อย่างไรก็ดี สัญญาณเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 2 ทำให้สินเชื่อเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 1.1% มากกว่าอัตราเพิ่ม 0.8% ในไตรมาสแรก สินเชื่อธุรกิจ (สัดส่วน 69.4% ของสินเชื่อรวม) ขยายตัว 6.6% จากระยะเดียวกันปีก่อนชะลอลงเกือบทุกภาคธุรกิจ ขณะที่สินเชื่อ SME (สัดส่วน 37.2% ของสินเชื่อรวม) ยังคงขยายตัวที่ 8.9% ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อน สำหรับสินเชื่ออุปโภคบริโภค (สัดส่วน 30.6% ของสินเชื่อรวม) ขยายตัวชะลอลงเท่ากับ 8.8% จากสินเชื่อรถยนต์ที่ลดลง เป็นสำคัญ
"ปลายไตรมาส 2 มีสัญญาณการปล่อยสินเชื่อดีขึ้น โดยในเดือนพ.ค.-มิ.ย.มียอดการปล่อยสินเชื่อรวม 1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเม.ย.ที่ปล่อยสินเชื่อได้ 2 หมื่นล้านบาท ทำให้รวมทั้งไตรมาส 2 มียอดปล่อยสินเชื่อ 1.2 แสนล้านบาท สูงกว่าไตรมาสแรกที่ปล่อยสินเชื่อได้ 8.6 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ในช่วงครึ่งปีหลังการปล่อยสินเชื่อมีแนวโน้มดีขึ้นกว่าในช่วงครึ่งปีแรก จากสถานการณ์ทางการเมืองที่คลี่คลาย" นายอานุภาพ กล่าว
ขณะที่คุณภาพสินเชื่อทรงตัวจากการที่ธนาคารพาณิชย์ติดตามดูแลลูกหนี้อย่างใกล้ชิด สัดส่วนสินเชื่อ ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan : Gross NPL) และสัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หลัง หักสำรอง (Net NPL) ต่อสินเชื่อรวมยังทรงตัวที่ 2.3% และ 1.1% ตามลำดับ สินเชื่อกล่าวถึงเป็นพิเศษ (Special Mention Loan : SM) มียอดคงค้าง 298.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.6 พันล้านบาท สัดส่วน SM ต่อสินเชื่อรวมใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนที่ 2.4% อย่างไรก็ตาม ธนาคารพาณิชย์ได้กันเงินสำรองเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทำให้สัดส่วนเงินสำรองที่มีต่อเงินสำรองพึงกันอยู่ในระดับสูงที่ 169.2% จากการที่ธนาคารพาณิชย์ลดการแข่งขันระดมเงินฝากในช่วงสินเชื่อชะลอตัว ประกอบกับ ภาระการกันเงินสำรองลดลงหลังจากที่มีสำรองอยู่ในระดับเพียงพอระดับหนึ่งแล้ว ส่งผลให้ในไตรมาส 2 ระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิ 59.8 พันล้านบาท ขณะที่ในครึ่งแรกของปี 2557 มีกำไรสุทธิ 110.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นในอัตราชะลอลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนตามภาวะเศรษฐกิจ
ระบบธนาคารพาณิชย์มีเงินกองทุนทั้งสิ้น 1,890.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากการจัดสรรกำไรประจำปี 2556 เข้าเป็นเงินกองทุนส่งผลให้อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นเป็น 15.9% และ 13% ตามลำดับ