ทั้งนี้ ธนบัตรชนิดราคา 500 บาทรุ่นใหม่มีลักษณะสำคัญ เช่น หมืกพิมพ์พิเศษสลับสี พร้อมตัวเลขแฝง บริเวณลายประดิษฐ์สีทองจะสลับเป็นสีเขียวเมื่อพลิกเอียงธนบัตร ภายในมีตัวเลขอารบิก“500"ซ่อนไว้ ส่วนลายน้ำพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน และตัวเลขไทย“๕๐๐"มีความโปร่งแสงเป็นพิเศษ มองเห็นได้ชัดเจนเมื่อยกส่องดูกับแสงสว่าง มีแถบฟอยล์ 3 มิติ มีตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ตรงกลางตราสัญลักษณ์มีตัวเลข“500"เมื่อพลิกเอียงจะเปลี่ยนเป็น“๕๐๐"
นอกจากนี้ ยังมีแถบสี่เหลี่ยมเคลื่อนไหวสลับสีฝังในเนื้อกระดาษธนบัตรที่ด้านหลัง และจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเมื่อเปลี่ยนมุมมอง เมื่อพลิกธนบัตรขึ้นลงจะเห็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดเล็กสีทองเลื่อนไปมาระหว่างด้านซ้ายด้านขวา หมึกพิมพ์พิเศษสีเหลือบเหลืองจะปรากฏแถวตัวเลขอารบิก“500"และแถวตัวเลขไทย “๕๐๐"สลับกับลายประจำยามในแนวตั้งสีเหลือบเหลือง และมีสัญลักษณ์สำหรับผู้มีความบกพร่องทางสายตาเป็นรูปดอกไว้สีม่วงเข้ม 3 ดอก มาจากตัวอักษรโรมัน F ในอักษรเบรลล์
“ของเดิมนั้นใช้มานานกว่า 12 ปี และเทคโนโลยีในการผลิตธนบัตรเปลี่ยนไปมาก โดยสิ่งที่เปลี่ยนไปจากของเก่าคือเนื้อกระดาษ ลายน้ำที่มีเลข 500 ลอยสลับกันระหว่างเลขไทยและอารบิก ซึ่งแต่ละใบจะไม่เหมือนกัน"นางทองอุไร กล่าว
นางทองอุไร กล่าวอีกว่า ธนบัตรชนิดราคา 500 บาทแบบใหม่นี้ได้พัฒนาและปรับเปลี่ยนรูปแบบ เพื่อให้มีรูปลักษณ์ที่สวยงาม ทันสมัย มีความเป็นสากล และเป็นแบบที่นำเทคโนโยลีต่อต้านการปลอมแปลงมาใช้เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ประชาชน ภาคธุรกิจ สถาบันการเงิน รวมถึงผู้มีความบกพร่อมทางสายตา สามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเอง และด้วยเครื่องจักรนับคัดธนบัตรได้โดยง่าย อีกทั้งยืนยันการใช้แบงก์ 500 ใหม่นี้สำหรับเครื่องถอนเงินจะไม่มีปัญหา เพราะมีขนาดเท่าเดิมกับของเก่า แต่อาจมีปัญหากับเครื่องฝากเงินอัตโนมัติที่จะมีการตรวจสอบความถูกต้องของธนบัตรที่อาจจะมีปัญหาระบบตรวจเช็คให้เป็นรูปแบบใหม่ จึงต้องให้เวลาธนาคารพาณิชย์ปรับระบบรับฝากอัตโนมัติใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน
ที่ผ่านมา ธปท.ได้มีการเปลี่ยนรูปแบบธนบัตรชนิดใหม่ทั้งราคา 20 บาท ราคา 50 บาท และล่าสุดราคา 500 บาทมาอย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากนี้จะทยอยเปลี่ยนชนิดราคา 100 บาท และ 1,000 บาทในระยะต่อไป
ด้านนายปริยวัจน์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วย ผู้ว่าการสายออกบัตรธนาคาร ธปท. กล่าวว่า การเปลี่ยนรูปแบบธนบัตรทำให้ปลอมแปลงได้เหมือนยากขึ้น โดยอัตราการปลอมธนบัตรไทยนั้นมีสัดส่วน 5 ฉบับ ต่อ 1 ล้านฉบับ น้อยกว่าธนบัตรของสหรัฐและยุโรปที่มีการปลอม 40 ฉบับต่อ 1 ล้านฉบับ โดยชนิดที่ปลอมแปลงมากสุดสำหรับไทย คือชนิด 1,000 บาท จากปัจจุบันไทยมีธนบัตรหมุนเวียนใช้ในระบบ 4,000 ล้านฉบับ มูลค่า 1.4 ล้านล้านบาท โดยมีการผลิตใหม่ปีละประมาณ 3,500 ล้านฉบับ ซึ่งไทยมีความทันสมัยในการผลิตธนบัตรติด 1 ใน 10 ของโลก โดยเป็นรองในเอเชียเพียงประเทศจีนและญี่ปุ่นเท่านั้น