นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.92/95 บาท อ่อนค่าเล็กน้อยจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.90/92 บาท/ดอลลาร์
แนวโน้มเงินบาทวันนี้ยังไม่มีทิศทางการเคลื่อนไหวที่ชัดเจน ประกอบกับค่าเงินในภูมิภาคเอเชียยังคงนิ่งๆ เช่นกัน ขณะที่เมื่อคืนนี้ตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ดอลลาร์จึงมีแนวโน้มแข็งค่า
"วันนี้บาทไม่มีทิศทางชัดเจน เงินในเอเชียยังนิ่งๆ เมื่อคืนตัวเลข GDP ของสหรัฐออกมาสูงกว่าที่คาดไว้ แนวโน้มดอลลาร์น่าจะแข็ง แต่ค่าเงินในเอเชียกลับไม่ขยับเท่าไร บาทเราก็นิ่งๆ เมื่อวานไปทำ high แถวๆ 31.97" นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.85-32.00 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 31.9550 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(28 ส.ค.) อยู่ที่ 1.95696% และ THAI BAHT FIX 6M(28 ส.ค.) อยู่ที่ 1.95851%
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 103.70 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 103.75 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3184 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3208 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคาร อยู่ที่ระดับ 31.910 บาท/ดอลลาร์
- คสช.สั่งลดภาษี-เงินส่งกองทุน ส่งผลราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน 1-3.89 บาท/ลิตร ตรึงค่าไฟฟ้า 3 เดือน พร้อมขยับดีเซลแตะ 30 บาท ขณะ"แอลพีจี-เอ็นจีวี"ยังไม่เปลี่ยนแปลง ด้านกรมธุรกิจพลังงานระดมเจ้าหน้าที่และทหารตรวจสต็อกน้ำมันปั๊มทั่วประเทศ สรรพสามิตคาดโครงการสร้างราคาส่งผลรายได้ภาษีเพิ่มปีละ 5 พันล้าน
- ฟิทช์ชี้แบงก์ไทยเสี่ยงถูกปรับเรทติ้งลงหากเศรษฐกิจยังชะลอตัวแรงกว่าที่คาด เผยแม้ฐานะการเงินแข็งแกร่งขึ้น แต่สินเชื่อ เอกชนและครัวเรือนที่อยู่ระดับสูง อาจทำให้ความเสี่ยงด้านคุณภาพเพิ่มขึ้นได้หากเศรษฐกิจชะลอ มองการเติบโต 4 แบงก์ใหญ่ เริ่มจำกัด เหตุมาร์เก็ตแชร์สูงแล้ว ด้าน ธปท. มั่นใจฐานะแบงก์แกร่ง ย้ำหนี้ครัวเรือนไม่น่าห่วง เหตุการเติบโตเริ่มชะลอ แนะอย่ากังวลเกินควร หวั่นการบริโภคชะลอ
- แหล่งข่าวจากสมาคมธนาคารไทยเปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารพาณิชย์ไทยสนใจที่จะออกตราสารหนี้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน หรือไฮบริดบอนด์ ขายก่อนที่ตลาดต่างประเทศจะปิด เพราะดอกเบี้ยต่างประเทศมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นในปีหน้า หลังจากที่เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว
- สศค.ประเมินว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไตรมาส 3 น่าจะขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 2 โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้มูลค่าการส่งออกจะต้องอยู่ที่ 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน มีความเป็นไปได้ เพราะในช่วงไตรมาส 3 และต้นไตรมาสสุดท้าย ภาคอุตสาหกรรมจะเร่งการผลิตเพื่อส่งออก โดย สศค.คาดการณ์มูลค่าการส่งออกไว้ที่ 1.5%
- ซูเปอร์บอร์ดเผยมีรัฐวิสาหกิจทยอยส่งแผนฟื้นฟูแล้ว 4 แห่ง คาดภายใน 2-3 เดือน เห็นยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน ส่วนการบินไทยต้องเร่งปรับแผนใหม่ ขณะที่ล่าสุดรถไฟส่งแผนถึงมือคมนาคมแล้ว
- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นลงแตกต่างกันเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆ และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบสกุลเงินเยนเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) ท่ามกลางข้อมูลการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่ปรับตัวดีเกินคาด และความวิตกระลอกใหม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างยูเครนและรัสเซีย
- กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในช่วงไตรมาส 2 ปรับตัวขึ้น 4.2% ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มจากขยายตัว 4% ในประมาณการครั้งแรก
- กระทรวงแรงงานสหรัฐ รายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 23 ส.ค. ลดลง 1,000 ราย มาอยู่ที่ 298,000 ราย เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 300,000 ราย
- สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 3.3% แตะระดับ 105.9 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.56
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนอย่างใกล้ชิด หลังจากประธานาธิบดียูเครนกล่าวหาว่ารัสเซียส่งกองกำลังเข้าบุกรุกดินแดนของยูเครน โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 67 เซนต์ ปิดที่ 94.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 26 เซนต์ ปิดที่ 102.46 ดอลลาร์/บาร์เรล
- นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนอย่างใกล้ชิด หลังจากประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโกของยูเครนระบุว่ารัสเซียเคลื่อนกองกำลังทหารเข้าสู่ยูเครน ซึ่งทำให้เขาตัดสินใจยกเลิกการเดินทางเยือนตุรกี อันเนื่องมาจากความตึงเครียดดังกล่าว
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงขยับขึ้น 10 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,950 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,294.33 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.08 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง