นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.16/18 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.10/11 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทช่วงนี้มีแนวโน้มอ่อนค่า ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินสกุลอื่นๆ ในเอเชีย เนื่องจากช่วงนี้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุล เหตุเพราะตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลายตัวออกมาดีกว่าที่คาด
"แนวโน้มเงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่าต่อ เมื่อคืนนี้ตัวเลขสหรัฐฯ ออกมาดีทั้งภาคการผลิตและภาคการก่อสร้าง รอตัวเลขการจ้างงานในคืนวันศุกร์ ซึ่งตลาดก็คาดการณ์ว่าน่าจะออกมาดีเช่นกัน จึงทำให้ช่วงนี้ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินในเอเชีย" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.05-32.20 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนเช้านี้อยู่ที่ระดับ 105.20/22 เยน/ดอลลาร์ โดยอ่อนค่าไปมากสุดในรอบ 9 เดือน จากช่วงเย็นที่ 104.67 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.3129/3131 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3120 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.0460 บาท/ดอลลาร์
- "แบงก์ชาติ" ส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยยาว จนกว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวแข็งแกร่ง ยอมรับอาจปรับลดคาดการณ์ส่งออกลง แต่เชื่อผลต่อภาพเศรษฐกิจน้อย เหตุชะลอทั้ง "ส่งออก-นำเข้า" รวมทั้งยังได้ 3 เครื่องยนต์ในประเทศ "บริโภค-ลงทุน-ใช้จ่ายรัฐ"ชดเชย
- เลขานุการบอร์ด กนง.เผย วันที่ 17 ก.ย.นี้จะมีการทบทวนตัวเลขส่งออก ตัวเลขเศรษฐกิจปี 58 ชี้ตัวเลขส่งออกไทยคงลงไม่มาก เพราะปัจจุบันอยู่ระดับต่ำอยู่แล้ว มั่นใจการฟื้นตัวอุปสงค์ในประเทศ การลงทุน และรัฐเร่งออกงบประมาณปี 58 ช่วยชดเชยส่งออกร่วงลงได้ ส่วนกรณีอียูอัดฉีดเงินแก้ปัญหาเงินฝืดคาดจะมีผลต่อเงินทุนเคลื่อนย้าย มั่นใจไทยไม่กระทบมากนัก
- อธิบดีกรมสรรพากรเตรียมเสนอการปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณา ส่วนระยะสั้นเสนอหักลดหย่อนรายได้ภาษีบุคคลธรรมดาจากการท่องเที่ยวในประเทศ 15,000 บาทต่อปี เป็นระยะเวลา 2 ปี หักลดหย่อนภาษีนิติบุคคลที่มีค่าใช้จ่ายจากการจัดการประชุมสัมมนาได้ 2 เท่าของค่าใช้จ่าย เพื่อกระตุ้นท่องเที่ย-บริโภค
- "ประยุทธ์" เตรียมลดบทบาทคสช. หลังรัฐบาลใหม่เข้าบริหารประเทศ ดูเฉพาะความมั่นคง ระบุไม่กำหนดกรอบเวลาทำงานรัฐบาล ขณะเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สั่งเร่งเบิกจ่ายงบปี 58 หวังดันเงินลงระบบเศรษฐกิจ ตั้งเป้า 96% ตีกรอบไตรมาสแรก 35%
- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้(2 ก.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในเชิงบวกได้หนุนคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในเดือนก.ค. ปรับตัวขึ้น 1.8% มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.55 สู่ระดับ 9.813 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.51 หรือในรอบ 5 ปีครึ่ง อันเนื่องมาจากการสร้างบ้านและการก่อสร้างในภาคเอกชนที่ปรับตัวขึ้น รวมถึงการก่อสร้างโดยรัฐบาลระดับรัฐและรัฐบาลท้องถิ่นที่ทะยานขึ้น
- นักลงทุนต่างก็จับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ที่จะรายงานในวันศุกร์นี้ นอกจากนี้ ตลาดยังให้ความสนใจกับการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อประเมินสัญญาณบ่งชี้ถึงกับมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาคการผลิตทั้งในประเทศจีนและยูโรโซน โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 3.08 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 92.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 2.45 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 100.34 ดอลลาร์/บาร์เรล