เลือกตั้ง'62: "สุดารัตน์-ชัชชาติ" เปิดแนวทางฟื้นศก.รับโลกยุคใหม่ผ่านนักบริหารมืออาชีพ ชี้หมดเวลา"ประยุทธ์"

ข่าวการเมือง Thursday March 21, 2019 17:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง และแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย แถลงนโยบายแก้วิกฤตเศรษฐกิจในช่วงโค้งสุดท้ายการเลือกตั้ง

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาภาวะเศรษฐกิจซบเซาในปัจจุบันว่า พรรคเพื่อไทย ขออาสาเข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยอยู่รั้งท้ายในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเด็นการศึกษาที่น่าเป็นห่วง ทั้งนี้ ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทยจนมาถึงพรรคเพื่อไทย ได้พิสูจน์แล้วว่าบุคลากรของพรรคเป็นทีมบริหารมือชีพ ที่นำพาประเทศพ้นวิกฤตมาตั้งแต่สมัยต้มยำกุ้ง ปี 2540

พรรคเพื่อไทย มองว่า วิกฤตที่เกิดขึ้นคือโอกาสที่จะผลิตนโยบายใหม่ ๆ ออกมาแก้ไขปัญหา และยังมั่นใจว่าคนรุ่นใหม่มีความสามารถ และเชื่อว่าพลังของพวกเขาจะสามารถขับเคลื่อนประเทศ รวมถึงต้องมีการรื้อฟื้นแนวคิด SMEs ที่ไม่มีความมั่นคงตลอด 5 ปีที่ผ่านมา โดยสร้างกองทุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถแต่ไม่มีโอกาส และเข้าไปประสานกับมหาวิทยาลัยผ่านการสนับสนุนของภาครัฐ โดยให้ผ่อนคืนภาครัฐเมื่อสามารถตั้งตัวมีความมั่นคงในชีวิต อีกทั้งต้องเตรียมพร้อมกับธุรกิจยุคใหม่ อาทิ การค้าออนไลน์

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า หากรัฐบาลเพื่อไทยเข้ามาบริหารประเทศ จะไม่สร้างความขัดแย้งแต่จะรับฟังความเห็นต่าง และขอให้ร่วมมือกันพาประเทศพ้นวงจรอุบาทว์ ที่อาศัยความขัดแย้งและเรียกทหารเข้ามาสะสางปัญหา โดยจะนำประสบการณ์ทางการเมืองตลอด 27 ปี มาบริหารประเทศ

"พรรคเพื่อไทยจะเป็นเป็นฐานล่าง ที่จะสร้างตึกที่เปรียบเสมือนประชาชน โดยจะจับมือกับนายชัชชาติ ร่วมกันสร้างฐานรากให้แข็งแรง ให้ประเทศไทยทัดเทียมนานาประเทศได้" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

ส่วนนโยบายด้านการท่องเที่ยวนั้น พรรคเพื่อไทยจะเติมกำลังซื้อให้คนในประเทศ และจะปฏิรูปเรื่องการเกษตร และด้านคุณภาพชีวิตและสุขภาพของคนไทยให้ดีขึ้น ซึ่งเชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพ และการศึกษาต้องเปิดทางให้เกิดความหลากหลาย ขณะที่ปัญหายาเสพติดในประเทศก็จะต้องหมดไป

สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ คาดว่า ประชาชนต้องเลือกพรรคเพื่อไทยอย่างถล่มทลาย เพื่อให้เข้าไปเป็นหัวหอกต่อสู้กับ ส.ว. 250 เสียงที่รัฐบาล คสช.เลือกเข้ามา โดยไม่ผ่านเสียงของประชาชน

คุณหญิงสุดารัตน์ ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่ปล่อยให้ประเทศล้าหลังและสิ้นหวังอย่างในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตัดโอกาสคนรุ่นใหม่ที่จะใช้ศักยภาพตัวเอง สร้างรายได้ รวมถึงโอกาสของประชาชนคนทั้งประเทศ เพราะรัฐบาลปัจจุบันตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ใช้งบประมาณไป 13 ล้านล้านบาท ล้มเหลวสะท้อนผ่านตัวเลข GDP ทำให้เกิดภาวะรวยกระจุกจนกระจาย ใช้เงินเก่งแต่หาเงินไม่ได้ โดยยกตัวอย่าง การขึ้นภาษีน้ำมัน ซึ่งสร้างผลกระทบต่อประชาชน ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น อีกทั้งยังขูดรีดภาษีประชาชน หลังรัฐประหหาร ทำให้หนี้เสียและหนี้คนไทยเพิ่มขึ้น

"วันนี้หมดเวลาแล้วที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะสืบอำนาจผ่านกลไกของรัฐธรรมนูญ รวมทั้งอำนาจผ่านองค์กรอิสระ เช่น กรณีหานาฬิกาไม่เจอ หรือกรณีสถานะของนายกฯ ที่ไม่แน่ชัดว่าดำรงตำแหน่งในสถานะอะไร ส่วนธุรกิจของโลกยุคใหม่ ก็ไม่มีการช่วยเหลือ และยังดึงต่างชาติเข้ามา แต่ไม่เหลียวมองคนตัวเล็กในประเทศไทย ดังนั้นต้องเลือกอย่างถล่มทลาย ผ่านยุทธศาสตร์ในการส่งเพื่อไทยเข้าไปต่อสู้กับผู้มีอำนาจ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ ต้องเลือกเพื่อไทยเข้าไปสกัดกั้นส.ว. และเพื่อไทยจะสร้างความสงบสุข ที่อยู่บนพื้นฐานเศรษฐกิจที่ดี และเคารพเสียงประชาชน ไม่สร้างความเกลียดชัง เดินหน้าหาพันธมิตรไม่ให้เกิดความขัดแย้ง และย้ำว่าเพื่อไทยจะไม่เป็นเหยื่อของความขัดแย้ง" คุณหญิงสุดารัตน์ระบุ

ส่วนวาทกรรมที่โจมตีพรรคเพื่อไทยว่าจัดสรรงบประมาณที่ไม่เป็นธรรรมนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ยืนยันว่า ไม่มีการแบ่งงบประมาณไปยังเฉพาะพื้นที่ที่ให้การสนับสนุนพรรคเท่านั้น ซึ่งตัวเลขเหล่านี้พิสูจน์ได้ว่าไม่ใช่วาทกรรม เพราะพรรคเพื่อไทยมองเห็นความเดือดร้อนของคนไทยเท่าเทียมกันทั้งประเทศ

ด้านนายชัชชาติ ระบุว่า ผู้บริหารมืออาชีพไม่ใช่การสร้างวาทกรรม หากพรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาล เราไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเจ้าของประเทศ แต่พรรคมีวิสัยทัศน์ที่จะมุ่งดูแลสร้างคุณภาพชีวิตประชาชนดีขึ้น และสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเป็นผู้บริหารอาชีพ นอกจากนี้ ต้องมองอนาคตด้วยความเข้าใจบริบทของสังคม ไม่ใช่ความเพ้อฝัน โดยมีผลงานที่เป็นรูปธรรม ถ้าไม่สามารถทำตามสัญญาได้ประชาชนก็ไม่เลือกพรรคเพื่อไทยในสมัยหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ