(เพิ่มเติม) ก.พลังงานให้ PTT นำเข้าน้ำมันเตา 29 ล้านลิตร 1 ก.ค.ป้อนโรงไฟฟ้ากระบี่

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 29, 2011 17:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ได้ให้ บมจ.ปตท.(PTT) เพิ่มการนำเข้าน้ำมันเตาที่มีซัลเฟอร์ 2% จำนวน 29 ล้านลิตรจากประเทศสิงคโปร์ ภายในวันที่ 1 ก.ค.นี้ เพื่อป้อนให้กับโรงไฟฟ้าที่กระบี่ และจัดซื้อน้ำมันเตาที่มีค่ากำมะถัน 0.5% จำนวน 30 ล้านลิตรป้อนให้กับโรงไฟฟ้าบางปะกง ซึ่งเริ่มจัดส่งได้วันที่ 6 กรกฎาคม รวมทั้งสั่งการให้มีการสำรองน้ำมันดีเซลเพื่อรองรับผลกระทบไว้ด้วย

ทั้งนี้คาดว่า ในช่วงวันที่ 27 มิ.ย.-17 ก.ค.54 จะต้องใช้น้ำมันเตาจำนวน 100-107 ล้านลิตร คิดเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น 1,200 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นมูลค่าไม่มากนักเมื่อเทียบกับค่าเชื้อเพลิงจากค่าไฟฟ้าอัตโนมัติผันแปร(Ft) ที่มีค่าเชื้อเพลิงในรอบ 4 เดือนประมาณ 1 แสนล้านบาท ซึ่งขอยืนยันว่า จะไม่ผลักภาระที่เกิดขึ้นให้ประชาชน ส่วนการแก้ปัญหาท่อส่งก๊าซรั่วของ ปตท.คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ หลังปิดวาล์วท่อก๊าซได้ในวันที่ 2 ก.ค.54

นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานได้ดำเนินการสั่งซื้อไฟฟ้าเพิ่มจากโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 สปป.ลาว อีก 150 ล้านหน่วยในเดือน ก.ค.54 จากเดิมรับซื้ออยู่ที่ 304 ล้านหน่วย และโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 ให้เดินเครื่องเต็มที่ และยังได้เลื่อนการหยุดเดินเครื่องโรงไฟฟ้าแม่เมาะ หน่วยที่ 10 และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมราชบุรีออกไปอีกดเวย

ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ที่ประชุมฯ ยังสั่งการให้ ปตท.เร่งจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) เพิ่มเติม จากที่นำเข้ามาในวันนี้ 7 หมื่นตัน หรือประมาณ 3 พันล้านลูกบาศก์ฟุต ซึ่งจะใช้ได้ 10 วัน โดย ปตท.จะนำเข้า LNG เพิ่มอีก 3 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ในวันที่ 26 ก.ค.นี้ และสั่งให้จัดหาเพิ่มก่อนวันที่ 29 ก.ค.54 ในปริมาณ 3 พันล้านลูกบาศก์ต่อวัน จากปัจจุบันที่มีสำรองอยู่แล้ว 3 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

"เชื่อว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติภายใน 2 สัปดาห์ นับจากวันที่จะส่งนักประดาน้ำลงไปปิดวาล์วท่อส่งก๊าซฯ ในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้ โดยในสัปดาห์หน้าคณะกรรมการบริหารเชื้อเพลิงจะมีการประชุมเพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์อีกครั้ง" นายณอคุณ กล่าว

ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ส่วนกรณีที่กลุ่มอุตสาหกรรมกระจกและเซรามิก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ออกมาคัดค้านการปรับขึ้นราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) ภาคอุตสาหกรรม ที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) มีมติให้ปรับขึ้นราคาไตรมาสละ 3 บาทต่อกิโลกรัม เริ่มตั้งแต่ 1 ก.ค.นี้ โดยอุตสาหกรรมดังกล่าวมีการใช้ LPG รวมมากกว่า 40,000 ตันต่อเดือน ดังนั้นกระทรวงพลังงานจำเป็นต้องดำเนินการตามมติ กพช.

โดยล่าสุด นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน ได้ลงนามในร่างประกาศการลอยตัวราคาแอลพีจีภาคอุตสาหกรรม และอยู่ระหว่างรอนายกรัฐมนตรีลงนามคำสั่งเพื่อให้มีผลบังคับใช้ อย่างไรก็ตามในส่วนของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมได้สั่งการให้กรมธุรกิจพลังงาน ออกมาตรการผ่อนผันผลกระทบให้กับผู้ประกอบการแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ