นักบริหารเงิน กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.17/18 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.20/22 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทที่แข็งค่าในช่วงนี้เป็นการแข็งค่าตามสกุลเงินในภูมิภาค เนื่องจากช่วงนี้มีเงินทุนไหลเข้ามาในตลาดเอเชียมากขึ้น ซึ่งเห็นได้จากดัชนีตลาดหุ้นไทยบวกติดต่อกันมาหลายวัน รวมทั้งตลาดพันธบัตรก็มีต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาซื้อ ขณะที่การเมืองไทยตอนนี้ยังค่อนข้างนิ่ง นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีการขายดอลลาร์เพื่อทำกำไรด้วย
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.10-32.30 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.06 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 102.05/08 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3860 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3837/3840 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,408.78 เพิ่มขึ้น 6.94 จุด (+0.50%) มูลค่าการซื้อขาย 37,191.38 ล้านบาท
- นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดภูมิภาคที่อยู่ในแดนบวกกัน หลังตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯออกมาดี อีกทั้งยังได้ Flow ไหลเข้ามาด้วย โดยพุ่งเป้ามาที่กลุ่มแบงก์-สื่อสารเป็นหลัก ขณะที่การเมืองช่วงนี้ก็ไม่ได้มีอะไร พรุ่งนี้ตลาดฯคงจะยังซิกแซกขึ้นได้ พร้อมให้แนวรับ 1,400 แนวต้าน 1,420 จุด
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,733.54 ลบ.(SET+MAI)
- ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) ออกแถลงการณ์เตือนทุกฝ่ายให้หลีกเลี่ยงการชุมนุมในระยะนี้ หลังจากมีข้อมูลอย่างเพียงพอที่บ่งชี้ได้ว่าจะเกิดความรุนแรงและเหตุร้ายขึ้น โดยเฉพาะการระดมจัดมวลชนให้มีการชุมนุมใหญ่ทั้งของ กปปส.และ นปช.รวมทั้งกลุ่มอื่นๆ ในลักษณะท้าทายและแข่งขันกัน ภายใต้เงื่อนไขสำคัญ คือ การวินิจฉัยสถานภาพของนายกรัฐมนตรี โดยองค์กรตามรัฐธรรมนูญ 2 องค์กร คือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ในโครงการจำนำข้าว และศาลรัฐธรรมนูญในกรณีการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาธิการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)
- ศาลรัฐธรรมนูญ จะพิจารณาคำร้องของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่ยื่นคำร้องขอเลื่อนการชี้แจงข้อกล่าวหากระทำการมิชอบในกรณีที่โยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาธิการ สมช. ในวันที่ 23 เม.ย.นี้ โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอเลื่อนเวลาออกไปอีก 15 วัน จากที่จะครบกำหนดในวันพรุ่งนี้(18 เม.ย.)
- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้ปรับตัวลงเล็กน้อย แต่ยังมีแนวโน้มช่วงขาขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับลง 0.1% แตะ 330.58 เมื่อเวลา 8.06 น.ตามเวลาลอนดอน ขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(FED) เน้นย้ำท่าทีในการหนุนเศรษฐกิจ
- ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) กล่าวว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงฟื้นตัวปานกลาง แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีการบริโภคในเดือนเม.ย.จาก 5% เป็น 8% ก็ตาม ทั้งนี้ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะยังใช้นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย และอาจจะตรวจสอบความเสี่ยงของผลด้านบวกและด้านลบที่มีต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและราคา แล้วทำการปรับเปลี่ยนอย่างเหมาะสม
- รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศปรับลดการประเมินเศรษฐกิจพื้นฐานเป็นครั้งแรกในรอบ 17 เดือนในรายงานเดือนเม.ย. โดยระบุว่าเป็นเพราะการใช้จ่ายผู้บริโภคอ่อนตัวลงหลังมีการปรับขึ้นภาษีการบริโภคเมื่อต้นเดือนเม.ย.
- นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีของจีน ระบุว่า รัฐบาลจีนไม่ได้มีการพิจารณาใช้มาตรการกระตุ้นที่แข็งแกร่ง และย้ำว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่สูงหรือต่ำกว่า 7.5% เล็กน้อยนั้น ถือเป็นระดับที่สมเหตุสมผลแล้ว โดยรัฐบาลจีนจะยังคงเดินหน้าใช้นโยบายการเงินแบบรอบคอบ ขณะเดียวกันก็จะยังคงนโยบายการคลังในเชิงรุก
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวลง 30 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,038 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,303.86 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 3.25 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง