คารากา, ฟิลิปปินส์--19 พ.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับประเทศต่างๆในเส้นทางสายไหมแห่งศตวรรษที่ 21 ภายใต้โครงการริเริ่ม Belt and Road Initiative (BRI) บริษัท XCMG จึงได้มีส่วนร่วมในโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญหลายโครงการ โดยล่าสุดบริษัทได้จัดหารถปั๊มคอนกรีตและรถผสมปูนสำหรับใช้ในโครงการสร้างสะพานในคารากา ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งจะยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนท้องถิ่น ตลอดจนเศรษฐกิจของภูมิภาคให้ดีขึ้น
"นอกจากโครงการสร้างสะพานในฟิลิปปินส์แล้ว ผลิตภัณฑ์ของ XCMG กำลังมีบทบาทสำคัญอย่างมากในโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆของประเทศในเอเชียและแอฟริกาที่อยู่ตามแนวเส้นทาง BRI ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือ ทางรถไฟ นิคมอุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะอื่นๆ" นายหวัง หมิน ประธาน XCMG กล่าว
XCMG ได้มีส่วนร่วมในโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆมาตั้งแต่เริ่มเปิดตัวแผนริเริ่ม BRI เมื่อปี 2556 โดยโครงการเหล่านั้น บวกกับประสบการณ์ 30 ปีของ XCMG กำลังช่วยให้หลายประเทศในภูมิภาคแอฟริกาตะวันออกเฉียงเหนือขับเคลื่อนกระบวนการพัฒนาอุตสาหกรรม พร้อมสานฝัน "African Dream"
ในเคนยา รถตัก ZL50G และรถเครน QY50K ของ XCMG ได้สนับสนุนงานที่ท้าทายอย่างการสร้างทางรถไฟสายมอมบาซา-ไนโรบี และ ไนโรบี-มาลาบาร์ ขณะที่รถเครน QY25K-II ได้มีส่วนสนับสนุนโครงการขยายอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยานนานาชาติโบเลในเอธิโอเปีย และรถขุด XE215C ถูกนำไปใช้งานในเหมืองทองคำฮัสไซในทะเลทรายซาฮารา คิดเป็นชัวโมงทำงานถึง 6,000 ชั่วโมง
"XCMG ใช้เวลา 3 ปีในการวางแผน พัฒนา และดำเนินโครงการต่างๆ อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ BRI และในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมที่ยึดถือความ "ก้าวหน้าและทนทาน" เป็นมาตรฐานการดำเนินงาน XCMG จึงภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ BRI ซึ่งไม่ได้หมายถึงการสร้างถนนและสะพานเท่านั้น แต่ยังเป็นการยกระดับชีวิตของผู้คนอีกด้วย" นายหวังกล่าว
เกี่ยวกับ XCMG:
XCMG เป็นบริษัทข้ามชาติผู้ผลิตเครื่องจักรหนักที่มีประวัติความเป็นมายาวนานถึง 74 ปี และปัจจุบันติดอันดับ 9 ในอุตสาหกรรมเครื่องจักรก่อสร้างของโลก บริษัทส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังกว่า 177 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.xcmg.com หรือเพจ XCMG บน Facebook , Twitter , YouTube , LinkedIn และ Instagram