ธนาคารออมสินในฐานะสถาบันเพื่อการออมได้นำบริการเงินฝากทุกประเภทเข้าร่วมในงาน โดยเฉพาะเงินฝากยอดนิยมของธนาคารฯสลากออมสินพิเศษ 3 ปี อายุ 3 ปี รับฝากหน่วยละ 50 บาท อัตราดอกเบี้ยเมื่อฝากครบ 3 ปี 2.25 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.50 ต่อปี ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเผื่อเรียกหรือออมทรัพย์ทั่วไป อีกทั้ง ผู้ฝากจะมีสิทธิ์ลุ้นถูกรางวัลจากการออกรางวัลเลขสลากทุกวันที่ 16 ของเดือน เป็นเวลา 36 เดือน รางวัลสูงสุด รางวัลที่ 1 มูลค่าเงินรางวัล 10 ล้านบาท จำนวน 3 รางวัล
ทั้งนี้ ยังมีเงินฝากอีก 2 ประเภท มานำเสนอภายในงานนี้ด้วย ได้แก่ เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 4 เดือน(เปิดรับฝาก ณ ธนาคารออมสินทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 1-31 พฤษภาคม 2557) อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.10 ต่อปี (เทียบเท่าเงินฝากประจำ 2.47% ต่อปี) เปิดบัญชีขั้นต่ำ 10,000 บาท ฝากเพิ่มครั้งละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท บุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 11 เดือน (เปิดรับฝาก ณ ธนาคารออมสินทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม – 15 มิถุนายน 2557) อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.60 ต่อปี (เทียบเท่าเงินฝากประจำ 3.06% ต่อปี) เปิดบัญชีขั้นต่ำ 10,000 บาท ฝากเพิ่มครั้งละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท บุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี
นายธัชพล กล่าวว่า ด้านสินเชื่อ นำเสนอ สินเชื่อเคหะ โปรโมชั่นสุดพิเศษ เพื่อช่วยเหลือประชาชนและลูกค้าในช่วงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และค่าครองชีพสูงอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง/ซื้อบ้านหรือคอนโดมีเนียม รวมทั้ง รีไฟแนนซ์และกู้เพิ่มเติมเพื่อตกแต่งหรือซื้อเฟอร์นิเจอร์ โดยสามารถเลือกใช้อัตราดอกเบี้ยได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ โปรแกรมแรก อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 1.25% ปีที่ 2 อัตราดอกเบี้ย MLR-1.75% (อัตราดอกเบี้ย MLR ของธนาคารออมสินปัจจุบัน อยู่ที่ 6.875% ต่อปี) ปีที่ 3 MLR–0.5% ปีที่ 4 จนครบสัญญา อัตราดอกเบี้ย MLR-0.5% โปรแกรมที่ 2 ปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.00% เป็นเวลา 2 ปี ปีที่ 3 MLR-0.5% ปีที่ 4 เป็นต้นไป จนครบสัญญา อัตราดอกเบี้ย MLR-0.5% โปรแกรมที่ 3 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00% เป็นเวลา 3 ปี หลังจากนั้นปีที่ 4 เป็นต้นไปจนครบสัญญา อัตราดอกเบี้ย MLR-1.0% ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่ยื่นความจำนงภายในงานนี้ หรือที่สาขาได้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม - 30 มิถุนายน 2557 และจัดทำนิติกรรมสัญญาแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2557 นี้เท่านั้น
สำหรับวงเงินกู้นั้น ลูกค้าที่ซื้อที่อยู่อาศัยใหม่กับบริษัทมหาชนที่ธนาคารออมสินได้ปล่อยกู้ผ่านโครงการ หรือรีไฟแนนซ์จากสถาบันการเงินอื่นๆ จะได้รับพิจารณาวงเงินกู้ 100% ของราคาประเมิน ยกเว้นกรณีรีไฟแนนซ์จากสถาบันการเงินเดิมที่ผ่อนชำระมาแล้วเกิน 5 ปี จะได้รับเงินกู้ในวงเงิน 90% ของราคาประเมิน
ขณะที่ลูกค้าสินเชื่อเคหะของธนาคารออมสิน ยังสามารถใช้บริการสินเชื่อเคหะเพิ่มยอด (GSB PLUS) เป็นการกู้เพิ่มเติมเพื่อซ่อมแซม-ตกแต่งที่อยู่อาศัย หรือซื้อเฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้จำเป็นภายในบ้าน ในโปรโมชั่นพิเศษจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2557 ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษปีแรก MLR-1% ต่อปี หลังจากนั้นปีที่ 2 จนครบสัญญา อัตราดอกเบี้ย MLR-0.5% ต่อปี
ขณะเดียวกัน ยังมีโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับ สินเชื่อธุรกิจ SMEs สำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 20 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ย MLR-1% ต่อปี หรือ MOR–1% ต่อปี ซึ่งผู้จองสิทธิ์ในงานและได้รับอนุมัติวงเงิน 3 ล้านบาทตามเงื่อนไข 50 รายแรก จะได้รับ POWER BANK นอกจากนี้ยังมี สินเชื่อโครงการธนาคารประชาชน เพื่อเป็นเงินทุนหรือทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ หรือเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ สำหรับกลุ่มลูกค้ารายย่อยทั่วไป อัตราดอกเบี้ย 0.50% ต่อเดือน วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 200,000 บาท
นอกจากนี้ ธนาคารออมสิน ยังได้นำมาตรการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกหนี้ ด้วยการปรับปรุงเงื่อนไขการผ่อนชำระเงินงวดประจำเดือน ด้วยการปรับลดจำนวนเงินงวดลงเป็นเวลานาน 6 เดือน มาให้บริการภายในงานด้วย (โครงการตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม 2557 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2557) โดยลูกค้าที่สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ จะต้องเป็นลูกค้ากลุ่มสินเชื่อรายย่อย และกลุ่มสินเชื่อผู้ประกอบการ SMEs ทั้งที่เป็นลูกหนี้ปกติและลูกหนี้ที่ถูกจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ (ลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชำระไม่เกิน 90 วัน) อาทิ สินเชื่อโครงการธนาคารประชาชน สินเชื่อธุรกิจห้องแถว สินเชื่อไทรทอง และสินเชื่อธุรกิจ SMEs ที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 50 ล้านบาท เป็นต้น
“ธนาคารออมสิน หรือทุกสถาบันการเงิน ต่างไม่ต้องการให้คุณภาพสินเชื่อด้อยลง แต่เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและปัจจัยหลายด้านรุมเร้าลูกค้ามากมาย ถ้าธนาคารสามารถช่วยเหลือได้ก็ควรจะช่วยกันบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้า เพื่อจะได้ดำเนินชีวิตได้อย่างผ่อนคลายไม่ตึงเครียดมากนัก ซึ่งจะส่งผลดีทั้งต่อลูกค้าและโดยภาพรวมของระบบเศรษฐกิจในประเทศอีกด้วย"นายธัชพล กล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2557 ธนาคารออมสินได้มีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มสินเชื่อหนี้ด้อยคุณภาพ หรือ NPLs (มีหนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน แต่ไม่เกิน 180 วัน) โดยยังไม่ฟ้องร้องหรือดำเนินการตามกฎหมาย แต่ใช้วิธีการเชิญลูกหนี้มาเจรจาเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ให้ตามความสามารถ โดยขยายเวลาผ่อนชำระหนี้หรือลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากอัตราดอกเบี้ยผิดนัด 14% ต่อปี ให้เหลือเพียงอัตราดอกเบี้ยปกติ และกรณีที่ลูกหนี้ไม่สามารถชำระดอกเบี้ยที่ค้างชำระได้ ธนาคารยังผ่อนผันให้ตั้งพักดอกเบี้ยค้างไว้ แล้วนำมาเฉลี่ยจ่ายเมื่อลูกหนี้สามารถผ่อนชำระเงินได้ ซึ่งทำให้สามารถช่วยเหลือลูกหนี้ไปได้แล้วกว่า 10,600 ราย คิดเป็นมูลหนี้กว่า 5,000 ล้านบาท
สำหรับยอดสินเชื่อคงเหลือทั้งหมด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2557 มีจำนวน 2.94 ล้านราย เป็นเงินกว่า 1.69 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นลูกหนี้ปกติจำนวน 2.7 ล้านราย เป็นเงิน 1.62 ล้านล้านบาท เป็นลูกหนี้ในกลุ่มที่จัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ (SM) จำนวน 125,233 ราย เป็นเงิน 44,763 ล้านบาท และเป็นลูกหนี้ต่ำกว่ามาตรฐาน (NPLs) จำนวน 121,488 ราย เป็นเงิน 25,931 ล้านบาท