรับระยะเวลาที่เหลือของปีนี้ดูว่ามีความสอดคล้องกันดี โดยกระแสเงินสดรับจากการชำระเงินค่างวดของลูกหนี้นั้นคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 930 ล้านบาทในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤศจิกายน 2563 ในขณะที่บริษัทมีภาระหนี้ที่จะครบกำหนดชำระจำนวนราว ๆ 160 ล้านบาทในเดือนกันยายนและอีก 770 ล้านบาทในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ อย่างไรก็ตาม กระแสเงินสดรับจากการชำระเงินค่างวดก็อาจไม่เป็นไปตามคาดหากลูกหนี้ของบริษัทเผชิญกับความยากลำบากทางการเงินหรือขอรับความช่วยเหลือเพื่อพักชำระหนี้ แต่เมื่อมองในด้านบวก บริษัทก็ยังได้รับวงเงินสินเชื่อเพิ่มเติมจากสถาบันการเงินโดยใช้พอร์ตลูกหนี้สินเชื่อเป็นหลักประกันซึ่งน่าจะช่วยลดความเสี่ยงในด้านสภาพคล่องของบริษัทลงไปได้ในระดับหนึ่ง

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

สมมติฐานกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้งสำหรับช่วงระยะเวลาในปี 2563-2565 มีดังนี้

• สินเชื่อใหม่จะหดตัวลงในปี 2563 และหลังจากนั้นจะขยายตัวที่ระดับ 5% ต่อปี

• ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับ 9%-10%

• ค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญจะอยู่ในช่วง 2%-2.5%

• อัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงจะอยู่ในระดับประมาณ 60%

• ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ต่อรายได้รวมจะอยู่ที่ระดับประมาณ 55%

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” ของบริษัทมาจากแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทแม่คือบริษัทไมด้า แอสเซ็ท ซึ่งสะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าผลการดำเนินงานของบริษัทแม่จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญตลอดปี 2563 และสะท้อนความกังวลของทริสเรทติ้งเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการออกหุ้นกู้ใหม่เพื่อมาทดแทนหุ้นกู้เดิมของบริษัทและบริษัทย่อยที่ใกล้จะครบกำหนดชำระในภาวะที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนลดทอนลงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามการเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตของบริษัทไมด้า แอสเซ็ท

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร, 17 กุมภาพันธ์ 2563

- Group Rating Methodology, 10 กรกฎาคม 2558

บริษัท ไมด้า ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (ML)

อันดับเครดิตองค์กร: BB+

แนวโน้มอันดับเครดิต: Negative

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2563 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ