วงการคาดราคายางปีนี้เคลื่อนไหว 50-70 บ./กก.หลากปัจจัยรุมเร้าฉุดราคา

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 23, 2014 14:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

แหล่งข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองแนวโน้มราคายางพาราปีนี้น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 50-70 บาท/กก.
เนื่องจากสถานการณ์โลกยังฉุดรั้งอีกทั้งปัจจัยพื้นฐานยังรุมเร้า โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนซึ่งเป็นผู้ใช้ยางเบอร์หนึ่งของโลกยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ แม้ว่าจีนจะมีแผนพัฒนาประเทศ และน่าจะมีความต้องการใช้ยางแต่เชื่อว่าจีนคงจะบริหารงบประมาณให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ เน้นการรักษาเสถียรภาพ มากกว่าที่จะทุ่มเงินงบประมาณในการพัฒนาประเทศ เพราะฉะนั้นจะใช้เงินแบบระมัดระวัง ถ้าจะสั่งซื้อยางก็คงจะทยอยซื้อ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือสต็อกยางของจีนยังมีมาก เพราะฉะนั้นความหวังที่จีนจะสั่งซื้อยางจากไทยมากเหมือนในอดีตอาจจะเป็นไปได้ยาก

นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังประมาณการผลผลิตยางธรรมชาติของไทยปีนี้น่าจะอยู่ที่ราวๆ 4.2 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 4.1 ล้านตันในปีก่อน แม้ว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงฤดูปิดกรีดของทั้งไทยและประเทศเพื่อนบ้านที่มีการปลูกยางพารา เช่น เวียดนาม กัมพูชา แต่ 2 เดือนให้หลังจากนี้เมื่อยางสามารถเปิดกรีดได้อีกครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่ก็ต้องจับตาดูว่าภาวะภัย แล้งจะส่งผลกระทบต่อต้นยางรุนแรงขนาดไหน สถานการณ์ราคาน้ำมันโดยเฉพาะสถานกาณณ์ในยูเครนและลิเบีย

"ปีนี้ต้องรอดูภัยแล้ง...จริงอยู่เวลาเกิดภัยแล้งอาจจะทำให้ผลผลิตออกไม่เต็มที่ ก็จะหนุนให้ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวดี ขึ้น แต่ถ้ากระทบมากไปจนทำให้เกิดความเสียหายใหญ่หลวง"แหล่งข่าว กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

พร้อมกันนี้ ยังมองว่าเกษตรกรชางสวนยางของไทยจำนวนไม่น้อยที่ยังขาดทักษะการทำงานด้านอื่นๆเพื่อเป็นรายได้เสริม ในช่วงที่ยางปิดกรีด ทำให้รายได้ไม่พอกับรายจ่าย ดังนั้น ฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรเร่งพัฒนาคุณภาพคนกรีดยางบ้านเราให้สามารถรับจ้าง ทำงานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมแปรรูปยางได้ด้วย

ด้านศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ (อีไอซี) ระบุว่า ปี 2557 มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเกิดปรากฏ การณ์เอลนินโญในไทย เช่นเดียวกับปี 2548 ที่มีพื้นที่ประสบภัยแล้ง 14 ล้านไร่ จากปีปกติที่พื้นที่ประสบภัยแล้งอยู่ที่ 5 แสน-2 ล้านไร่

ทั้งนี้ หากเกิดภัยแล้งขึ้นในหน้าฝนก็มีแนวโน้มที่ผลผลิตยางพาราจะปรับตัวลดลงมากกว่าปี 2005 เนื่องจากปัจจุบันผลผลิต ยางพาราของไทยมาจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ซึ่งมีแนวโน้มที่จะประสบปัญหาภัยแล้งรุนแรงกว่าภาคใต้) ราว 4.3 แสนตัน หรือคิดเป็น 12% ของผลผลิตทั้งประเทศ แตกต่างจากปี 2005 ที่มีผลผลิตยางพาราจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพียง 0.9 แสนตัน หรือราว 3% ของผลผลิตทั้งประเทศ โดยผลผลิตสินค้าเกษตรที่ลดลงจะช่วยผลักดันให้ราคาที่เกษตรกรขายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วย ชดเชยให้รายได้โดยรวมของเกษตรกรปรับตัวลดลงไม่มากนัก

ขณะที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) พยากรณ์ว่า เป็นห่วงยางพาราซึ่งจะมีผลผลิตออกมามากช่วงเดือน ก.ค. ถึงปลายปีในขณะที่รัฐบาลยังเก็บสต๊อกว่า 2 แสนตัน ซึ่งทำให้โอกาสที่ราคายางจะเพิ่มขึ้นมีไม่มากนัก

ด้านนายธนเสฏฐ์ ดีประเสริฐกุล ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท ดีเอส ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า คงเป็นเรื่องยากที่จะคาด การณ์แนวโน้มราคายางปีนี้ แต่คาดว่าไม่น่าจะดีเท่าไหร่ เพราะตัวเลขผลผลิตยางโลกยังสูง คาดการณ์ผลผลิตยางพาราส่วนเกินโลก จะเพิ่มขึ้นเป็น 652,000 ตัน หลังจากกลุ่มประเทศพม่า ลาว กัมพูชาซึ่งมีการเพาะปลูกยางพาราเพิ่มขึ้นและปีนี้เริ่มจะเก็บเกี่ยวผลได้ แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ