กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติเผย 1 ปีหนุนเอกชนเข้าถึงกรมธรรม์ 808,119 ฉบับ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 9, 2013 15:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานกองทุนฯ ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาหรือระหว่างวันที่ 28 มีนาคม 2555 ถึง 21 มีนาคม 2556 มีจำนวนกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติที่ยังมีความคุ้มครองอยู่ 808,119 ฉบับ ทุนประกันภัยพิบัติที่ยังมีความคุ้มครองอยู่ 75,926 ล้านบาท โดยเป็นทุนประกันภัยต่อตามสัดส่วนของกองทุนฯ ที่ยังมีความคุ้มครองอยู่ 52,123 ล้านบาทและเบี้ยประกันภัยต่อตามสัดส่วนของกองทุนฯ 420 ล้านบาท

ทั้งนี้กลุ่มบ้านอยู่อาศัยมีการซื้อกรมกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติสูงสุดในสัดส่วนร้อยละ 92 ของกรมธรรม์ทั้งหมด รองลงมาคือกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ร้อยละ 7 และกลุ่มอุตสาหกรรมร้อยละ 1 ของกรมธรรม์ทั้งหมด นอกจากนั้นพบว่ากลุ่มบ้านอยู่อาศัยมีสัดส่วนทุนประกันภัยต่อตามสัดส่วนของกองทุนฯ สูงสุดคือ ร้อยละ 58 ของทุนประกันภัยต่อทั้งหมด รองลงมาคือกลุ่มอุตสาหกรรมในสัดส่วนร้อยละ 26 ของทุนประกันภัยต่อทั้งหมดและกลุ่ม SMEs ในสัดส่วนร้อยละ 16 ของทุนประกันภัยต่อทั้งหมด

ในขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมมีเบี้ยประกันภัยต่อตามสัดส่วนของกองทุนฯ สูงสุดในสัดส่วนร้อยละ 44 ของเบี้ยประกันภัยต่อทั้งหมด รองลงมาคือกลุ่มบ้านอยู่อาศัยร้อยละ 36 ของเบี้ยประกันภัยต่อทั้งหมดและกลุ่ม SMEs ร้อยละ 20 ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการเรียกร้องสินไหมทดแทน

การดำเนินงานของกองทุนฯ ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาส่งผลให้สถานการณ์ของระบบประกันภัยปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น โดยมีบริษัทรับประกันภัยต่อจากต่างประเทศ (Reinsurer) กลับเข้ามาในไทยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตราเบี้ยประกันภัยปรับตัวลงมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม บริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการรับประกันภัยกับกองทุนฯ จำนวน 54 บริษัทมีความสามารถที่จะรับประกันภัย (Capacity) ไว้เองมากขึ้น โดยในปี 55 สัดส่วนการประกันภัยพิบัติที่บริษัทประกันภัยรับไว้เองในกลุ่มบ้านอยู่อาศัยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 34 ของทุนประกันทั้งหมด แต่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ยที่ร้อยละ 79 ในปี 56

ส่วนกลุ่ม SMEs และอุตสาหกรรมทุนประกันไม่เกิน 300 ล้านบาทในปี 55 บริษัทประกันภัยรับความเสี่ยงไว้เองเฉลี่ยร้อยละ 8 แต่ในปี 56 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ยร้อยละ 12 และสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมทุนประกันภัยเกิน 300 ล้านบาท บริษัทประกันภัยรับความเสี่ยงไว้เองในปี 55 เฉลี่ยที่ร้อยละ 7.6 แต่คาดว่าจะเพิ่มเป็นร้อยละ 8.1 ในปี 56 และทำให้อัตราเบี้ยประกันภัยต่อมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องรวมทั้งสร้างความมั่นใจแก่บริษัทประกันภัยมากขึ้น ประกอบกับในปี 55 ไม่ได้เกิดภัยพิบัติ ทำให้บริษัทประกันกล้ารับความเสี่ยงการประกันภัยพิบัติไว้เองมากขึ้น

“การดำเนินงานกองทุนฯ ที่ผ่านมา ถือเป็นส่วนหนึ่งในปัจจัยแห่งความสำเร็จต่อการฟื้นฟูความเชื่อมั่นแก่ภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ดังนั้นก้าวต่อไปของกองทุนฯคือยังคงทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการขับเคลื่อนให้ตลาดประกันภัยกลับสู่ภาวะที่ปกติมากที่สุด"นายพยุงศักดิ์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ