ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “ธ. เมกะ สากลพาณิชย์” ที่ “A+” และอันดับหุ้นกู้ระยะสั้นที่ “T1” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวทั่วไป Friday January 30, 2009 13:23 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ ธนาคาร เมกะ สากลพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A+” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ระยะสั้นของธนาคารที่ “T1” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตองค์กรได้รับการปรับเพิ่มขึ้นจากอันดับเครดิตเฉพาะของตัวธนาคารในฐานะบริษัทลูกที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของธนาคารแม่ในประเทศไต้หวันในการขยายกิจการสู่ภูมิภาคเอเซียแปซิฟิค อันดับเครดิตเฉพาะของธนาคารมีพื้นฐานมาจากฐานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจให้กู้ยืมแก่นักลงทุนชาวไต้หวันในฐานะที่เป็นธนาคารไต้หวันเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ตลอดจนการมีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี การมีระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง และการพัฒนาระบบบริหารความเสี่ยงและควบคุมภายในอย่างต่อเนื่อง อันดับเครดิตมีข้อจำกัดบางส่วนจากการมีเครือข่ายธุรกิจและสาขาของธนาคารในประเทศไทยที่จำกัดเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์ไทยขนาดใหญ่ แนวโน้มของการลงทุนจากประเทศไต้หวันในประเทศไทยที่ลดลงและภาวะแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจที่เอื้ออำนวยน้อยลงเป็นปัจจัยที่จำกัดการขยายธุรกิจของธนาคารในระยะปานกลาง

อันดับเครดิตตราสารหนี้ระยะสั้นสะท้อนถึงสถานะอันดับเครดิตระยะยาวของธนาคารในระดับ “A+” ซึ่งแสดงถึงฐานะการเป็นบริษัทลูกของธนาคารต่างประเทศที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของธนาคารแม่ในประเทศไต้หวัน นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความสามารถของธนาคารในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนระยะสั้นอันเนื่องมาจากลักษณะของธุรกิจธนาคารพาณิชย์ที่มีสินทรัพย์สภาพคล่องสูงในงบดุลของธนาคารและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่หลากหลายได้ง่าย การที่ธนาคารมีสภาพคล่องในระดับสูงเป็นผลมาจากการที่ธนาคารใช้เวลาเพียง 1 วันในการรับเงินสนับสนุนจากธนาคารแม่ หรือจากตลาดเงินระหว่างธนาคาร ตลาดซื้อคืนพันธบัตร หรือจากหน้าต่างเงินกู้ยืม (Loan Window) ของ ธปท. นอกจากนี้ ธนาคารยังสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากธนาคารกลางของประเทศไต้หวันซึ่งธนาคารสำรองไว้เป็นแหล่งเงินทุนสภาพคล่องแหล่งสุดท้าย ซึ่งโดยปกติจะใช้เวลาในการเข้าถึงประมาณ 1 สัปดาห์

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความเป็นไปได้ที่ธนาคารจะมีผลประกอบการทางการเงินระยะปานกลางตามที่คาดหมายไว้โดยการใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งทางเครือข่ายธุรกิจของธนาคารแม่ในการขยายธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย แนวโน้มอันดับเครดิตยังขึ้นอยู่กับความคาดหมายว่าธนาคารจะยังรักษาบทบาทการเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของธนาคารแม่ในต่างประเทศซึ่งจะช่วยเอื้อประโยชน์แก่ธนาคารในด้านของการขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจและเสริมความยืดหยุ่นและสภาพคล่องทางการเงิน การได้รับการสนับสนุนที่เข้มแข็งจากธนาคารแม่และฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งคาดว่าจะช่วยลดความเสี่ยงให้แก่ธนาคารในอนาคตจากความไม่แน่นอนของปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารพาณิชย์ลงได้

ทริสเรทติ้งรายงานว่า ธนาคาร เมกะ สากลพาณิชย์ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในฐานะบริษัทลูกของธนาคารต่างประเทศจากกระทรวงการคลังของไทยในเดือนสิงหาคม 2548 และเป็นธนาคารที่ถือหุ้นทั้งหมดโดย Mega International Commercial Bank แห่งประเทศไต้หวัน โดยก่อนที่จะได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธนาคารเคยมีฐานะเป็นสาขาธนาคารต่างประเทศเต็มรูปแบบในกรุงเทพฯ มาตั้งแต่ปี 2490 ธนาคารได้รวมระบบการดำเนินงาน ตลอดจนถึงรูปแบบและกลยุทธ์ธุรกิจกับธนาคารแม่ และใช้ชื่อสัญลักษณ์เดียวกันกับของธนาคารแม่ ทั้งนี้ ฐานลูกค้าของธนาคารส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากสัมพันธภาพที่แข็งแกร่งระหว่างธนาคารแม่กับบริษัทไต้หวันที่เข้ามาลงทุนหรือที่มีบริษัทลูกดำเนินการอยู่ในประเทศไทย วงเงินเสริมสภาพคล่องที่ได้รับจากธนาคารแม่ทำให้ธนาคารมีสภาพคล่องและความยืดหยุ่นทางการเงินที่เพียงพอ ปัจจุบันธนาคารแม่ที่ไต้หวันได้รับอันดับเครดิตที่ระดับ “A1” จาก Moody’s Investors Service ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” และจาก Standard and Poor’s ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” โดยอันดับเครดิตดังกล่าวเป็นผลมาจากการเป็นผู้นำในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและการให้บริการทางการเงินสำหรับการนำเข้าและส่งออก (Trade Finance) รวมทั้งการมีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี สภาพคล่องที่สูง และการสนับสนุนจากธนาคารกลางของประเทศไต้หวัน

ในฐานะที่เป็นธนาคารพาณิชย์รายใหม่และมีขนาดเล็ก ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ธนาคารจึงมีมูลค่าธุรกิจในประเทศไทยที่จำกัดเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ของไทย ธนาคารมีเครือข่ายธุรกิจที่ยังเล็กและยังมีบริการด้านธนาคารพาณิชย์ที่จำกัดอยู่ ในฐานะที่เป็นธนาคารลูกของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ ธนาคารจึงถูกจำกัดโดยกฎหมายซึ่งอนุญาตให้เปิดสาขาได้ไม่เกิน 4 แห่ง ณ เดือนมิถุนายน 2551 สินทรัพย์รวมของธนาคารมีจำนวน 13,035 ล้านบาท ซึ่งเป็นขนาดที่เล็กที่สุดในบรรดาธนาคารพาณิชย์ไทยทั้งหมด หรือคิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดเพียงประมาณ 0.2% ธนาคารให้บริการแก่ตลาดเฉพาะในกลุ่มลูกค้าชาวไต้หวันหรือที่เกี่ยวข้องที่ดำเนินกิจการในประเทศไทยโดยมียอดสินเชื่อคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 80% ของสินเชื่อรวมของธนาคาร

ความสามารถในการทำกำไรของธนาคารในช่วงครึ่งแรกของปี 2551 ดีขึ้นจากปี 2550 เนื่องจากในปี 2550 ธนาคารมีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานบัญชีระหว่างประเทศฉบับใหม่ (IAS 39) ธนาคารรายงานผลกำไรสุทธิจำนวน 141 ล้านบาทสำหรับงวดครึ่งแรกของปี 2551 ซึ่งสูงกว่ากำไรสุทธิจำนวน 67 ล้านบาทในช่วงครึ่งแรกของปี 2550 อย่างมีนัยสำคัญ อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยและต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวมถัวเฉลี่ยที่ยังไม่ได้ปรับให้เป็นตัวเลขเต็มปีอยู่ในระดับ 1.12% และ 3.15% ตามลำดับในช่วงครึ่งแรกของปี 2551 ซึ่งสูงกว่าระดับ 057% และ 1.59% สำหรับช่วงครึ่งแรกของปี 2550

ธนาคารมีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี ณ เดือนมิถุนายน 2551 สัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมของธนาคารตามคำจำกัดความของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อยู่ในระดับ 3.16% ในขณะเดียวกัน สัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมถัวเฉลี่ยที่คำนวณโดยทริสเรทติ้งอยู่ที่ระดับ 3.28% ซึ่งนับว่าต่ำกว่าสัดส่วนเฉลี่ยที่ระดับ 8.37% สำหรับธนาคารพาณิชย์ไทยทั้ง 14 แห่ง การถดถอยลงของคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามในระยะใกล้จนถึงปานกลางเนื่องจากระดับเครดิตของลูกค้าในหมวดอุตสาหกรรมการผลิตคาดว่าจะลดลง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมรถยนต์และสินค้าพื้นฐานทั่วไป (Commodity) นอกจากนี้ ธนาคารยังมีความเสี่ยงด้านเครดิตจากการกระจุกของลูกค้ารายใหญ่ 20 รายแรกซึ่งมียอดคงค้างสินเชื่อคิดเป็น 47% ของสินเชื่อรวมของธนาคาร อย่างไรก็ตาม การมีฐานะเงินกองทุนที่มีขนาดใหญ่คาดว่าจะเพียงพอรองรับความสูญเสียที่คาดไม่ถึงอันอาจเกิดขึ้นจากความเสี่ยงในอนาคต ณ เดือนมิถุนายน 2551 ธนาคารมีสัดส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนที่ระดับ 36.35% สัดส่วนดังกล่าวคาดว่าจะลดลงเล็กน้อยในปลายปี 2551 เมื่อธนาคารปฏิบัติตามเกณฑ์ BASEL II ทริสเรทติ้งกล่าว -- จบ

ธนาคาร เมกะ สากลพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (Mega ICBC)
อันดับเครดิตองค์กร:                              คงเดิมที่ A+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
หุ้นกู้ระยะสั้น 3,000 ล้านบาท                       คงเดิมที่ T1
แนวโน้มอันดับเครดิต:                             Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2552 ห้ามมิให้บุคคลใดใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต  ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ   แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ  ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน  บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงมิได้รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้น ผลที่ได้รับ หรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ