สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตภาคธนาคารของสเปน หลังสเปนถูกฟิทช์ลดอันดับเครดิต ขณะเดียวกันมีรายงานว่าสเปนเตรียมขอรับเงินช่วยเหลือจากสหภาพยุโรปในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงแตะที่ 1.2507 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2601 ดอลลาร์เมื่อวันพฤหัสบดี
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 79.48 เยน จากระดับ 79.68 เยน แต่ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9603 ฟรังค์ จากระดับ 0.9532 ฟรังค์ และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ 1.0293 จากระดับ 1.0247
ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะที่ 1.5462 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5553 ดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ เมื่อช่วงค่ำของวันพฤหัสบดี (เช้าวันศุกร์ตามเวลาประเทศไทย) ฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนลง 3 ขั้น สู่ระดับ BBB จากเดิมที่ A พร้อมระบุว่า ภาคธนาคารสเปนอาจต้องการเงินช่วยเหลืออย่างน้อย 1 แสนล้านยูโร
ขณะที่ในวันศุกร์ได้มีรายงานว่า สเปนเตรียมที่จะขอความช่วยเหลือทางการเงินจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อช่วยภาคธนาคารของประเทศ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อาวุโสของสหภาพยุโรป (อียู) 2 ราย โดยเจ้าหน้าที่จาก 17 ชาติสมาชิกยูโรโซน จะจัดการประชุมทางโทรศัพท์ในวันเสาร์นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับจำนวนเงินหรือมาตรการช่วยเหลือ
“ดูเหมือนว่า สเปนจะถูกบีบให้ต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากอียู โดยอาจจะเป็นช่วงสุดสัปดาห์นี้" สตีเฟน เจ กิลฟอยล์ นักเศรษฐศาสตร์ที่เมอริเดียน อีควิตี้ พาร์ทเนอร์ส อิงค์ กล่าว
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอยังได้กดดันเงินยูโรด้วย หลังจากที่สำนักงานสถิติของอิตาลีเปิดเผยว่าผลผลิตอุตสาหกรรมในประเทศปรับตัวลดลงในเดือนเม.ย. ขณะที่สำนักงานสถิติของเยอรมนีเผยว่า การนำเข้าของเยอรมนีร่วงลงในอัตรารวดเร็วที่สุดในรอบ 2 ปี ขณะที่การส่งออกก็ร่วงลงเกินคาด ซึ่งรายงานดังกล่าวยิ่งเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจยูโรโซน เนื่องจากบ่งชี้ว่า วิกฤตหนี้ในภูมิภาคกำลังส่งผลกระทบต่อเยอรมนี ซึ่งมีระบบเศรษฐกิจใหญ่สุดในยูโรโซน