ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 1.2 พันล้านบาท “บ. พีทีจี เอ็นเนอยี” ที่ “BBB+” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 17, 2022 13:34 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ "BBB+" ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? พร้อมกันนี้ ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 1.2 พันล้านบาท อายุไม่เกิน 3 ปีของบริษัทที่ระดับ ?BBB+? ด้วย โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ใหม่ไปใช้ชำระคืนหนี้บางส่วน

อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งของบริษัทในธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน โดย ณ เดือนกันยายน 2564 บริษัทมีเครือข่ายสถานีบริการถึง 2,142 แห่งซึ่งประกอบด้วยสถานีบริการน้ำมัน 1,925 แห่ง สถานีก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) 80 แห่ง และสถานีบริการแบบผสมอีก 137 แห่ง นอกจากนี้ บริษัทยังคงสถานะเป็นผู้ค้าปลีกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดอันดับสองในแง่ของเครือข่ายและปริมาณการขายผ่านสถานีบริการอีกด้วย โดยเป็นรอง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้นำตลาด ทั้งนี้ จากข้อมูลที่รวบรวมโดยทริสเรทติ้งพบว่าส่วนแบ่งทางการตลาดของธุรกิจค้าปลีกน้ำมันของบริษัทอยู่ที่ 17.7% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564

แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) จะยังคงยืดเยื้อ แต่บริษัทก็ยังมีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 สายพันธุ์เดลต้าทำให้รัฐบาลไทยต้องกลับมาบังคับใช้มาตรการปิดเมือง (Lockdown) อีกครั้งและทำให้ยอดขายน้ำมันผ่านสถานีบริการภายในประเทศโดยรวมลดลง 6.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่การแพร่ระบาดทำให้อุปสงค์ในการใช้น้ำมันลดลงถึง 19.3% เฉพาะในไตรมาสที่ 3 เท่านั้น อย่างไรก็ตาม บริษัทยังสามารถทำยอดขายได้ถึง 3.7 พันล้านลิตรในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 ซึ่งคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นที่ระดับ 2.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า

เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว ผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 เป็นไปตามที่ทริสเรทติ้งคาดการณ์ไว้ โดยรายได้จากการดำเนินงานของบริษัทเพิ่มขึ้น 25.4% เป็น 9.62 หมื่นล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน ในขณะที่กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่ระดับ 4.3 พันล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ระดับ 78% และอัตราส่วนหนี้สินต่อ EBITDA (ปรับเป็นอัตราส่วนเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง) อยู่ที่ระดับ 5 เท่า โดยอัตราส่วนทั้งสองสอดคล้องกับประมาณการของทริสเรทติ้ง

ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะได้รับประโยชน์จากการผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองและการกลับมาของกิจกรรมการท่องเที่ยวอีก อย่างไรก็ตาม การกลายพันธุ์ของโรคโควิด 19 ล่าสุดอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นและส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจต้องล่าช้าออกไปอีก นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังมองว่าการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจค้าปลีกน้ำมันและราคาน้ำมันที่ผันผวนยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญอีกด้วย

เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ยังคงยืดเยื้อ บริษัทจึงได้ปรับลดเป้าหมายการขยายสถานีบริการใหม่และการขยายธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันลงด้วยการลดขนาดการลงทุน อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะกลับมาขยายธุรกิจอีกในระยะยาวเมื่อเห็นว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่น่าเชื่อมั่นมากกว่านี้

จากข้อมูล ณ เดือนกันยายน 2564 บริษัทมีภาระหนี้ที่จะถึงกำหนดชำระภายใน 12 เดือนข้างหน้าจำนวน 6.5 พันล้านบาทซึ่งส่วนใหญ่เป็นเงินกู้ยืมระยะสั้นจำนวน 3.2 พันล้านบาท เงินกู้ยืมระยะยาวจำนวน 1.3 พันล้านบาท และหุ้นกู้อีกจำนวน 1.4 พันล้านบาท ในการนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจำเป็นจะต้องทำการระดมทุนใหม่ (รีไฟแนนซ์) เพื่อนำเงินไปใช้ชำระหนี้ที่มีอยู่เพื่อสนับสนุนแผนการลงทุนของบริษัท ซึ่งทริสเรทติ้งมีความเห็นว่าความเสี่ยงในการรีไฟแนนซ์นั้นอยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้เมื่อพิจารณาจากโอกาสทางธุรกิจของบริษัท

ณ สิ้นเดือนกันยายน 2564 บริษัทมีหนี้ที่เป็นเงินกู้ธนาคารและหุ้นกู้จำนวน 1.07 หมื่นล้านบาทซึ่งรวมถึงหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนจำนวนประมาณ 3.6 พันล้านบาทที่เป็นหนี้ไม่มีหลักประกันของบริษัทย่อย ดังนั้น อัตราส่วนของหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนต่อภาระหนี้ทั้งหมดของบริษัทอยู่ที่ระดับ 33% ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ 50% ตาม ?เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้? ของทริสเรทติ้งนั้นจึงแสดงให้เห็นว่าเจ้าหนี้ที่ไม่มีหลักประกันของบริษัทไม่ได้มีความเสียเปรียบอย่างมีนัยสำคัญในแง่ของลำดับในการเรียกชำระหนี้คืนจากสินทรัพย์ของบริษัท

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนถึงความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในตลาดค้าปลีกน้ำมันด้วยการมีแผนธุรกิจที่มีความรอบคอบ ทริสเรทติ้งยังคาดอีกด้วยว่าระดับหนี้สินทางการเงินและระดับความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดเมื่อเทียบกับภาระหนี้ของบริษัทนั้นจะยังคงอยู่ในระดับที่ทริสเรทติ้งคาดการณ์ไว้

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

การปรับเพิ่มอันดับเครดิตมีโอกาสเกิดขึ้นได้หากบริษัทสามารถทำให้สถานะทางการตลาดมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นและมีผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง ในทางกลับกัน อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับลดลงได้ในกรณีที่สถานะทางการเงินของบริษัทอ่อนแอลงเป็นอย่างมากจากการที่บริษัทมีผลการดำเนินงานทางการเงินแย่ลงอย่างมีนัยสำคัญหรือบริษัทมีการลงทุนที่ใช้การก่อหนี้เพิ่มสูงขึ้น

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564

- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562

บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG)

อันดับเครดิตองค์กร: BBB+

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

PTG233A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 BBB+

หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 200 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 2 ปี BBB+

หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 3 ปี BBB+

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2565 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ