กนง.ระบุแนวโน้ม ศก.ฟื้นชัดเจนแต่ยังเสี่ยง มองลงทุน-ส่งออกเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 20, 2014 10:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ครั้งที่ 5/2557 วันที่ 6 สิงหาคม 2557 ซึ่งคณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 2.00 ต่อปี เนื่องจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจน โดยแรงส่งทางเศรษฐกิจในระยะ 12 เดือนข้างหน้า แม้อยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตแต่ก็ยังมีความเสี่ยง จึงยังจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไป

ขณะที่นโยบายการเงินอยู่ในเกณฑ์ผ่อนคลายมากเพียงพอที่จะสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อไปโดยไม่กระทบเสถียรภาพการเงินในภาพรวม ซึ่งเอื้อต่อความพยายามของภาครัฐในการปฏิรูปประเทศเพื่อยกระดับศักยภาพของเศรษฐกิจไทย การผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมอาจสร้างต้นทุนด้านเสถียรภาพในระยะยาว และ การเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินภายใต้ภาวะเศรษฐกิจการเงินปัจจุบันที่มีเสถียรภาพในเกณฑ์ที่น่าพอใจอาจส่งสัญญาณที่สับสนให้กับตลาด

ภายใต้บริบทที่นโยบายการคลังมีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น และภาครัฐสามารถกลับมาดำเนินมาตรการเศรษฐกิจเร่งด่วนในระยะสั้น ประกอบกับการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศในมิติต่างๆ ที่เริ่มชัดเจนมากขึ้น มองไปข้างหน้าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างมีเสถียรภาพ ท่ามกลางความเชื่อมั่นที่ปรับดีขึ้น บทบาทของนโยบายการเงินคือการรักษาความผ่อนคลายในระดับที่เพียงพอที่จะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่คาดว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในระยะต่อไป

ทั้งนี้ กนง.ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 57 และปี 58 จะยังขยายตัวในอัตราที่ใกล้เคียงกับการประชุมครั้งก่อน โดยสำหรับปี 57 เศรษฐกิจไทยอาจมีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าคาดเล็กน้อยตามการใช้จ่ายภาครัฐที่ล่าช้ากว่าที่คาด ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนและการส่งออกสินค้าและบริการจะกลับมามีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชัดเจนขึ้นในปีหน้า แนวโน้มเงินเฟ้อพื้นฐานและเงินเฟ้อทั่วไปต่ากว่าที่ประเมินไว้ในการประชุมครั้งก่อนเล็กน้อย แต่ยังมีเสถียรภาพ

ในระยะต่อไป คาดว่าแรงส่งต่อเศรษฐกิจไทยจะมาจากอุปสงค์ในประเทศเป็นสาคัญ โดยการใช้จ่ายภาคเอกชนมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นและสถาบันการเงินยังมีบทบาทและความสามารถในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ด้านการส่งออกสินค้ามีแนวโน้มขยายตัวต่ากว่าที่เคยประเมินไว้ ขณะที่การท่องเที่ยวคาดว่าจะทยอยปรับดีขึ้น ทั้งนี้ การใช้จ่ายภาครัฐในระยะสั้นอาจได้รับผลกระทบจากการตรวจสอบโครงการลงทุนภาครัฐ ซึ่งอาจทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณปี 57 ต่ำกว่าคาดได้ อย่างไรก็ดี เม็ดเงินในปี 58 จะเพิ่มขึ้นจากรายจ่ายเหลื่อมปี ส่วนแรงกดดันเงินเฟ้อต่ากว่าการประเมินครั้งก่อน จากการปรับขึ้นราคาอาหารสำเร็จรูปที่ชะลอลงกว่าคาด

กรรมการบางท่านประเมินว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปยังมีความเสี่ยงที่ต้องติดตาม โดยเฉพาะการปฏิรูปเศรษฐกิจซึ่งหากต้องการให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างยั่งยืน อาจจาเป็นต้องมีผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะสั้นบ้าง แต่จะเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงในประเทศในระยะต่อไป นอกจากนี้ ยังต้องติดตามผลกระทบของปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก กรรมการบางท่านเห็นว่าอุปสงค์ในประเทศและการส่งออกจะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สาคัญของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป โดยอุปสงค์ในประเทศน่าจะได้รับแรงกระตุ้นจาก

แนวนโยบายการสร้างรายได้ของภาครัฐ ขณะที่การส่งออกจะได้รับประโยชน์จากการค้าระหว่างประเทศในภูมิภาคที่เพิ่มมากขึ้น กรรมการบางท่านเห็นว่ายังมีความจำเป็นต้องติดตามภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง เนื่องจากอัตราการก่อหนี้ใหม่ยังสูงกว่าการขยายตัวของรายได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ