สศก. หารือร่วมจีน รุกแนวทางทางนวัตกรรมดาวเทียมเพื่อประโยชน์ทางการเกษตร

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 18, 2019 12:54 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ม.ค.--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร นายฉันทานนท์ วรรณเขจร รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการร่วมหารือถึงแนวทางการพัฒนาการสำรวจการผลผลิตพืชด้วยดาวเทียม หรือ Crop Production Survey by Satellite ณ มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง (Zhejiang University) และ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์หนานจิง (Nanjing Agricultural University) ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้เข้าร่วมโครงการความร่วมมือไทย - จีน (Sino - Thai) ด้านวิชาการระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศไทย จากการหารือร่วมกัน พบว่า ขณะนี้จีนใช้ดาวเทียมที่มีอยู่อย่างหลากหลาย ในภารกิจด้านการเกษตรและด้านอื่นๆ โดยดาวเทียมหลัก ได้แก่ HJA/B ,GF-1, GF-2 , GF-6 , Sentinel-2 และ CBERS ซึ่งนับว่ามีรายละเอียดของภาพระดับสูง ร่วมกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่มีอยู่ โดยเชื่อมโยงหรือส่งข้อมูลถึงกันได้ด้วยอินเทอร์เน็ต (Internet of Things : IoT) เชื่อมโยงเซ็นเซอร์ต่างๆ ที่กระจายอยู่มากกว่า 2,000 จุดทั่วประเทศ รวมทั้งการใช้อากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial Vehicle : UAV) เป็นตัวตรวจสอบค่าความผิดพลาด จากการวัดค่าการเปลี่ยนแปลงของตัวแปรต่างๆ อาทิ อุณหภูมิ ความชื้น และกระแสลม ตลอดจนมีการใช้กล้องวงจรปิดเพื่อติดตามการเจริญเติบโตของต้นพืชและการเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากแมลงศัตรูพืชอีกด้วย นอกจากจะใช้ดาวเทียมสำรวจข้อมูลด้านการเกษตรภายในประเทศของตนเองแล้ว จีนยังใช้ดาวเทียมที่มีรายละเอียดสูง ประเมินเนื้อที่และผลผลิตด้านการเกษตรของประเทศอื่นๆ รวมทั้งประเทศไทยด้วยเช่นกันในการบริหารนโยบายด้านการเกษตรของประเทศตนเอง โดยหากผลผลิตในประเทศอื่นมีปริมาณมาก จีนจะดำเนินนโยบายรับซื้อจากต่างประเทศ ในทางกลับกันหากปริมาณการผลิตในประเทศอื่นมีปริมาณน้อย ประเทศจีนจะผลิตสินค้าดังกล่าวในประเทศเพิ่มขึ้น ดังนั้น ข้อมูลด้านดาวเทียม นับเป็นการใช้ประโยชน์เพื่อประเมินผลผลิต และส่งเสริมการเพาะปลูกสินค้าเกษตร ตลอดจนกำหนดนโยบายบริหารสินค้าเกษตรที่จะนำเข้ามาในประเทศ สำหรับประเทศไทย ขณะนี้ สศก. ได้ใช้เทคโนโลยีจากดาวเทียมเพื่อสำรวจผลผลิตทางการเกษตร จากภาพถ่ายดาวเทียม LANDSAT8 ทางเว็บไซต์https://earthexplorer.usgs.gov/ ซึ่งทุก 16 วัน ภาพถ่ายดาวเทียมจะโคจรมาซ้ำบริเวณเดิม ร่วมกับแผนที่รายละเอียดสูงจาก Google มาใช้ในการแปลและวิเคราะห์เพื่อจำแนกเนื้อที่เพาะปลูกและเนื้อที่ยืนต้นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ข้าวนาปี ข้าวนาปรัง มันสำปะหลัง สับปะรดโรงงาน ยางพารา และ ปาล์มน้ำมัน และคาดว่าในระยะต่อไป สศก. จะเริ่มใช้ดาวเทียมธีออส 2 (THEOS 2) ในการสำรวจแทน ซึ่งตอบโจทย์การใช้ประโยชน์โดยรวมหลากหลายด้าน ทั้งการนำไปใช้ประโยชน์ด้านการเกษตร ด้านการจัดการน้ำแบบองค์รวม การจัดการด้านภัยพิบัติด้านภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งด้านความมั่นคงด้านสังคมและเศรษฐกิจ ทั้งนี้ จากการหารือร่วมกันดังกล่าว นับเป็นแนวทางในการพัฒนารูปแบบการจัดทำข้อมูลสารสนเทศการเกษตรของประเทศไทยด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย ซึ่งการใช้ภาพถ่ายดาวเทียมรายละเอียดสูง เครื่องมือที่ใช้อินเทอร์เน็ต IoT และ UAV ถือเป็นแนวทางประยุกต์เพื่อประโยชน์ต่อการบริหารจัดการสินค้าเกษตรของประเทศไทยให้มีความแม่นยำ ถูกต้อง และตอบสนองความต้องการใช้ข้อมูลของผู้ใช้ (user) ในแต่ละระดับต่อไปในอนาคต

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ