ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “บล. เกียรตินาคินภัทร” ที่ “A” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 23, 2021 16:00 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ?A? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? โดยอันดับเครดิตสะท้อนสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทลูกหลัก (Core subsidiary) ของกลุ่มการเงินเกียรตินาคินภัทร (Kiatnakin Financial Group or KKP Group) ซึ่งอยู่ภายใต้ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (KKP) ทั้งนี้ อันดับเครดิตของ บล. เกียรตินาคินภัทรอยู่ในระดับเดียวกับอันดับเครดิตของธนาคารเกียรตินาคินภัทร (ระดับ ?A/Stable? ซึ่งจัดอันดับโดยทริสเรทติ้ง)

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

เป็นบริษัทลูกหลัก (Core subsidiary) ของกลุ่มการเงินเกียรตินาคินภัทร

ทริสเรทติ้งจัดให้บริษัทเป็นสมาชิกหลัก (Core member) ของกลุ่มการเงินเกียรตินาคินภัทรเนื่องจาบริษัททำหน้าที่เป็นหน่วยธุรกิจที่สำคัญ ในการให้บริการด้านตลาดทุนซึ่งช่วยทำให้กลยุทธ์ในการให้บริการทางการเงินที่ครบวงจรของกลุ่มบรรลุเป้าหมาย โดยที่บริษัทมีแนวโน้มที่จะดำรงภารกิจดังกล่าวต่อไปในระยะยาว ทั้ง บล. เกียรตินาคินภัทรและธนาคารเกียรตินาคินภัทรยังได้แสดงให้เห็นถึงการผสานความร่วมมือระหว่างกันอีกด้วย ในขณะที่ความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างบริษัทและบริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มก็เป็นไปในทิศทางที่ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น โดยบริษัทมีการขยายฐานลูกค้าโดยใช้ประโยชน์จากฐานลูกค้าของธนาคารเกียรตินาคินภัทรอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มลูกค้าผู้มีความมั่งคั่งระดับสูง

ในส่วนของผลการดำเนินงานนั้น บริษัทมีผลการดำเนินงานทางการเงินที่น่าพึงพอใจและยังคงสร้างรายได้ในสัดส่วนที่มีนัยสำคัญให้แก่กลุ่มอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2563 รายได้รวมของบริษัทคิดเป็น 18% ของรายได้รวมของธนาคารเกียรตินาคินภัทร ในฐานะที่เป็นบริษัทลูกที่ถือหุ้นทั้งหมดโดยธนาคารเกียรตินาคินภัทร บริษัทยังได้รับการสนับสนุนทางด้านการเงินในรูปของวงเงินสินเชื่อระยะยาวจากธนาคารเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมอีกด้วย นอกจากนี้การปรับเปลี่ยนชื่อบริษัททั้งหมดในกลุ่มภายใต้ชื่อ ?เกียรตินาคินภัทร? นั้นยังช่วยส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่าง บล. เกียรตินาคินภัทร (ชื่อเดิม บล. ภัทร จำกัด (มหาชน)) กับกลุ่มให้แข็งแกร่งขึ้นอีกด้วยเช่นกัน

สถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งในธุรกิจตลาดทุน

บริษัทยังคงมีสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งในธุรกิจหลักทรัพย์ โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทมีส่วนแบ่งรายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ในอันดับที่ 4 เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมด้วยส่วนแบ่งที่ระดับ 5.8% อีกทั้งยังมีส่วนแบ่งรายได้ค่านายหน้าซื้อขายตราสารอนุพันธ์ในช่วงเดียวกันอยู่ในอันดับที่ 6 ด้วยส่วนแบ่งที่ระดับ 5.8% อีกด้วย

ความร่วมมือทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นระหว่างบริษัทและธนาคารเกียรตินาคินภัทร จากการที่มีเป้าหมายทางการเงินและฐานลูกค้าร่วมกัน รวมทั้งการร่วมมือทางธุรกิจ ได้ช่วยส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจการบริหารความมั่งคั่งของบริษัท โดยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทเติบโตขึ้น 4% มาอยู่ที่ 598 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 2563 สำหรับธุรกิจวานิชธนกิจนั้นบริษัทยังคงมีส่วนแบ่งรายได้อยู่ในกลุ่มผู้ประกอบการ 3 อันดับแรกแม้ว่าสภาวะตลาดจะไม่เอื้ออำนวยก็ตาม ซึ่งผลสำเร็จดังกล่าวเป็นผลมาจากความร่วมมือกันระหว่างฝ่ายธุรกิจบรรษัทของธนาคารเกียรตินาคินภัทรและฝ่ายธุรกิจวาณิชธนกิจของ บล. เกียรตินาคินภัทร

ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงดำรงสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งในธุรกิจหลักทรัพย์ต่อไปได้โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการเพิ่มศักยภาพของพนักงานขายและความสามารถในการให้คำแนะนำการลงทุน ตลอดจนการเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่เสนอขายและความสามารถในการวิจัย

สร้างรายได้ที่มีนัยสำคัญให้แก่กลุ่ม

ความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่งของบริษัทเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยส่งเสริมสถานะความเป็นสมาชิกหลักของกลุ่มการเงินเกียรตินาคินภัทรให้แก่บริษัท โดยรายได้ของบริษัทคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของรายได้รวมของกลุ่มในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาซึ่งทริสเรทติ้งมองว่าเป็นสัดส่วนที่มีนัยสำคัญ ส่วนในด้านของผลกำไรนั้น บริษัทมีกำไรสุทธิคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 24% ของกำไรสุทธิของงบการเงินรวมของธนาคารเกียรตินาคินภัทรในปี 2563 ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่ากำไรของบริษัทจะยังคงแข็งแกร่งจากการขยายธุรกิจ รวมทั้งจากการควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่ดี และการผสานร่วมมือกันระหว่างบริษัทในกลุ่มเกียรตินาคินภัทร โดยในปี 2563 บริษัทมีอัตราส่วนกำไรก่อนหักภาษีต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ระดับ 4.7% ซึ่งปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 3.5% ในปี 2562

การบริหารจัดการความเสี่ยงที่สอดคล้องกับกลุ่ม

บริษัทมีนโยบายการบริหารจัดการความเสี่ยงที่เป็นไปในทิศทางเดียวกับสมาชิกในกลุ่มเกียรตินาคินภัทรซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยนโยบายและการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านเครดิตและความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาหลักทรัพย์ของบริษัทนั้นได้รับการควบคุมดูแลโดยคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงของกลุ่ม ในขณะที่การปฏิบัติในส่วนของแนวทางด้านความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาหลักทรัพย์นั้น บริษัทก็ดำเนินตามนโยบายของกลุ่มซึ่งมีกลยุทธ์จำกัดการลงทุนให้อยู่ในหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ (เช่น กลยุทธ์การซื้อขายหลักทรัพย์แบบหากำไรจากความต่างกันของราคาหรือ Arbitrage ที่ไม่ผันผวนไปตามความเคลื่อนไหวของตลาดโดยรวม) เพื่อที่จะควบคุมความเสี่ยงจากการลงทุนและการซื้อขายหลักทรัพย์

ได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนจากธนาคารเกียรตินาคินภัทรอย่างต่อเนื่อง

สถานะในการจัดหาเงินทุนและสภาพคล่องที่เพียงพอของบริษัทมีปัจจัยสนับสนุนจากความช่วยเหลือทางด้านการเงินจากธนาคารเกียรตินาคินภัทรในรูปของวงเงินสินเชื่ออย่างต่อเนื่องเป็นหลัก นอกจากนี้ บริษัทยังมีวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินอื่น ๆ อีกด้วย ณ สิ้นเดือนมกราคม 2564 บริษัทมีวงเงินสินเชื่อจำนวนทั้งสิ้น 3.1 พันล้านบาทนอกเหนือจากวงเงินสินเชื่อจากธนาคารเกียรตินาคินภัทร โดยวงเงินสินเชื่อรวมดังกล่าวน่าจะเพียงพอสำหรับใช้เป็นทุนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทและเพียงพอสำหรับรองรับภาวะการขาดสภาพคล่องที่อาจเกิดขึ้นได้

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

สมมติฐานกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้งตั้งอยู่บนความคาดหมายที่บริษัทจะยังคงดำรงสถานะในการเป็นบริษัทลูกหลักของกลุ่มการเงินเกียรตินาคินภัทรต่อไป

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงรักษาสถานะในการเป็นบริษัทลูกหลักของกลุ่มการเงินเกียรตินาคินภัทรและได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากธนาคารแม่อย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้หากสถานะเครดิตของธนาคารเกียรตินาคินภัทรเปลี่ยนแปลงไป หรือหากทริสเรทติ้งมองเห็นความเปลี่ยนแปลงของระดับการสนับสนุนที่บริษัทได้รับจากกลุ่มเกียรตินาคินภัทร หรือสถานะในการเป็นบริษัทย่อยของบริษัทที่มีต่อกลุ่มการเงินเกียรตินาคินภัทรเปลี่ยนแปลงไปเมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทย่อยอื่น ๆ ของกลุ่ม

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ, 13 มกราคม 2564

บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (KKPS)

อันดับเครดิตองค์กร: A

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2564 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ