(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิดตลาด 32.33/35 ค่อนข้างนิ่งเหตุยังขาดปัจจัยใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 24, 2014 11:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้อยู่ที่ระดับ 32.33/35 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวในระดับเดียวกับช่วงเย็นวานนี้ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่ส่งผลกระทบเข้ามา
"เงินบาทเช้านี้ทรงตัวนิ่งๆ ตลาดค่อนข้างเงียบมากเหมือนภูมิภาค ตัวเลขสหรัฐฯที่ออกมาก็ใกล้เคียงที่คาดไว้จึงไม่ส่งผลเท่าไหร่" นักบริหารเงิน กล่าว

ปัจจัยที่ตลาดจับตาดูน่าจะเป็นการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด(FOMC) ในสัปดาห์หน้า และสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ

นักบริหารเงิน คาดวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 32.28-32.40 บาท/ดอลลาร์

"ทิศทางวันนี้น่าจะแกว่งตัวในกรอบ" นักบริหารเงิน กล่าว

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.3900 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(23 เม.ย.) อยู่ที่ 1.90087% และ THAI BAHT FIX 6M(23 เม.ย.) อยู่ที่ 1.94649%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.46 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 102.22 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3821 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3840 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.3830 บาท/ดอลลาร์
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเยนเมื่อคืนนี้ เนื่องจากกิจกรรมภาคการผลิตของสหรัฐขยายตัวต่ำกว่าคาดในเดือน เม.ย. โดยค่าเงินยูโรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3816 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3802 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงสู่ระดับ 1.6781 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.6822 ดอลลาร์สหรัฐ, ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 102.42 เยน จากระดับ 102.63 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8832 ฟรังค์ จากระดับ 0.8851 ฟรังค์, ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9284 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9364 ดอลลาร์สหรัฐ
  • นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่ายังคงปรับตัวขึ้นด้วยโมเมนตัมตลาดฯที่ยังเป็นบวก จากแรงซื้อของต่างชาติที่ยังไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เล่นหุ้นขนาดใหญ่ อย่างไรก็ดี เมื่อตลาดฯปรับตัวขึ้นไปในระหว่างเทรดก็อาจจะมีแรง take profit ออกมาได้บ้าง และรายย่อยก็อาจขายออกเมื่อตลาดฯปรับขึ้นไป ส่วนตลาดภูมิภาคเช้านี้แกว่งทั้งบวก-ลบรอผลเฟดปลายเดือนนี้ แต่เชื่อไม่มีเซอร์ไพร์ส พร้อมให้แนวรับ 1,416-1,400 แนวต้าน 1,430-1,442 จุด
  • ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในช่วงเช้าวันนี้ หลังภาคเอกชนสหรัฐหลายแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่สดใส แต่ในขณะเดียวกันสหรัฐก็เปิดเผยข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซา โดยดัชนี MSCI Asia Pacific ขยับลงไม่ถึง 0.1% สู่ระดับ 138.83 จุด เมื่อเวลา 9.25 น.ตามเวลาโตเกียว, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 14,563.25 จุด เพิ่มขึ้น 16.98 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,064.16 จุด ลดลง 3.22 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,527.38 จุด เพิ่มขึ้น 17.74 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,968.82 จุด เพิ่มขึ้น 11.90 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,006.38 จุด เพิ่มขึ้น 6.01 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,259.35 จุด เพิ่มขึ้น 1.34 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,864.29 จุด ลดลง 3.06 จุด
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทเอกชน แต่ตลาดปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด หลังจากมีรายงานว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) เบื้องต้นของยูโรโซนในเดือน เม.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 35 เดือน โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.6% ปิดที่ 335.05 จุด, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,544.19 จุด ลดลง 55.90 จุด หรือ -0.58%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,451.08 จุด ลดลง 33.13 จุด หรือ -0.74%, ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,674.74 จุด ลดลง 7.02 จุด -0.11%
  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ รวมถึงยอดขายบ้านใหม่ที่ร่วงลงอย่างหนักในเดือน มี.ค. หลังตลาดได้รับปัจจัยบวกในระหว่างวันจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทเอกชน โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,501.65 จุด ลดลง 12.72 จุด หรือ -0.08%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,875.39 จุด ลดลง 4.16 จุด หรือ -0.22%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,126.97 จุด ลดลง 34.49 จุด หรือ -0.83%
  • China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.10% แตะที่ 6.1589 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้
  • ธนาคารกลางเกาหลีใต้เผยเศรษฐกิจเกาหลีใต้ขยายตัวที่ระดับ 0.9% ในไตรมาสแรก เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านั้น โดยอัตราการขยายตัวได้ทรงตัวอยู่ที่ระดับสูงกว่า 1% ในไตรมาสสองและสามปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะลดลงสู่ต่ำกว่าระดับ 1% และเมื่อเทียบเป็นรายปี จีดีพีของเกาหลีใต้ขยายตัว 3.9% ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่การขยายตัวที่ 4.9% ในไตรมาสแรกของปี 2554
  • สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 20 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,900 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือเทียบเท่ากับ 1,314.35 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 2.16 ดอลลาร์สหรัฐ
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้น 3.5 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ 1,284.6 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น 7.7 เซนต์ ปิดที่ 19.436 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ก.ค.เพิ่มขึ้น 3.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,403.9 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้น 2.35 ดอลลาร์ ปิดที่ 786.00 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เผยสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าอุปสงค์พลังงานในสหรัฐกำลังชะลอตัวลง โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.ลดลง 31 เซนต์ ปิดที่ 101.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน มิ.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 16 เซนต์ ปิดที่ 109.11 ดอลลาร์/บาร์เรล

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ