นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รมช.พาณิชย์ กล่าวภายหลังการเปิดงาน "มหกรรมฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ประสบอุทกภัย" ว่า เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยที่ได้รับผลกระทบให้สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้เป็นปกติโดยเร็ว โดยในงานดังกล่าวมีบริการให้คำปรึกษาแนะนำในการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย, เครื่องใช้ไฟฟ้า และรถยนต์
นอกจากนี้จะเร่งดูแลภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบทั้งธุรกิจไทยและต่างชาติ โดยกำหนดมาตรการผ่อนผันลดภาระทางธุรกิจทั้งการผ่อนผันการแจ้งบัญชีหรือเอกสารประกอบการลงบัญชีที่สูญหายหรือเสียหาย ให้สามารถยื่นล่าช้าจากที่กฎหมายกำหนดได้ และสามารถใช้เป็นหลักฐานกรณีถูกเรียกตรวจสอบบัญชี ผ่อนผันการยื่นงบการเงินประจำปีของธุรกิจที่มีรอบปีบัญชีอยู่ในระหว่างเวลาที่เกิดอุทกภัย เป็นต้น
รวมถึงขอความร่วมมือจากธุรกิจแฟรนไชส์ที่สามารถดำเนินธุรกิจได้ง่าย ใช้เงินลงทุนไม่สูงให้เปิดรับผู้ประสงค์จะเริ่มต้นธุรกิจด้วยการลดค่าธรรมเนียม ตลอดจนช่วยเหลือด้านการเงิน โดยขออนุมัติวงเงินสินเชื่อเพื่อเป็นเงินกู้ยืมเพื่อการลงทุนและเงินทุนหมุนเวียนในการฟื้นฟูปรับปรุงกิจการวงเงินสินเชื่อรวม 5,000 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ
รมช.พาณิชย์ ยังกล่าวถึงมาตรการช่วยธุรกิจต่างชาติว่า จะปรับลดขั้นตอนการปฏิบัติงานและผ่อนผันการยื่นเอกสารหลักฐาน รวมทั้งเร่งรัดพิจารณาอนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจให้เร็วกว่ากฎหมายกำหนด รวมทั้งจะหารือร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อรวบรวมรายชื่อคนต่างด้าวที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและประสงค์จะขออนุญาตประกอบธุรกิจบริการให้กู้ยืมเงินและบริการรับค้ำประกันการกู้ยืมเงินเป็นการชั่วคราว
นายศิริวัฒน์ ยังกล่าวถึงแนวทางการช่วยเหลือฟื้นฟูบริษัทต่างด้าวในไทยที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้กระทรวงพาณิชย์ผ่อนผันการดำเนินการตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 โดยให้บริษัทแม่ที่เป็นนิติบุคคลต่างด้าวในไทย สามารถให้กู้ยืมเงินแก่บริษัทลูกที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมได้
โดยขณะนี้ได้ประสานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) รวบรวมรายชื่อบริษัทต่างด้าวแล้ว จากนั้นจะเสนอให้ที่ประชุมครม.อนุมัติให้ทำธุรกิจชั่วคราวโดยไม่ต้องขออนุญาตการทำธุรกิจจากคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวอีก
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นได้อนุมัติให้บริษัทแม่ที่เป็นนิติบุคคลต่างด้าวให้กู้ยืมแก่บริษัทในเครือแล้ว 3 ราย ได้แก่ 1.บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด 2.บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และ3.บริษัท ไทย โฮริคาว่า จำกัด