กูรูแนะแนวทางปฏิรูปพลังงาน-ชู 4 ยุทธศาสตร์สอดรับความต้องการใช้ในอนาคต

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 10, 2014 17:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน และกรรมการกลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืน กล่าวถึงข้อเสนอของกลุ่มฯในการปฏิรูปพลังงานคือ รัฐควรลดการเก็บเงินจากน้ำเบนซินและแก๊สโซฮอล์เข้ากองทุนน้ำมันฯ เนื่องจากคนกลุ่มนี้ไม่ได้รับความเป็นธรรมสูงสุด, ยกเลิกคุมเพดานราคาดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร และเพิ่มเก็บภาษีสรรพสามิตเพิ่มเป็น 1-3 บาทต่อลิตร, แอลพีจีภาคครัวเรือนและภาคขนส่งจะต้องสะท้อนต้นทุนหน้าโรงแยกก๊าซและเอ็นจีวีจะต้องสะท้อนต้นทุนจริง

นายมนูญ กล่าวว่า ในอีก 22 ปีข้างหน้า ไทยจะมีความต้องการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น 80% ทำให้ต้องนำเข้าน้ำมันเพิ่มเป็น 100% มูลค่านำเข้าสูงถึง 2.2 ล้านล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.4 ล้านล้านบาท โดยอัตราการนำเข้าพลังงานทุกชนิดจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ทั้งก๊าซ น้ำมัน และไฟฟ้า ดังนั้นยุทธศาสตร์ด้านพลังงานจะต้องยึดหลัก 4 ประการ คือ 1.ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน 2.การอนุรักษ์พลังงาน 3.นโยบายพลังงานจะต้องสะท้อนตันทุนที่แท้จริง และ 4.การบริหารจัดการด้านพลังงานจะต้องไม่ขัดแย้งกับยุทธศาสตร์หลักด้านพลังงาน

ปัจจุบันประเทศไทยจำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานสูง แม้จะมีความสามารถผลิตพลังงานในประเทศได้ถึงวันละ 8.7 แสนบาร์เรล ขณะที่มีความต้องการใช้พลังงานรวมวันละ 2 ล้านบาร์เรล ดังนั้นจะต้องพึ่งพาการนำเข้าราววันละ 1.1 ล้านบาร์เรล

ขณะที่การขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมในไทยก็ลดลง หากไม่เปิดสัมปทานเพิ่มเติมก็ต้องนำเข้าเพิ่มขึ้น แต่การนำเข้าก็มีเงื่อนไขเพิ่มขึ้นเช่นกัน อย่างกรณีพม่าที่กำลังจะเปิดประเทศทำให้มีความต้องการใช้พลังงานสูงขึ้น ดังนั้นไทยจำเป็นต้องนำเข้าแอลเอ็นจีจากแหล่งอื่นทำให้กระทบต่อค่าไฟเพิ่มขึ้น และจะส่งผลให้ค่าเอฟทีเพิ่มขึ้น 30% ในอีก 10 ปีข้างหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ