สศอ. เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเม.ย. -3.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 28, 2014 10:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. ติดลบ 3.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการลดลงของการผลิต ยานยนต์ เบียร์ Hard Disk Drive เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเรือน อาหารทะเลกระป๋องและแช่แข็ง

อุตสาหกรรมรถยนต์ เม.ย.57 หดตัวเมื่อเปรียบเทียบจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการลดลงจากตลาดในประเทศเป็นหลัก อันเนื่องมาจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ ประกอบกับในช่วงเดือนเมษายนของทุกปีโรงงานประกอบรถยนต์จะหยุดการผลิตเพราะมีเทศกาลวันหยุดหลายวัน โดยการผลิตรถยนต์ เม.ย.57 มีจำนวน 146,000 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 14.34%

ด้านการจำหน่ายรถยนต์ในประเทศ เม.ย.57 มีจำนวน 73,200 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 33.26% ส่วนการส่งออกรถยนต์ เม.ย.57 มีจำนวน 72,800 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.74%

แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ ปี 57 การผลิตจะลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีการผลิตรถยนต์ประมาณ 2,320,000 คัน ลดลง 5.35% แบ่งเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายรถยนต์ในประเทศประมาณ 1,150,000 คัน ลดลง 13.16% และการผลิตเพื่อส่งออกรถยนต์ประมาณ 1,170,000 คัน เพิ่มขึ้น 4.06%

ภาวะการผลิตของอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในเดือน เม.ย.57 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.93% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมาจากอุตสาหกรรมไฟฟ้าที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.67% และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.75%

สำหรับภาวะการผลิตและการส่งออกอุตสาหกรรมอาหารเดือนเม.ย.57 การผลิตในภาพรวมปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 0.8% เนื่องจากการผลิตผลิตภัณฑ์ผักผลไม้และมันสำปะหลังที่เพิ่มขึ้น แต่การผลิตสินค้าสำคัญส่วนใหญ่ประสบปัญหาวัตถุดิบได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติและการระบาดของโรค และจากสภาพความยืดเยื้อของความขัดแย้งทางการเมืองที่ทำให้การใช้จ่ายภาครัฐไม่สามารถดำเนินการได้เต็มที่ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นต่อการบริโภคและการลงทุนในประเทศเริ่มชะงักงัน ส่วนการส่งออกในภาพรวมลดลง 7.3% เนื่องจากได้รับผลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศผู้นำเข้า เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ได้ส่งผลไปยังเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้การส่งออกได้รับผลกระทบจากความผันผวนของระดับราคาสินค้าในตลาดโลก ซึ่งผันแปรตามภาวะเศรษฐกิจของหลายประเทศ โดยเฉพาะในสหภาพยุโรปที่ยังชะลอตัว จากการติดตามรอผลสรุปการแก้ไขวิกฤตการณ์ยูเครน-รัสเซีย-สหภาพยุโรป ประกอบกับราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ