ในทุกปีประเทศจีนจัดให้มีการประชุมฟอรัมความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ประกอบการจีน ซึ่งจัดโดยสถาบันวิจัยการปฎิรูปและพัฒนาผู้ประกอบการจีน สถาบันวิจัยความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ประกอบการ สมาพันธ์ความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ประกอบการจีน ร่วมกันจัดขึ้นตั้งแต่ ปี ค.ศ.2005 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดกิจกรรมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แนวความคิดความรับผิดชอบต่อสังคมในผู้ประกอบการ ผลักดันให้เกิดผลขึ้นจริงในเชิงปฎิบัติ เป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนข่าวสารข้อมูลระหว่างรัฐบาลในและต่างประเทศ ผู้ประกอบการ นักวิชาการ และผู้สื่อข่าว ซึ่งการจัดประชุมในแต่ละครั้งที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนที่ดีจากพรรคฯ ผู้นำระดับประเทศ รัฐบาลมณฑลระดับต่างๆ ผู้สื่อข่าวจากในและต่างประเทศ ผู้ประกอบการและองค์กรความร่วมมือต่างๆทั้งในและต่างประเทศ ยังผลให้เกิด ความเชื่อมั่น ความน่าเชื่อถือ และมีอิทธิพลต่อสังคมในทุกระดับ เป็นผลให้เกิดการประชุมฟอรัมความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ประกอบการจีนในทุกๆปีและเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยยึดนโยบายสร้าง “สังคมแห่งความสันติสุข” ของรัฐบาลกลางเป็นแนวทางในการดำเนินการ ซึ่งต้องเริ่มจากหลักคิดเรื่องการมีมนุษยธรรมเป็นพื้นฐาน และพัฒนาไปตามแนวทางกระบวนการคิดแบบวิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างวัฒนธรรม และระเบียบแบบแผนของความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ประกอบการในจีน ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมที่ดีของชาติและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของผู้ประกอบการจีนต่อสังคมโลกอีกทาง
ปี 2005 ได้เริ่มมีการประชุมเป็นครั้งแรก หัวข้อการประชุมคือ “สันติสุขกับความรับผิดชอบ” ซึ่งมีอดีตรองประธานคณะกรรมาธิการสมัชชาประชาชนจีน นายปู้ เฮ้อ เป็นประธานกล่าวเปิด ซึ่งในที่ประชุมได้ประกาศปฎิญญาปักกิ่งเรื่อง “ความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ประกอบการจีน”
ปี 2006 การประชุมในครั้งที่ 2 รองประธานคณะกรรมาธิการสมัชชาประชาชนจีน นายเฉิง ซือ เวย เป็นประธานกล่าวเปิด
ปี 2007 การประชุมในครั้งที่ 3 หัวข้อการประชุมคือ “ความมั่งคั่งกับความรับผิดชอบ” ซึ่งมีรองประธานคณะกรรมาธิการกรมการเมือง นายจาง เหมยหยิง เป็นประธานกล่าวเปิด ซึ่งในที่ประชุมได้ประกาศ “กฎเกณฑ์มาตรฐานความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ประกอบการจีน”
ปี 2008 การประชุมในครั้งที่ 4 หัวข้อการประชุมคือ “ความปลอดภัยในที่สาธารณะ คุณค่าของชีวิต กับ ความรับผิดชอบต่อสังคม” ซึ่งมีอดีตรองประธานคณะกรรมาธิการสมัชชาประชาชน นายซือมายี ไอไม เป็นประธานกล่าวเปิด ซึ่งในที่ประชุมได้ประกาศ “แนวทางปฎิบัติในเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ประกอบการต่อกรณีเกิดภัยพิบัติธรรมชาติ ” ซึ่งในงานมีการประกาศมอบรางวัลผู้ประกอบการที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมให้บริษัทกว่า 100 บริษัท ซึ่งบริษัทที่ได้รับรางวัลส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่ได้จัดทำรายงานความรับชอบต่อสังคมและเผยแพร่ต่อที่สาธารณะ
ปี 2009 การประชุมในครั้งที่ 5 หัวข้อการประชุมคือ “ความรับผิดชอบกับการเติบโต” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 18-20 ธันวาคม 2552 สถานที่หอประชุมเจิ้งเซียะ โรงแรมเอเชีย ปักกิ่ง โดยจะเชิญตัวแทนจากภาครัฐเช่นกระทรวงโทรคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ คณะกรรมการพัฒนาและปฎิรูปเศรษฐกิจแห่งชาติ กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม และภาคเอกชนเช่นบริษัทชั้นนำต่างๆจากในและนอกประเทศ รวมถึงผู้เชียวชาญ องค์กรความร่วมมือต่างๆ มาเข้าร่วมอย่างคับคั่ง เนื่องจากปีนี้ถือเป็นปีที่รัฐบาลออกเอกสาร“ ความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ประกอบการปี 2009” ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาครั้งยิ่งใหญ่ในเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม ผู้สนใจสามารถค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ตามที่อยู่เวบไซต์ด้านล่าง http://finance.sina.com.cn/forum/5thzgqyshzrgflt/index.html ความตื่นตัวด้านความรับผิดชอบต่อสังคมในเขตพื้นที่ดูแลสคต.เฉิงตู
สคต.เฉิงตูมีเขตพื้นที่ดูแลครอบคลุมมณฑลเสฉวน ฉงชิ่ง หนิงเซียะและกานซู รวม 4มณฑล โดยที่ผ่านมาพื้นที่ดังกล่าวมีความตื่นตัวด้านCSR มากขึ้นตามกระแสนโยบายจากรัฐบาลกลางปักกิ่งที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่ปี 2005 จนถึงปัจจุบัน โดยเขตพื้นที่ดูแลของสคต.เฉิงตูมีกิจกรรมด้านCSRที่สำคัญดังนี้
1. บริษัทฉางหง บริษัทผลิตโทรทัศน์สียี่ห้อฉางหง ซึ่งใหญ่ที่สุดของจีน ในมณฑลเสฉวน ออกประกาศรายงานความรับผิดชอบต่อสังคม ในรายละเอียดกล่าวถึงกิจกรรมที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมทั้งปีและที่ผ่านมา
2. สมาพันธ์ความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ประกอบการจีน จัดกิจกรรมบรรยายสัญจรในมหาวิทยาลัยประจำมณฑล โดยได้เชิญหน่วยงานและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมบรรยายหัวข้อบรรยาย เช่น ความท้าทายของผู้ประกอบการSMEต่อความรับชอบต่อสังคม
3. รัฐบาลมหานครฉงชิ่งร่วมกับกรมประชาสัมพันธ์ จัดกิจกรรมมอบรางวัลแก่ผู้ประกอบการที่มีความเมตตาธรรม ประจำปี
4. สมาคมผู้ประกอบการลงทุนจากต่างประเทศ มหานครฉงชิ่ง จัดกิจกรรมอบรม ความรับผิดชอบต่อสังคมให้แก่ผู้ประกอบการ
5. บริษัท Intel ประเทศจีนจำกัดประกาศ รายงานความรับผิดชอบต่อสังคมประจำปี 2008-2009
6. และกิจกรรมทางสังคมอื่นๆที่จัดโดยหน่วยงานของรัฐบาลท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง
1. เริ่มจากปี1994 จีนส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปมากเป็นที่1ของโลกติดต่อกัน 6 ปี จึงได้รับการขนานนามว่าเป็นโรงงานของโลก เนื่องจากความพร้อมด้านแรงงาน และนโยบายที่สนับสนุนให้เกิดการตั้งโรงงานในจีน ประกอบกับการเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ในสินค้าประเภทที่ต้องใช้แรงงานมาก เช่น สิ่งทอ ผ้าสำเร็จรูป เครื่องหนัง รองเท้าหนัง และของเล่นเด็กที่ผลิตจากพลาสติก ประเทศผู้นำเข้าส่วนใหญ่ซึ่งเป็นประเทศในกลุ่มเขตพัฒนาเช่น อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ต่างก็คาดหวังว่าจีนจะเคารพกติกาการค้าโลกมากขึ้น หลังจากเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก(WTO)ในปี2001 โดยเพ่งเล็งและบีบคั้นจีนในด้านมาตรฐานความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ประกอบการ SA8000 (Social Accountability 8000 International Standard) มากขึ้นเรื่อยๆตามสภาวการณ์การค้าโลกที่จีนเข้าไปมีส่วนแบ่งมากขึ้น
2. ทางจีนมีความเห็นต่อมาตรฐาน SA8000 ว่าเป็นเสมือนมาตรการขัดแข้งจีนในเวทีการค้าโลกของประเทศตะวันตก แต่ส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นโอกาสของจีนในการพัฒนาเศรษฐกิจในรูปแบบสังคมนิยม โดยในเดือนกันยายน ปี 2004 ประธานาธิบดีจีน นายหูจิน เทา ได้ประกาศนโยบาย “ สร้างสังคมแห่งความสันติสุข” โดยคำนึงถึงการอยู่ด้วยกันอย่างสันติสุขของคนในสังคมส่วนใหญ่เป็นหลักในการดำเนินงานของรัฐ ซึ่งก็หมายรวมถึงการดำเนินการในเรื่อง ความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ประกอบการ ตามที่ประเทศคู่ค้ารายใหญ่ทางประเทศกลุ่มตะวันตก พยายามบอกให้จีนปฎิบัติ ซึ่งจีนก็ได้ประยุกต์แนวทางการปฎิบัติให้เป็นไปตามแบบฉบับของจีนเอง
3. รูปแบบการดำเนินนโยบายของรัฐบาลที่รวมศูนย์อำนาจจากส่วนกลาง สามารถสังเกตแนวทางนโยบายได้จากรัฐบาลส่วนกลางในนครปักกิ่ง เช่นกรมการเมือง คณะกรรมาธิการสมัชชาประชาชน คณะกรรมาธิการที่ปรึกษาการเมือง มอบแนวนโยบายผ่านกระทรวงและหน่วยงานต่างๆที่แกี่ยวข้องเช่นกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวิทยาศาสตร์ กระทรวงพาณิชย์ กรมประชาสัมพันธ์ เป็นผู้ให้ข้อมูลแก่ประชาชน และดำเนินกิจกรรมผ่านโครงการต่างๆที่สมาคมต่างๆจัดขึ้นเช่น สมาคมอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม สมาพันธ์ความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ประกอบการเป็นต้น ซึ่งการดำเนินมาตรการที่เกี่ยวกับ CSR ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนามาในช่วง 2005 - 2009 ซึ่งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้นหลังการประชุมฟอรัมความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ประกอบการครั้งที่ 5 ประจำปี 2009 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู
ที่มา: http://www.depthai.go.th