โดยระหว่างวันเงินบาทแข็งค่าสุดที่ระดับ 29.17/19 บาท/ดอลลาร์ และอ่อนค่าสุดที่ระดับ 29.32/34 บาท/ดอลลาร์ สำหรับสาเหตุที่เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงในวันนี้ ส่วนหนึ่งอาจจะมีผลทางจิตวิทยาหลังจากที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ดิ่งลงแรงถึง 50 จุด
"ที่หุ้นตกเยอะวันนี้ อาจจะมีผลทางจิตวิทยาให้บาทอ่อนค่า...สัปดาห์หน้าคงต้องตามเรื่องไซปรัสต่อ รวมทั้งสถานการณ์ตลาดหุ้นบ้านเราด้วย" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า สัปดาห์หน้าเงินบาทอาจเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 29.20-29.40 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนช่วงปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ระดับ 94.33/36 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรช่วงปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ระดับ 1.2929/2931 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปิดที่ระดับ 1,478.97 จุด ลดลง 50.55 จุด (-3.30%) มูลค่าการซื้อขายทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 101,362 ล้านบาท นักวิเคราะห์ระบุตลาดหุ้นไทยร่วงหนักคาดเป็นผลส่วนหนึ่งจาก force sell ร่วมด้วย และกังวลว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะออกมาตรการดูแลค่าเงินบาท
- สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของไซปรัสลง 1 ขั้น สู่ระดับ "ขยะ" หลังจากรัฐสภาไซปรัสได้ปฏิเสธมาตรการจัดเก็บภาษีเงินฝากในระบบธนาคาร ซึ่งส่งผลให้ไซปรัสเผชิญความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและแนวโน้มที่จะผิดนัดชำระหนี้อย่างที่ไม่สามารถควบคุมได้
ทั้งนี้ เอสแอนด์พีได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของไซปรัสลงจากระดับ CCC+ มาอยู่ที่ระดับ CCC และให้แนวโน้มเป็นลบ
- ตลาดหุ้นยุโรปอ่อนตัวลงในช่วงเปิดตลาดวันนี้ ขณะที่สมาชิกสภานิติบัญญัติของไซปรัสเตรียมอภิปรายเพื่อผ่าทางตันให้ประเทศได้รับเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้ไซปรัสหลีกเลี่ยงภาวะล่มสลายทางการเงินได้
- ธนาคารกลางไซปรัสได้เข้าแทรกแซงตลาดการเงิน เพื่อสยบข่าวลือที่ว่า "ธนาคารไซปรัส ปอปปูลาร์ แบงก์" ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของไซปรัสจะปิดกิจการลง ซึ่งข่าวลือดังกล่าวได้ส่งผลให้พนักงานและผู้ถือตราสารหนี้หลายร้อยคนของไซปรัส ปอปปูลาร์ แบงก์ ต่างพากันออกมาประท้วง และส่วนหนึ่งได้แห่ถอนเงินออก
- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติเห็นชอบร่างกฎหมายหมายรายจ่ายชั่วคราวของรัฐบาล ด้วยคะแนนเสียง 318 ต่อ 109 เพื่อเลี่ยงการปิดดำเนินงานของหน่วยงานรัฐบาลกลาง โดยสภาผู้แทนราษฎรได้อนุมัติร่างกฎหมายการใช้จ่ายชั่วคราว เพื่อจัดสรรเงินทุนแก่รัฐบาลกลางจนถึงสิ้นเดือนก.ย. หลังจากที่ร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาไปเพียง 1 วัน
- คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.พ. ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ขณะที่มีการปรับเพิ่มดัชนีชี้นำเดือนม.ค.เป็นเพิ่มขึ้น 0.5% จากเดิมที่รายงานไว้ที่ 0.2%
- องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ระบุในรายงานที่เผยแพร่วันนี้ว่า เศรษฐกิจของจีนมีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้ถึง 8.5% ในปี 2556 และขยายตัวได้ 8.9% ในปี 2557 โดยชี้ว่าจีนจะสามารถต้านทานภาวะเศรษฐกิจโลกที่เปราะบางได้ ขณะเดียวกันจีนจะได้ประโยชน์จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในตลาดที่อยู่อาศัย และการลงทุนทางธุรกิจที่ฟื้นตัวขึ้น แม้ว่าการส่งออกจะยังคงชะลอตัวก็ตาม