1.ขอให้คุ้มครองผู้บริโภค กรณีธนาคารพาณิชย์เอาเปรียบผู้บริโภค(ประชาชนและลูกค้าธนาคาร) เนื่องจากธนาคารพาณิชย์แสดงหากำไรเกินควร มีการหาประโยชน์ซ้ำซ้อนไม่คำนึงถึงภาวะสังคม เช่น คิดค่าธรรมเนียม และรายได้ไม่เป็นธรรม อัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ไม่สมดุลมีช่วงห่างเกินไป จึงขอให้ คสช.ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด โดยให้มีมาตรฐานเดียวกันทุกธนาคาร เช่น ค่าธรรมเนียมการนับเหรียญ ค่าธรรมเนียมการโอน ค่าธรรมเนียมรักษาบัญชี
2.คัดค้านการให้พนักงานธนาคารพาณิชย์ขายผลิตภัณฑ์เสริมต่างๆ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ธุรกรรมทางการเงิน ที่สร้างปัญหาให้กับพนักงานและผู้บริโภค เช่น ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ที่ถือเป็นดัชนีชี้วัดให้พนักงานถูกกดดันจากเป้าหมายที่ถูกตั้งไว้สูง ลูกค้าไม่ได้ข้อมูลที่เป็นจริง จึงขอให้คสช.ประสานไปยังธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดและควบคุมมิให้ธนาคารพาณิชย์เสนอขายประกันชีวิต และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น บัตรเครดิต เงินทุนหลักทรัพย์ ผ่านพนักงานธนาคารที่ไม่มีใบอนุญาต เพราะจะมีผลในด้านความกดดันการกำหนดเป้าหมายและเกี่ยวข้องในการประเมินผล โดยควรให้เจ้าหน้าที่บริษัทประจำดำเนินการเท่านั้นและแยกเป็นจุดบริการที่ชัดเจน ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยก็ควรมีนโยบายที่ชัดเจนต่อเรื่องนี้
3.การละเมิดประกาศวันหยุดตามประเพณีของสถาบันการเงิน เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งธนาคารแห่งประเทศไทย และยังเพิกเฉย ตามพรบ.ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ.2551 เสมือนธนาคารแห่งประเทศไทยก็สนับสนุนในการเพิกเฉย โดยเฉพาะในสาขาห้างสรรพสินค้า
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวมีการร้องมา 2 ครั้ง แต่ก็ยังไม่มีคำตอบถือมิได้คำนึงถึงคุณค่าในความเป็นมนุษย์ ประเพณีวัฒนธรรม แม้สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน จะทำหนังสือแจ้งมายังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)แล้วก็ตาม และปัจจุบันหลายธนาคารก็มีทางเลือกให้การทำธุรกรรมให้แก่ประชาชนแล้ว