เงินบาทปิด 32.10/11 อ่อนค่ารอบ 1 เดือนจากแรงซื้อดอลล์ กังวล ECB ออก QE

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 2, 2014 17:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 32.10/11 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากช่วงเช้าที่ระดับ 31.97/98 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์
"เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 1 เดือน เนื่องจากนักลงทุนหันมาซื้อดอลลาร์เก็บไว้" นักบริหารเงิน กล่าว

ปัจจัยที่ตลาดจับตามองเป็นผลประชุมของธนาคารกลางยุโรป(ECB) ที่คาดการณ์กันว่าจะออกมาตรการ QE ทำให้นักลงทุนหันมาซื้อดอลลาร์เก็บไว้ และการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.05-32.20 บาท/ดอลลาร์

"วันพรุ่งนี้เงินบาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง" นักบริหารเงิน กล่าว
  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.95 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 104.67 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3110 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3120 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,568.60 จุด เพิ่มขึ้น 3.25 จุด, +0.21% มูลค่าการซื้อขาย 41,377.40 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 788.88 ล้านบาท(SET+MAI)
  • นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ระบุว่า ระดับเงินคงคลังที่มีอยู่สามารถรองรับมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายในช่วงที่เหลือของปี 2557 ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้การจัดเก็บรายได้จะชะลอตัวลง
  • ธนาคารกลางออสเตรเลียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 2.5% ในการประชุมวันนี้ เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ และกระตุ้นการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราว่างงานของออสเตรเลียยังคงอยู่ที่ระดับสูง ทั้งนี้ธนาคารกลางออสเตรเลียพยายามที่จะส่งเสริมการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็น การก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัย เพื่อส่งเสริมการจ้างงานคนงานเหมืองที่ไม่มีงานทำ และหลีกเลี่ยงช่องว่างด้านการขยายตัว เนื่องจากการลงทุนในธุรกิจเหมืองที่เคยเฟื่องฟูได้ซบเซาลง นอกจากนี้เศรษฐกิจของออสเตรเลียยังได้รับผลกระทบจากการใช้จ่ายที่ซบเซาของบริษัทเอกชน และดอลลาร์ออสเตรเลียที่แข็งค่าขึ้นด้วย
  • ไชน่า ซิเคียวริตีส์ เจอร์นัลคาดการณ์ว่า ยอดการปล่อยกู้ใหม่ของจีนในเดือนส.ค.มีแนวโน้มจะอยู่ที่ราว 7 แสนล้านหยวน ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ก่อนหน้านี้
  • สหภาพยุโรป(อียู) กำลังพิจารณามาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมด้วยการควบคุมการขายหนี้(debt sales) และการเข้าถึงเทคโนโลยี โดยคณะกรรมาธิการยุโรปให้ระบุว่าจะเสนอมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบที่ 2 ภายในสัปดาห์นี้ หลังจากรัสเซียให้ความช่วยเหลือกลุ่มกบฏในภาคตะวันออกของยูเครน ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี อังเกล่า แมร์เคลของเยอรมนี เผยว่า เยอรมนีพร้อมเผชิญหน้ากับผลกระทบจากเศรษฐกิจจากการใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย
  • ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้นวันนี้ จากแรงขายหลังตลาดหุ้นโตเกียวพุ่ง ประกอบกับผลการประมูลพันธบัตรอายุ 10 ปีที่ค่อนข้างย่ำแย่ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 334 ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว ปิดที่ 0.500% เพิ่มขึ้น 0.010% จากระดับปิดเมื่อวานนี้ ขณะที่ราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปีส่งมอบเดือน ก.ย.ขยับลง 0.07 จุด แตะที่ 146.16 ที่ตลาดหุ้นโอซาก้า

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังญี่ปุ่นได้ขายพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีล็อตใหม่ โดยให้อัตราผลตอบแทนที่ 0.5% ซึ่งลดลง 0.1% จากการประมูลพันธบัตรอายุ 10 ปีครั้งก่อนหน้าในเดือนส.ค. โดยลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ทำไว้เมื่อเดือนมิ.ย.2546

พันธบัตรระยะยาวหมายเลข 335 ได้รับคำเสนอซื้อทั้งสิ้น 7.8824 ล้านล้านเยน ซึ่งทางกระทรวงรับไว้ 2.1999 ล้านล้านเยน


แท็ก เงินบาท   QE  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ