ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน(Core CPI) เดือนก.ค.57 อยู่ที่ 104.94 เพิ่มขึ้น 1.81% จากเดือน ก.ค.56 และเพิ่มขึ้น 0.10% จาก มิ.ย.57 ส่งผลให้ Core CPI เฉลี่ย 7 เดือนแรก(ม.ค.-ก.ค.57) เพิ่มขึ้น 1.51%
สำหรับดัชนีราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มเดือน ก.ค.57 อยู่ที่ 113.16 เพิ่มขึ้น 4.18% จาก ก.ค.56 แต่ลดลง 0.18% จาก มิ.ย.57 ขณะที่ดัชนีราคาสินค้าที่ไม่ใช่หมวดอาหารและเครื่องดื่ม อยู่ที่ 104.66 เพิ่มขึ้น 1.11% จากเดือน ก.ค.56 และลดลง 0.02% จาก มิ.ย.57
ทั้งนี้หากเปรียบเทียบดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนก.ค.57 กับดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.ค.56 จะสูงขึ้นร้อยละ 2.16 จากการสูงขึ้นของดัชนีราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ร้อยละ 4.18 โดยดัชนีราคาหมวดข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง สูงขึ้นร้อยละ 1.30 หมวดเนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ และสัตว์น้ำ สูงขึ้นร้อยละ 7.80 หมวดไข่และผลิตภัณฑ์นม สูงขึ้นร้อยละ 2.72 หมวดเครื่องประกอบอาหาร สูงขึ้นร้อยละ 5.25 หมวดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์สูงขึ้นร้อยละ 1.02 และหมวดอาหารสำเร็จรูป ดัชนีราคาสูงขึ้นร้อยละ 5.64( อาหารบริโภค-ในบ้าน สูงขึ้นร้อยละ 5.74 อาหารบริโภค-นอกบ้านสูงขึ้นร้อยละ 5.44) ขณะที่หมวดผักและผลไม้ ดัชนีราคาลดลงร้อยละ 2.54
สำหรับดัชนีราคาหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 1.11 จากการสูงขึ้นของหมวดดัชนีราคาเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า ร้อยละ 0.67 หมวดเคหสถาน สูงขึ้นร้อยละ 1.72 หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล สูงขึ้นร้อยละ 1.02 หมวดพาหนะ การขนส่ง และการสื่อสาร สูงขึ้นร้อยละ 0.43 หมวดการบันเทิงการอ่าน การศึกษา และการศาสนา สูงขึ้นร้อยละ 0.74 และหมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 6.23
แต่หากพิจารณาดัชนีราคาเฉลี่ย 7 เดือนของปี 2557 เทียบกับระยะเดียวกันของปี 2556 จะสูงขึ้นร้อยละ 2.23 จากการสูงขึ้นของดัชนีราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ร้อยละ 4.24 ตามการสูงขึ้นของดัชนีราคาหมวดข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้ง ร้อยละ 1.56 หมวดเนื้อสัตว์ เป็ดไก่และสัตว์น้ำสูงขึ้นร้อยละ 7.96 หมวดไข่และผลิตภัณฑ์นม สูงขึ้นร้อยละ 3.24 หมวดผักและผลไม้ สูงขึ้นร้อยละ 1.74 หมวดเครื่องประกอบอาหาร สูงขึ้นร้อยละ 4.31 หมวดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 0.86 และหมวดอาหารสำเร็จรูป ดัชนีราคาสูงขึ้นร้อยละ 4.47( อาหารบริโภค-ในบ้าน สูงขึ้นร้อยละ 4.27อาหารบริโภค-นอกบ้าน สูงขึ้นร้อยละ 4.81 )
สำหรับดัชนีราคาหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 1.18 จากการสูงขึ้นของดัชนีราคาหมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า ร้อยละ 0.83 หมวดเคหสถาน สูงขึ้นร้อยละ 1.28 หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล สูงขึ้นร้อยละ 0.82 หมวดพาหนะ การขนส่ง และการสื่อสาร สูงขึ้นร้อยละ 1.15 หมวดการบันเทิง การอ่าน การศึกษา และการศาสนา สูงขึ้นร้อยละ 0.63 และหมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 5.41
นางอัมพวัน คาดว่า อัตราเงินเฟ้อในช่วงไตรมาส 3/57 จะเพิ่มขึ้น 2.4% และไตรมาส 4/57 จะเพิ่มขึ้น 2.5% ส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีหลังเงินจะเพิ่มขึ้น 2.45% และทำให้ทั้งปีนี้อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 2.35% ซึ่งต่ำกว่าเดิมที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 2.4% โดยยังเป็นไปตามกรอบที่กระทรวงพาณิชย์วางไว้ที่ 2.0-2.8%
ที่ปรึกษาการพาณิชย์ กล่าวต่อถึงสาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อเมื่อเทียบเดือนต่อเดือนขยายตัวในอัตราชะลอตัวลงว่า เป็นผลมาจากมาตรการดูแลราคาสินค้าตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่กำชับให้กระทรวงพาณิชย์ขอความร่วมมือผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภคตรึงราคาขายสินค้านาน 6 เดือน หรือสิ้นสุดเดือนพ.ย.57 และการต่ออายุรถเมล์และรถไฟฟรีออกไป 6 เดือน ซึ่งหากไม่มีการต่ออายุรถเมล์และรถไฟฟรีจะทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นได้อีก 0.15% นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังขอความร่วมมือผู้ค้าอาหารจานด่วนขายตามราคาแนะนำไม่เกินจานละ 25-35 บาท
"สินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรม ถือว่าราคาไม่ปรับขึ้นจากมาตรการตรึงราคา ส่วนสินค้าอาหารก็มีปรับขึ้นบ้าง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์กำลังหามาตรการดูแลค่าอาหารให้กับประชาชนอยู่ รวมทั้งการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนด้วย ซึ่งจากการลดค่าครองชีพประชาชนตามนโยบายของคสช. รวมถึงลดราคาพลังงาน ประกอบกับ ราคาน้ำมันตลาดโลกไม่สูงขึ้น เพราะยังไม่เกิดสงคราม ทำให้ราคาน้ำมันทรงตัว จึงเป็นผลให้เงินเฟ้อทั้งปีชะลอตัวลง ส่วนการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) เป็น 10% ในเดือนต.ค.58 เชื่อว่าจะทำให้เงินเฟ้อปีหน้าเพิ่มขึ้นอีก 0.30% เท่านั้น" นางอัมพวัน ระบุ