(เพิ่มเติม) พาณิชย์ เผย CPI พ.ค.57 ขยายตัว 2.62%, Core CPI ขยายตัว 1.75%

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 2, 2014 12:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอัมพวัน พิชาลัย ที่ปรึกษาการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ เผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ(CPI) เดือน พ.ค.57 อยู่ที่ 107.90 เพิ่มขึ้น 2.62% จากเดือน พ.ค.56 และเพิ่มขึ้น 0.40% จาก เม.ย.57 เป็นอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นต่อเนื่องจากเดือนที่ผ่านมาตามการสูงขึ้นของราคาอาหารสำเร็จรูป ได้แก่ กับข้าวสำเร็จรูป ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว จากราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น เช่น เนื้อสุกร ไข่ ผักสด และสัตว์น้ำ ประกอบกับราคาพลังงาน เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง และ ก๊าซหุงต้ม ( LPG ) ที่มีการทยอยปรับราคาสูงขึ้นมาตั้งแต่เดือน ก.ย.56 รวมถึงค่ากระแสไฟฟ้าที่ปรับราคาสูงตามค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(Ft) ทำให้แรงกดดันเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้ ดัชนีราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มเดือน พ.ค.57 อยู่ที่ 113.71 เพิ่มขึ้น 4.39% จาก พ.ค.56 และเพิ่มขึ้น 0.66% จากเม.ย.57 ขณะที่ดัชนีราคาสินค้าที่ไม่ใช่หมวดอาหารและเครื่องดื่ม อยู่ที่ 104.67 เพิ่มขึ้น 1.68% จากเดือน พ.ค.56 และเพิ่มขึ้น 0.25% จาก เม.ย. 57

การเคลื่อนไหวของ CPI เดือน พ.ค.57 เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ดัชนีราคาสูงขึ้นร้ตามการสูงขึ้นของราคาผักสด ที่สำคัญ ได้แก่ ผักชี ผักกาดหอม กะหล่ ปลี ผักกาดขาว และแตงกวา เนื่องจากสภาพอากาศที่ยังคงร้อนและแห้งแล้ง ทำให้พืชผลทางการเกษตรเสียหาย เนื้อสัตว์สด ได้แก่ เนื้อสุกร กระดูกซี่โครงหมู เนื้อโค และปลาและสัตว์น้ ไข่ไก่ เนื่องจากสถานศึกษาเริ่มทยอยเปิดภาคเรียน ส่งผลให้ความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น และอาหารสำเร็จรูปที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ อาหารกลางวัน( ข้าวราดแกง ) ข้าวแกง/ข้าวกล่อง และก๋วยเตี๋ยว เป็นต้น

สำหรับหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ดัชนีสูงขึ้นตามค่ากระแสไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม แก๊สโซฮอล์ 91, 95 รวมถึง ค่าธรรมเนียมการศึกษา เครื่องแบบนักเรียน และราคาวัสดุก่อสร้างบางชนิดปรับตัวสูงขึ้น

ขณะที่ Core CPI เดือน พ.ค.57 อยู่ที่ 104.78 เพิ่มขึ้น 1.75% จากเดือน พ.ค.56 และเพิ่มขึ้น 0.13% จาก เม.ย. 57 สินค้าและบริการที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ หมวดอาหารสำเร็จรูป ดัชนีสูงขึ้น 0.35% (อาหารกลางวัน(ข้าวราดแกง) ข้าวแกง/ข้าวกล่อง) หมวดผ้าและเสื้อผ้า ดัชนีสูงขึ้น 0.38% (เครื่องแบบนักเรียนอนุบาล เสื้อยืดสตรี เครื่องแบบนักเรียนมัธยมชาย) หมวดค่าเช่าบ้าน ดัชนีสูงขึ้น 0.03% (ค่าเช่าบ้าน) หมวดค่าของใช้ส่วนบุคคล ดัชนีสูงขึ้น 0.17% (สบู่ถูตัว กระดาษชำระ แชมพูสระผม ยาสีฟัน น้ำหอม กระเป๋าธนบัตร ผ้าอนามัย) หมวดการศึกษา ดัชนีสูงขึ้น 0.33% (ค่าธรรมเนียมประถมศึกษาภาคเอกชน) หมวดเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ ดัชนีสูงขึ้น 0.69% (เบียร์ สุรา)

สินค้าและบริการที่มีราคาลดลง ได้แก่ หมวดเครื่องแต่งบ้านและบริภัณฑ์อื่นๆ ดัชนีลดลง 0.02% (เครื่องซักผ้า เครื่องทำนำอุ่น) หมวดที่เกี่ยวกับทำความสะอาด ดัชนีลดลง 0.18% (น้ำยาปรับผ้านุ่ม ผงซักฟอก ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้น (น้ำยาถูพื้น) น้ำยาล้างจาน น้ำยาขจัดคราบสกปรกของเสื้อผ้า ไม้ถูพื้น) นอกจากนี้ ค่าของใช้ส่วนบุคคล ที่ราคาลดลง ได้แก่ แป้งทาผิวกาย ผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว ครีมนวดผม น้ำยาระงับกลิ่นกาย และลิปสติก เมื่อเทียบกับเป้าหมายเงินเฟ้อของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่อยู่ระหว่างร้อยละ 0.5-3.0 ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเดือนพฤษภาคม 2557 ยังอยู่ในช่วงเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย

นางอัมพวัน กล่าวอีกว่า ช่วง 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค.) ปี 57 CPI เฉลี่ย 5 เดือน เพิ่มขึ้น 2.21% จากการสูงขึ้นของดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 4.28% ตามการสูงขึ้นของหมวดข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้ง สูงขึ้น 1.63% หมวดเนื้อสัตว์ เป็ดไก่และสัตว์น้ำ สูงขึ้น 7.97% หมวดไข่และผลิตภัณฑ์นม สูงขึ้น 3.80% หมวดผักและผลไม้ สูงขึ้น 3.23% หมวดเครื่องประกอบอาหาร สูงขึ้น 3.98% หมวดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้น 0.80% และหมวดอาหารสำเร็จรูป ดัชนีราคาสูงขึ้น 4.07% ( อาหารบริโภค-ในบ้าน สูงขึ้น 3.82% อาหารบริโภค-นอกบ้าน สูงขึ้น 4.51% )

ดัชนีหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้น 1.14% จากการสูงขึ้นของหมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า 0.89% หมวดเคหสถาน สูงขึ้น 1.12% หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล สูงขึ้น 0.76% หมวดพาหนะ การขนส่ง และการสื่อสาร สูงขึ้น 1.26% หมวดการบันเทิง การอ่าน การศึกษา และการศาสนา สูงขึ้น 0.58% และหมวดยาสูบและเครื่องดื่ม มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้น 5.10%

และ Core CPI เฉลี่ย 5 เดือนแรกเพิ่มขึ้น 1.40%

นางอัมพวัน กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อในช่วงไตรมาส 2/57 คาดว่าจะอยู่ที่ 2.5% ซึ่งจะส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีแรก อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 2.25% สาเหตุมาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ สินค้าเกษตรยังมีราคาสูง ขณะที่เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลง ส่วนช่วงครึ่งปีหลังคาดอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2.4-2.6% โดยกระทรวงพาณิชย์จะดูแลทิศทางในการควบคุมราคาสินค้า รวมทั้งสินค้าในกลุ่มพลังงาน โดยรวมทั้งปีคาดไม่เกิน 2.6% เป็นไปตามกรอบเดิมที่วางไว้ 2.0-2.8%

กรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีนโยบายตรึงราคา LPG และ ดีเซลต่อไป มองว่า ในส่วนการตรึงราคาดีเซลจะช่วยให้เงินเฟ้อในภาพรวมปรับลดลง 0.46% ขณะที่การตรึงราคา LPG มีส่วนทำให้เงินเฟ้อลดลง 0.03%

"ตอนนี้สิ่งที่พาณิชย์จับตามอง คือ เงินบาทที่อ่อนค่าค่อนข้างเร็ว ซึ่งต้องติดตามผลกระทบในระยะต่อไปด้วย รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์กำลังจะติดตามดัชนีแต่ละตัว เพื่อที่จะดูว่ากระทรวงจะเข้าไปมีบทบาทในการลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนที่มีรายได้น้อยได้อย่างไรบ้าง" นางอัมพวัน กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ