ในปี 2554 เศรษฐกิจของฮังการีจะเติบโตแบบมีอัตราเร่งประมาณร้อยละ 2.5 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาซึ่งเติบโตเพียงร้อยละ 1.2 และคาดว่าจะสูงกว่าการคาดหมายของสหภาพยุโรปเกือบร้อยละ 0.7 อุตสาหกรรมพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่มีการเติบโต โดยหลักคือเกษตรกรรม ในขณะที่สาขาอื่นๆมีการเติบโตที่จำกัด ภาคอุตสาหกรรมที่เป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจยังคงเป็นอุตสาหกรรมการส่งออก การตกต่ำของความต้องการภายในประเทศคาดว่าจะจบสิ้นลง อย่างไรก็ตามในปี 2554 สถานการณ์ยังไม่สามารถฟื้นคืนสู่สภาพปกติได้มากเท่าไรนัก การก่อสร้างอาจจะฟื้นตัวเพียงเล็กน้อยในไตรมาสที่ 2 ของปี 2554 การค้าปลีกจะมีการขยับตัวดีขึ้นเล็กน้อย โดยหลักๆคือยานยนต์ และสินค้าบริโภคที่มีอายุงานยาวนาน
การลงทุนภายในประเทศและความต้องการของผู้บริโภค กำลังเพิ่มขึ้นในระดับปานกลาง ค่าจ้างแรงงานจะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 2 อัตราแลกเปลี่ยนเงินโฟรินท์อาจจะมีการผันผวนในช่วงระหว่างปี
แผนนโยบายเศรษฐกิจฉบับใหม่ “Szell Kalman and the Convergence Programme” ประกอบด้วยขั้นตอนการดำเนินงานที่สำคัญ เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง และเป้าหมายการขาดดุลของรัฐบาลในปี 2555 อาจจะเป็นไปตามที่กำหนดไว้
รายละเอียดของแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับใหม่ ซึ่งได้นำเสนอต่อสหภาพยุโรป ได้ประกาศสู่สาธารณชนเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา จากการประกาศของรัฐบาล “เงินสะสมที่คาดว่าจะได้จากการปรับเปลี่ยนโครงสร้างจะถูกรวมอยู่ในการจัดสรรค่าใช้จ่ายปี 2555” แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่เพียงพอต่อเป้าหมายการขาดดุลที่กำหนดไว้ ดังนั้นมาตรการที่เข้มงวดจะถูกนำเข้ามาใช้ ตามที่ระบุไว้ในแผนงาน
- ไม่ปรับขึ้นค่าจ้างพนักงานของรัฐ
- ปรับลดค่าใช้จ่ายเบี้ยบำนาญของบุคคลไร้ความสามารถ
- ไม่ปรับเพิ่มเงินสนับสนุนทางสังคมและครอบครัว
- เงินช่วยเหลือตลาดแรงงานจะถูกปรับโครงสร้างให้สอดคล้องกับแผน Szell Kalman
- ปรับลดค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนหน่วยงาน (price subsidies) เช่น เงินสนับสนุนทางด้านอุตสาหกรรมยา จะลดลงเหลือเพียงเท่าที่จำเป็น และการปรับขึ้นราคาสินค้าบริโภค จะให้ความช่วยเหลือในอัตราที่ต่ำสุด
- ลดจำนวนเงินช่วยเหลือแก่บริษัทขนส่งมวลชนของรัฐ
- เริ่มดำเนินการเปลี่ยนระบบการศึกษา higher educationให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ปรับโครงสร้างการทำงานของฝ่ายบริหารส่วนท้องถิ่นให้เหมาะสมกับรายได้หรือเศรษฐกิจของแต่ละท้องที่ และลดขั้นตอนการทำงานของฝ่ายบริหารงานส่วนกลาง ให้กระชับและรัดกุมมากขึ้น
- รายได้จากภาษีส่วนบุคคลจะลดลงเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของรายได้สุทธิ
- เพิ่มภาษีสรรพสามิตสินค้ายาสูบให้สูงขึ้น (เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของสหภาพยุโรป)
- การแปรรูปการจัดเก็บค่าธรรมเนียมสินค้า จะสามารถสร้างรายได้ในงบประมาณเพิ่มมากขึ้น
การคาดการณ์งบประมาณในปี 2556-2558 กำหนดขึ้นจากแนวโน้มการพัฒนาเศรษฐกิจมหภาค ที่คาดหวังว่าจะดีขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ และการดำเนินนโยบายทางการเงินแบบประหยัดอย่างต่อเนื่อง
- ภาษีพิเศษที่เรียกเก็บจากบางสาขาจะถูกยกเลิกในปี 2556
- ในช่วงระยะเวลา 2-3 ปี คาดว่าภาษีธนาคาร (harmonized bank tax) จะเริ่มประกาศใช้ในสหภาพยุโรป ทั้งนี้จะเป็นการเพิ่มรายได้ส่วนหนึ่งของงบประมาณปี 2556
- เลื่อนกำหนดแผนการปรับลดภาษีนิติบุคคล
- การคิดค่าธรรมเนียมการใช้ทางหลวงพิเศษตามระยะทางแบบอิเลคทรอนิกส์ ซึ่งจะเริ่มใช้ในปี 2556 จะสามารถสร้างรายได้ในอัตรา 3% ของ GDP
ที่มา: GKI, Convergence Program, Portfolio.hu data collection
สคร. ณ กรุงบูดาเปสต์
ที่มา: http://www.depthai.go.th