แบงก์ชาติจีนเล็งออกบอนด์-ปล่อยกู้สกุลเงินหยวนหวังเพิ่มประสิทธิภาพการค้า

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 17, 2014 17:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายซือ จิน ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารแห่งประเทศจีน(BOC) สาขากรุงเทพมหานคร กล่าวในงานสัมนา "RMB Internationalization - Opportunity & Challenge in Thailand"ว่า สกุลเงินหยวนมีการใช้งานอย่างกว้างขวางในตลาดโลก โดยรัฐบาลจีนได้ส่งเสริมให้มีการใช้เงินหยวนในระดับสากลมาตั้งแต่ปี 52-56 มีการใช้ทั้งสิ้นกว่า 10 ล้านล้านหยวน คิดเป็นอัตราการขยายตัว 20% ต่อปี ทั้งนี้มีจำนวนประเทศคู่ค้ากับจีนใช้เงินสกุลหยวนในการติดต่อค้าขายราว 160 ประเทศ

อย่างไรก็ดี การขับเคลื่อนการใช้เงินหยวนในตลาดโลกธนาคารแห่งประเทศจีนจะมีการออกผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เป็นสกุลเงินหยวนเพิ่มมากขึ้น อย่างเช่น การออกพันธบัตรในสกุลเงินหยวน การกู้สินเชื่อ และการค้าขายกับประเทศคู่ค้า เป็นต้น

"เงินหยวนมีการใช้กันอย่างกว้างขวางในระดับสากล ซึ่งอาจจะเป็นผลมาจากที่เศรษฐกิจจีนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เงินหยวนมีเสถียรภาพมากขึ้น และจีนยังมีบทบาทที่สำคัญกับเศรษฐกิจโลก โดยจีนมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของโลก ทำให้มีการใช้เงินหยวนกันอย่างกว้างขวาง และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการค้าในระดับสากล โดยการใช้สกุลเงินหยวนในระดับสากลตั้งแต่ปี 2009-2013 อยู่ที่ 10 ล้านล้านหยวน หรือขยายตัวปีละ 20% BOC ก็จะช่วยขับเคลื่อนในการใช้สกุลเงินหยวนให้มากขึ้นในระดับสากลโดยการออก Bond สกุลเงินหยวน การกู้เงินที่เป็นสกุลเงินหยวน และการค้าขายระหว่างประเทศโดยใช้เงินหยวน" นายซือจิน กล่าว

ด้านนายเฉา หยวนเจิ้ง ประธานฝ่ายศูนย์วิจัยด้านเศรษฐกิจ ธนาคารแห่งประเทศจีน(BOC) สำนักงานใหญ่ ณ กรุงปักกิ่ง กล่าวว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจจีนอยู่ในช่วงขาลง เนื่องจากการส่งออกในช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 51 ปรับตัวลดลงมาตลอด รวมทั้งการที่นักลงทุนต่างๆในประเทศจีนหันไปลงทุนโรงงานผลิตสินค้าในต่างประเทศ เช่น เวียดนาม และพม่า แทนที่จะลงทุนในประเทศจีน ประกอบกับภาครัฐไม่ได้มีการลงทุนในโครงการต่างๆ มากเหมือนในอดีตที่ผ่านมา โดยจะพบว่าการลงทุนของภาครัฐในปี 57 มีการลงทุนต่ำกว่า 10% จากในอดีตที่ลงทุนปีละ 20%

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจในประเทศจีนถึงแม้จะเป็นช่วงขาลง แต่จะไม่ลงอย่างแรง เนื่องจากภาคการส่งออกเริ่มฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยในเดือนพ.ค.57 และคาดว่าในครึ่งปีหลังแนวโน้มจะเริ่มดีขึ้น และดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของประเทศจีนเดือนมิ.ย.57 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.1% ประกอบกับสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจยังมีสภาพคล่องที่สูง และภาคการบริโภคมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศจีนได้ประเมินอัตราการเติบโตเศรษฐกิจของจีนในปี 57 ว่าจะเติบโต 7.5% ซึ่งลดลงจากปี 56 ที่เติบโตได้ 7.7% และประเมินอัตราเงินเฟ้อของจีนในปี 57 ที่ 2.5%

"หลายๆ คนก็มองว่าเศรษฐกิจจีนจะลงแบบ Hard Landing แต่ผมมองว่าอาจจะไม่ถึงแบบนั้น ถึงแม้จะมีความเสี่ยงมากจากการส่งออกและการลงทุนจากภาคเอกชนและภาครัฐลดลง แต่ปัจจัยที่มาชดเชยก็เป็นการบริโภคในประเทศมากขึ้น โดยในเดือนพ.ค.ตัวเลขการส่งออกกลับมาดีขึ้น และมองว่าจะดีในช่วงครึ่งปีหลังเช่นกัน ตัวเลข PMI มิ.ย.57 ก็เพิ่มขึ้นเป็น 0.1% และสภาพคล่องก็ยังมีอยู่สูง แต่ยอมรับว่าเศรษฐกิจจีนปรับลงมา 1 ขั้น GDP ในปีนี้ที่เราประเมินก็ลดลงมาที่ 7.5% จากปีที่แล้ว 7.7%"นายเฉา กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ