รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (โครงการพัฒนาศิริราชสู่สถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์)

คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (โครงการพัฒนาศิริราชสู่สถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์) ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ สรุปได้ดังนี้

1. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดลได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบพัสดุโดยใช้วิธีการประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยประกาศประกวดราคาเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2550 ยื่นเอกสารการประมูลเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2550 ดำเนินการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2550 ซึ่งบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ชนะการประกวดราคา เสนอราคารวมทั้งสิ้น 6,148,755,000 บาท และมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการตามระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โดยขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ พิจารณาความเหมาะสมของวงเงินค่าก่อสร้าง ซึ่งสำนักงบประมาณได้เห็นชอบให้มหาวิทยาลัยมหิดลดำเนินการก่อสร้างอาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการวิจัยและบริการทางการแพทย์พร้อมระบบสาธารณูปการ ในวงเงิน 6,148,755,000 บาท

2. มหาวิทยาลัยมหิดลได้ดำเนินการทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2550 กำหนดเริ่มดำเนินการตามสัญญาในวันที่ 15 สิงหาคม 2550 และสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 13 สิงหาคม 2554 มีระยะเวลาดำเนินการ 1,460 วัน งวดงานจำนวน 48 งวด ซึ่งจะเป็นการก่อสร้างอาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการวิจัยและบริการทางการแพทย์พร้อมระบบสาธารณูปการ ประกอบด้วยอาคารหลัก 2 อาคาร เป็นที่ตั้งของศูนย์ความเป็นเลิศทางการวิจัย เป็นอาคารสูง 12 ชั้น พื้นที่ใช้สอยรวม 30,925 ตารางเมตร และศูนย์ความเป็นเลิศในการบริการทางการแพทย์ฯ เป็นอาคารสูง 14 ชั้น ชั้นใต้ดิน 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 212,450 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังประกอบด้วย อาคารผลิตไฟฟ้าย่อยพื้นที่ใช้สอย 2,850 ตารางเมตร และอาคารเวทีการแสดงกลางแจ้งและศาลาสัญลักษณ์พื้นที่ใช้สอย 2,775 ตารางเมตร รวมพื้นที่ใช้สอยทั้งโครงการ 249,000 ตารางเมตร

งบประมาณค่าก่อสร้างทั้งสิ้น 6,148,755,000 บาท

             - เงินนอกงบประมาณ        3,648,755,000 บาท
             - เงินงบประมาณ           2,500,000,000 บาท

3. ผลการดำเนินการ

3.1 ระดับความสำเร็จตามขั้นตอนที่กำหนด

3.1.1 ผลงานในงวดที่ 1 งานโครงสร้าง (รวมงานเจาะเสาเข็ม) จะต้องดำเนินการก่อสร้างงานโครงสร้างอาคารชั้นใต้ดินและอาคารโรงพยาบาล (SiMC) แล้วเสร็จไม่น้อยกว่าร้อยละ 4 ในวันที่ 13 ตุลาคม 2550

3.1.2 ผลงานในงวดที่ 2 งานโครงสร้าง (รวมงานเจาะเสาเข็ม) จะต้องดำเนินการก่อสร้างงานโครงสร้างอาคารชั้นใต้ดินและอาคารโรงพยาบาล (SiMC) แล้วเสร็จไม่น้อยกว่าร้อยละ 8 ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2550

3.1.3 ผลงานในงวดที่ 3 งานโครงสร้าง (รวมงานเจาะเสาเข็ม) จะต้องดำเนินการก่อสร้างงานโครงสร้างอาคารชั้นใต้ดินและอาคารโรงพยาบาล (SiMC) แล้วเสร็จไม่น้อยกว่าร้อยละ 12 ในวันที่ 12 ธันวาคม 2550

3.1.4 ผลงานในงวดที่ 4 งานโครงสร้าง (รวมงานเจาะเสาเข็ม) จะต้องดำเนินการก่อสร้างงานโครงสร้างอาคารชั้นใต้ดินและอาคารโรงพยาบาล (SiMC) แล้วเสร็จไม่น้อยกว่าร้อยละ 17 ในวันที่ 11 มกราคม 2551

3.1.5 ผลงานในงวดที่ 5 งานโครงสร้าง (รวมงานเจาะเสาเข็ม) จะต้องดำเนินการก่อสร้างงานโครงสร้างอาคารชั้นใต้ดินและอาคารโรงพยาบาล (SiMC) แล้วเสร็จไม่น้อยกว่าร้อยละ 22 ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2551

3.1.6 ผลงานในงวดที่ 6 งานโครงสร้างจะต้องดำเนินการก่อสร้างงานโครงสร้างอาคารชั้นใต้ดินและอาคารโรงพยาบาล (SiMC) แล้วเสร็จไม่น้อยกว่าร้อยละ 26 ในวันที่ 11 มีนาคม 2551

3.1.7 ผลงานในงวดที่ 7 งานโครงสร้างจะต้องดำเนินการก่อสร้างงานโครงสร้างอาคารชั้นใต้ดินและอาคารโรงพยาบาล (SiMC) แล้วเสร็จไม่น้อยกว่าร้อยละ 28 ในวันที่ 10 เมษายน 2551

3.1.8 ผลงานในงวดที่ 8 งานโครงสร้างจะต้องดำเนินการก่อสร้างงานโครงสร้างอาคารชั้นใต้ดินและอาคารโรงพยาบาล (SiMC) แล้วเสร็จไม่น้อยกว่าร้อยละ 33 ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2551

3.2 ร้อยละของการดำเนินการตามเป้าหมาย

งานโครงสร้างอาคารชั้นใต้ดินและอาคารโรงพยาบาล (SiMC) จนถึงเดือนพฤษภาคม 2551 ดำเนินการได้ร้อยละ 33 และได้ผลงานตามเป้าหมายในงวดที่ 8 ภายในเดือนพฤษภาคม 2551 หรือคิดเป็นร้อยละ 7.92 ของโครงการ

3.3 จำนวนเงินงบประมาณที่ใช้จ่าย

3.3.1 ปีงบประมาณ 2550 ใช้จ่ายเป็นค่าจ้างล่วงหน้าตามสัญญา จากเงินงบประมาณแผ่นดิน 307,437,750 บาท และงานงวดที่ 1 จากเงินนอกงบประมาณ 43,579,301.06 บาท

3.3.2 ปีงบประมาณ 2551 ระหว่างเดือนตุลาคม 2550 — พฤษภาคม 2551 ใช้จ่ายงบประมาณ 301,568,763.34 บาท จากแหล่งเงิน 1) เงินงบประมาณแผ่นดิน 159,210,350.00 บาท 2) เงินนอกงบประมาณ 142,358,413.34 บาท

3.4 ปัญหา/อุปสรรค

3.4.1 มีฝนตกมาก

3.4.2 ที่ดินที่ได้รับจากการรถไฟที่ขาดอยู่ประมาณ 1.5 ไร่ การรถไฟอนุญาตให้ก่อสร้างชั้นใต้ดินได้ ส่วนที่ชั้น 1 ยังจำเป็นต้องคงรางรถไฟไว้ในพื้นที่โครงการบางส่วน ทำให้ต้องมีการแก้ไขแบบ คิดเป็นงานเพิ่ม 192,224.39 บาท

3.4.3 มีแนว Duct Bank ไฟฟ้าแรงสูง (ใต้ดิน) ผ่านพื้นที่โครงการทำให้ต้องแก้ไขแบบให้อาคารหลบแนว Duct Bank ดังกล่าว คิดเป็นงานลด 1,154,814.42 บาท

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 9 มิถุนายน 2552 --จบ--