หลักเกณฑ์การกำกับดูแลการประกอบธุรกิจระบบการชำระเงินภายใต้การกำกับ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 16, 2018 15:32 —ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย

เรื่อง หลักเกณฑ์การกำกับดูแลการประกอบธุรกิจระบบการชำระเงินภายใต้การกำกับ
เลขที่ สนช. 4/2561
ประกาศ ณ วันที่          16 เมษายน 2561
วันที่ลงในราชกิจจานุเบกษา  17 เมษายน 2561
วันที่มีผลบังคับใช้          16 เมษายน 2561
วันที่สิ้นสุดผลบังคับใช้          -

สถาบันผู้เกี่ยวข้อง

1.ธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศ

2.ธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศ

3.ผู้ให้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มิใช่ สง.

4.สถาบันการเงินเฉพาะกิจ

วัตถุประสงค์/หลักการ/เหตุผล

เพื่อกำกับดูแลระบบการชำระเงินภายใต้การกำกับให้มีความมั่นคงปลอดภัย มีการบริหารจัดการความเสี่ยงที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล สามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่องทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน รวมถึงส่งเสริมประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนให้มีการคุ้มครองผู้ใช้บริการของระบบอย่างเหมาะสม โดยมีกรอบหลักการกำกับดูแล 5 ด้าน ได้แก่ ฐานะทางการเงิน ธรรมาภิบาล การบริหารความเสี่ยงและความปลอดภัย การคุ้มครองผู้ใช้บริการ และการส่งเสริมประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขัน

สาระสำคัญ

1) ด้านฐานะทางการเงิน เช่น ต้องมีทุนจดทะเบียนซึ่งชำระแล้วไม่ต่ำกว่าที่กำหนด ห้ามลดทุนจดทะเบียนชำระแล้วก่อนได้รับอนุญาต และจัดทำแผนการดำเนินธุรกิจ รวมถึงจัดเตรียมงบประมาณให้เพียงพอรองรับการดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน

2) ด้านธรรมาภิบาล เช่น จัดโครงสร้างองค์กรที่มีการสอบทานและถ่วงดุลอำนาจ มีการควบคุมภายในและตรวจสอบการดำเนินงาน มีการกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของกรรมการหรือผู้ซึ่งมีอำนาจจัดการ และหน่วยงานต่าง ๆ อย่างชัดเจนและเหมาะสม มีบุคลากร/หน่วยงานกำกับดูแลการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ รวมทั้งจัดให้มีการตรวจสอบการควบคุมภายในและการบริหารความเสี่ยงทุกปี

3) ด้านการบริหารความเสี่ยงและความปลอดภัย เช่น มีนโยบายความเสี่ยงที่คณะกรรมการบริษัทเห็นชอบ มีการกำหนดแนวทางการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจและทดสอบแผนรองรับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง (BCP) อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง มีการบริหารความเสี่ยงด้านระบบสารสนเทศและจัดให้มีการตรวจสอบระบบสารสนเทศโดยผู้ตรวจสอบภายนอกทุกปี มีการบริหารความเสี่ยงกรณีการใช้บริการ outsource

4) ด้านการคุ้มครองผู้ใช้บริการ เช่น การกำหนดข้อตกลงในการให้บริการและเปิดเผยให้ผู้ใช้บริการทราบ การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล การเปิดเผยค่าธรรมเนียมการใช้บริการ และการดำเนินการเมื่อมีการร้องเรียนจากผู้ใช้บริการ

5) ด้านการส่งเสริมประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขัน เช่น การกำหนดเป้าหมายในการให้บริการและติดตามประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ และการรับฟังความคิดเห็นของผู้ใช้บริการ

6) การเลิกประกอบธุรกิจ ต้องแจ้ง ธปท. ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 90 วัน โดยรัฐมนตรีมีอำนาจสั่งให้ดำเนินการใด ๆ เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้ใช้บริการหรือสาธารณชนก่อนเลิกประกอบธุรกิจก็ได้

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ