ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “สหกรณ์ออมทรัพย์วชิรพยาบาล” ที่ “BBB+” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 29, 2020 09:48 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ สหกรณ์ออมทรัพย์วชิรพยาบาล จำกัด (สอ.วชพ.) ที่ระดับ “BBB+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่มั่นคงของ สอ.วชพ. ตลอดจนฐานสมาชิกที่แข็งแกร่ง สินเชื่อที่มีคุณภาพดี และสิทธิพิเศษด้านกฎระเบียบที่สหกรณ์ได้รับการยกเว้นภาษีและมีบุริมสิทธิ์เป็นลำดับแรกก่อนเจ้าหนี้อื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของอันดับเครดิตก็ลดทอนลงบางส่วนจากเกณฑ์การกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์โดยทั่วไปที่ยังค่อนข้างอ่อนแอ รวมทั้งการที่ สอ.วชพ. มีการกระจุกตัวของเงินให้กู้ยืมแก่สหกรณ์ออมทรัพย์อื่นและความไม่สอดคล้องกันของโครงสร้างสินทรัพย์และหนี้สินของ สอ.วชพ.

ทั้งนี้ การประเมินอันดับเครดิตยังพิจารณาถึงความพร้อมของ สอ.วชพ. ที่จะรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบภายหลังจากที่กฎระเบียบใหม่ที่ใช้ควบคุมการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์มีผลบังคับใช้ด้วย

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

ความพร้อมของ สอ.วชพ. ที่จะรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ

ทริสเรทติ้งมองว่า สอ.วชพ. มีการเตรียมความพร้อมที่จะรับมือกับกฎระเบียบใหม่ได้โดยไม่มีประเด็นกังวลร้ายแรงเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดกับการดำเนินงานของ สอ.วชพ. ทั้งนี้ กฎระเบียบใหม่ที่ใช้ควบคุมการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์คือพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สหกรณ์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 ในเบื้องต้นแล้ว พ.ร.บ. ดังกล่าวใช้ในการกำกับดูแลสหกรณ์ให้เข้มงวดยิ่งขึ้นทั้งในส่วนของกิจกรรมที่เกี่ยวกับการรับฝากเงิน การให้กู้ยืม และการลงทุนของสหกรณ์ออมทรัพย์ ทริสเรทติ้งเห็นว่ากฎระเบียบใหม่นี้เป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงในระยะยาวของสหกรณ์ออมทรัพย์ซึ่งเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบการเงินของไทย

ทริสเรทติ้งคาดว่าการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบอาจจะเป็นอุปสรรคต่อโอกาสในการเติบโตและจะทำให้ผลประกอบการทางการเงินของ สอ.วชพ. อ่อนแอลงในระยะสั้น ยกตัวอย่างเช่น นโยบายการลงทุนและเกณฑ์ในการตั้งสำรองสำหรับสภาพคล่องและหนี้สูญที่เข้มงวดขึ้นภายใต้กฎระเบียบใหม่จะทำให้การลงทุนของ สอ.วชพ. มีความยืดหยุ่นน้อยลงและผลตอบแทนจากสินทรัพย์ก็จะลดลงด้วย อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งมิได้คาดหวังว่าผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของ สอ.วชพ. จะทำให้มุมมองต่อความแข็งแกร่งทางการเงินของ สอ.วชพ. เปลี่ยนแปลงไป ในทางกลับกัน กฎระเบียบใหม่น่าจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งในการบริหารความเสี่ยงและเสริมสร้างเสถียรภาพในระยะยาวให้แก่ สอ.วชพ. ได้ด้วย

สหกรณ์ออมทรัพย์จะยังคงได้รับสิทธิพิเศษภายใต้กฎระเบียบใหม่

สิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ได้รับอันได้แก่ การยกเว้นภาษีหลัก ๆ ทุกประเภทและการมีบุริมสิทธิ์เป็นลำดับแรกก่อนเจ้าหนี้อื่น ๆ จะยังคงมีอยู่ต่อไปภายใต้กฎระเบียบใหม่ กล่าวคือ สหกรณ์ออมทรัพย์และสมาชิกได้รับการยกเว้นภาษีหลัก ๆ ทุกประเภท เช่น ภาษีดอกเบี้ยออมทรัพย์ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีจากเงินลงทุน นอกจากนี้ ภายใต้ พ.ร.บ. สหกรณ์ สอ.วชพ. ยังมีบุริมสิทธิ์เป็นลำดับแรกก่อนเจ้าหนี้อื่น ๆ ในการได้รับดอกเบี้ยและการได้รับชำระคืนเงินกู้จากลูกหนี้อีกด้วย สิทธิพิเศษด้านบุริมสิทธิ์ดังกล่าวช่วยให้สหกรณ์ออมทรัพย์มีข้อได้เปรียบในการให้กู้แก่สมาชิกเหนือกว่าสถาบันการเงินอื่น ๆ ในขณะที่เงินกู้ส่วนใหญ่ที่ให้แก่สมาชิกสามัญของสหกรณ์ออมทรัพย์ขั้นปฐมภูมินั้นดำเนินการภายใต้ข้อตกลงกับนายจ้างหรือหน่วยงานต้นสังกัดว่าการชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นของเงินกู้ตามงวดนั้นสามารถใช้วิธีหักจากเงินเดือนของสมาชิกได้ ส่งผลให้สหกรณ์ออมทรัพย์ขั้นปฐมภูมิส่วนใหญ่มีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีและช่วยลดความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายหนี้เสียของเงินที่ให้กู้แก่สมาชิกของสหกรณ์ด้วย

จุดอ่อนของการกำกับดูแล

การกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์มีความเข้มงวดน้อยกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินซึ่งมีการกำกับดูแลที่ใกล้ชิดและเข้มงวดมากกว่า ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่ากรณีดังกล่าวเป็นจุดอ่อนสำคัญที่สร้างข้อจำกัดให้แก่สถานะอันดับเครดิตของสหกรณ์ออมทรัพย์ในประเทศไทย ถึงแม้ว่ากรอบกฎระเบียบใหม่จะช่วยในการควบคุมกิจการของสหกรณ์ได้เข้มงวดยิ่งขึ้น แต่กฎระเบียบดังกล่าวก็ไม่ได้รับประกันว่าสหกรณ์ออมทรัพย์ทั้งหมดจะยึดมั่นกับกฎระเบียบใหม่นี้ได้จริงหรือไม่ การบังคับใช้กฎระเบียบทั้งหลายให้มีประสิทธิภาพได้นั้นจะต้องมีการติดตามตรวจสอบอย่างเข้มงวดและอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้สหกรณ์ออมทรัพย์ปฏิบัติตามอย่างแท้จริง ซึ่งดูเหมือนว่าสิ่งดังกล่าวจะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้

มีฐานทุนและฐานสมาชิกที่แข็งแกร่ง

ฐานทุนของ สอ.วชพ. อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นปีบัญชี 2562 (สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2562) สอ.วชพ. มีอัตราส่วนทุนต่อสินทรัพย์รวมอยู่ที่ระดับ 30.5% สมาชิกสามัญส่วนใหญ่ของ สอ.วชพ. เป็นเจ้าหน้าที่และลูกจ้างของหน่วยงานภาครัฐที่มีสถานะเครดิตที่ดี ความมั่นคงของหน้าที่การงานและเงินเดือนที่สม่ำเสมอของสมาชิกเป็นปัจจัยบ่งชี้ถึงฐานสมาชิกสามัญที่มั่นคงของ สอ.วชพ. และความสามารถในการจ่ายชำระคืนหนี้ของสมาชิก การมีฐานสมาชิกที่มั่นคงทำให้ฐานทุนของ สอ.วชพ. เติบโตอย่างสม่ำเสมอจากการที่สมาชิกสามัญสามารถซื้อหุ้นเพิ่มได้ทุกเดือน ผลที่ตามมาก็คือ สอ.วชพ. สามารถเพิ่มฐานเงินฝาก ตลอดจนพอร์ตสินเชื่อ และทุนเรือนหุ้นที่ชำระแล้วได้อย่างมั่นคงมาโดยตลอด โดยฐานทุนของ สอ.วชพ. เติบโตอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 5.43 พันล้านบาท ณ สิ้นปีบัญชี 2562 จาก 3.2 พันล้านบาท ณ สิ้นปีบัญชี 2556 ซึ่งคิดเป็นอัตราเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปีที่ 9%

การกระจุกตัวของเงินให้กู้ยืมแก่สหกรณ์อื่น

ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่า สอ.วชพ. มีความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของเงินให้กู้ยืมอย่างมีนัยสำคัญอันเนื่องมาจากการให้กู้ยืมแก่สหกรณ์ออมทรัพย์รายอื่นในจำนวนที่ค่อนข้างมาก โดยเงินให้กู้ยืมแก่สหกรณ์ออมทรัพย์อื่นมีสัดส่วนถึง 82% ของเงินให้กู้ยืมรวม ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2563 และจากสัดส่วนดังกล่าวนั้นยังเป็นเงินที่ สอ.วชพ. ให้กู้ยืมแก่สหกรณ์ออมทรัพย์รายใหญ่ 10 อันดับแรกซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 37% อีกด้วย สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเนื่องมาจาก สอ.วชพ. มีฐานเงินฝากจากสมาชิกที่ค่อนข้างมากกว่าความต้องการสินเชื่อของสมาชิก ซึ่งส่งผลทำให้ สอ.วชพ. มีเงินรับฝากส่วนเกินที่นำไปให้กู้ยืมแก่สหกรณ์ออมทรัพย์รายอื่นเป็นหลัก ในการนี้ สอ.วชพ. คาดหวังว่าเงินให้กู้ยืมแก่สหกรณ์ออมทรัพย์อื่นน่าจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าผลตอบแทนจากการลงทุนทั่วไป อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของเงินให้กู้ยืมแก่สหกรณ์ออมทรัพย์อื่นของ สอ.วชพ. ลดทอนลงไปบ้างจากการมีเกณฑ์ในการพิจารณาให้กู้ยืมที่ระมัดระวัง

เงินให้กู้ยืมมีคุณภาพดี

ทริสเรทติ้งคาดหวังว่าเงินให้กู้ยืมของ สอ.วชพ. จะยังคงมีคุณภาพที่ดี ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งเชื่อว่า สอ.วชพ. มีหลักเกณฑ์ในการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดโดยเห็นได้จากการที่ สอ.วชพ. มีอัตราส่วนของเงินให้กู้ยืมที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เงินให้กู้ยืมที่ค้างชำระมากกว่า 90 วัน) อยู่ในระดับต่ำ โดย สอ.วชพ. มีอัตราส่วนเงินให้กู้ยืมที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้คิดเป็น 0.44% ของเงินให้กู้ยืมรวม ณ สิ้นรอบปีบัญชี 2562 จาก 0.15% ของเงินให้กู้ยืมรวม ณ สิ้นรอบปีบัญชี 2560 แต่โดยรวมแล้วยังถือว่าเป็นอัตราส่วนที่ค่อนข้างต่ำ อนึ่ง เงินให้กู้ยืมที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่เพิ่มขึ้นนี้มาจากเงินให้กู้ยืมแก่สหกรณ์ออมทรัพย์รายหนึ่งที่มีจำนวนทั้งสิ้น 33 ล้านบาท ซึ่งทริสเรทติ้งมองว่าเป็นกรณีเฉพาะที่เกิดขึ้นค่อนข้างยากและไม่ส่งผลกระทบต่อความเสื่อมถอยของคุณภาพสินทรัพย์ไปมากกว่านี้ ในการนี้ ทริสเรทติ้งคาดหวังให้ สอ.วชพ. ยังคงรักษานโยบายการปล่อยสินเชื่อที่ระมัดระวังเพื่อป้องกันผลขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป

สภาพคล่องอยู่ในระดับที่เพียงพอแม้จะมีเงินกู้ยืมระยะสั้นค่อนข้างสูง

ทริสเรทติ้งมองว่าอัตราส่วนการกู้ยืมระยะสั้นที่มีอยู่สูงยังคงเป็นปัจจัยที่น่ากังวลต่อสถานะเครดิตของ สอ.วชพ. โดยโครงสร้างสินทรัพย์และหนี้สินของ สอ.วชพ. มีความไม่สอดคล้องกันในเรื่องของวันครบกำหนดเนื่องจาก สอ.วชพ. มีการใช้เงินทุนจากธนาคารพาณิชย์ในรูปของเงินกู้ยืมระยะสั้นที่ค้ำประกันโดยหลักทรัพย์จากเงินลงทุนเพื่อให้มีต้นทุนทางการเงินต่ำ

ณ เดือนมีนาคม 2563 เงินกู้ยืมระยะสั้นจากธนาคารพาณิชย์มีสัดส่วนคิดเป็นประมาณ 25% ของยอดหนี้สินและส่วนของทุนทั้งหมดของ สอ.วชพ. ในขณะที่สินทรัพย์ระยะสั้นมีสัดส่วนคิดเป็นเพียง 7.4% ของสินทรัพย์รวม ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่า สอ.วชพ. มีความเสี่ยงด้านสภาพคล่องจากความไม่สอดคล้องกันของโครงสร้างสินทรัพย์และหนี้สินเนื่องจากการกู้ยืมระยะสั้นจะมีความเสี่ยงในการกู้ยืมต่อ (Refinancing Risks)

ทริสเรทติ้งยังมีมุมมองว่าเงินทุนจำนวนมากจากผู้ให้กู้ยืมจากภายนอกนั้นมีเสถียรภาพต่ำกว่าเงินทุนที่ สอ.วชพ. ได้รับจากสมาชิกของตนเองทั้งในรูปของเงินรับฝากและทุน หรือแม้แต่เงินรับฝากจากสหกรณ์ออมทรัพย์อื่น แม้ว่า สอ.วชพ. จะมีปริมาณเงินลงทุนที่มากเพียงพอต่อการชำระหนี้เงินกู้ยืมระยะสั้นจากภายนอกซึ่งช่วยลดทอนความเสี่ยงด้านสภาพคล่องลงได้ แต่ทริสเรทติ้งก็คาดว่า สอ.วชพ. จะดำรงนโยบายการลงทุนที่ระมัดระวังโดยไม่ลงทุนกระจุกตัวอย่างมีนัยสำคัญอยู่ในกลุ่มผู้กู้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือลงทุนจำนวนมากในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ สอ.วชพ. มีอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องที่ระดับประมาณ 14.5% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์สินทรัพย์สภาพคล่องของกฎระเบียบใหม่ที่กำหนดให้อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 3%

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

ทริสเรทติ้งมีสมมติฐานกรณีพื้นฐานสำหรับการดำเนินงานของ สอ.วชพ. ในระหว่างปีการเงิน 2563-2565 ดังนี้

• เงินทุนจะเติบโตในอัตราเฉลี่ย 5% ต่อปี

• เงินให้กู้ยืมจะเติบโตในอัตราเฉลี่ย 3.5% ต่อปี

• ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในช่วง 0.9%-1.1% ต่อปี

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่า สอ.วชพ. จะสามารถรักษาฐานสมาชิกที่แข็งแกร่งและจะยังคงมีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจต่อไปได้ นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดหวังว่า สอ.วชพ. จะสามารถปรับตัวและปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่ได้อีกด้วย

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

แนวโน้มการเพิ่มอันดับเครดิตของ สอ.วชพ. มีค่อนข้างจำกัดจากกรอบการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันซึ่งยังขาดการกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดจากหน่วยงานที่รับผิดชอบและความไม่แน่นอนที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบใหม่ อย่างไรก็ตาม นโยบายในการบริหารจัดการสินทรัพย์และหนี้สินที่ระมัดระวังและเป็นไปอย่างต่อเนื่องก็อาจเป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมอันดับเครดิตได้ ในทางตรงกันข้าม นโยบายในการดำเนินงานและการเงินที่เป็นไปในเชิงรุกมากยิ่งขึ้นที่ทำให้สถานะเครดิตโดยรวมของ สอ.วชพ. อ่อนแอลง รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบใด ๆ ที่จะลดทอนสิทธิพิเศษของสหกรณ์ออมทรัพย์ก็อาจมีผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับเครดิตของ สอ.วชพ. ได้ด้วยเช่นกัน

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- Savings Cooperative Rating Methodology, 28 September 2020

สหกรณ์ออมทรัพย์วชิรพยาบาล จำกัด (VJRC)

อันดับเครดิตองค์กร: BBB+

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2563 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ