เงินบาทปิด 32.04/05 กลับมาแข็งค่า หลังรัสเซีย-ยูเครนตกลงหยุดยิง-รอ ECB

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 3, 2014 17:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.04/05 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.16/18 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาททำ low ที่ 31.98 บาท/ดอลลาร์ และทำ high ที่ 32.18 บาท/ดอลลาร์
"ช่วงเย็นนี้เงินบาทกลับมาแข็งค่า หลังข่าวว่ารัสเซีย-ยูเครนบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่า สิงคโปร์ดอลลาร์แข็งค่า โดยระหว่างวันเงินบาทไปทำ low 31.98 บาท ส่วนพรุ่งนี้คาดว่าเงินบาทคงวิ่งอยู่ในกรอบ ต้องรอประชุม ECB คืนพรุ่งนี้ ดูว่าดอลลาร์จะลงไปรอก่อนหรือเปล่า ตอนนี้ยูโรเริ่มขึ้นแล้ว" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.95-32.15 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ปิดตลาดเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 105.06 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 105.20/22 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3145 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3129/3131 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,583.27 เพิ่มขึ้น 14.67 จุด (+0.94%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 51,223 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,859.53 ลบ.(SET+MAI)
  • โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงกรณีที่ World Economic Forum(WEF) ได้ประกาศปรับระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย(Competitiveness)ในปี 2014-2015 ให้ดีขึ้นมาอยู่ในระดับ 31 จากระดับที่ 37 ในปีก่อนหน้า จากทั้งหมด 144 ประเทศ โดยคะแนนดีขึ้นจาก 4.5 เป็น 4.7 เป็นการสะท้อนความมั่นใจในนโยบายเศรษฐกิจมหภาคของไทยที่ปรับดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเครื่องชี้ที่ปรับดีขึ้นมากได้แก่ อัตราเงินเฟ้อ และการจัดทำงบประมาณของรัฐบาล รวมถึงการสาธารณสุข และการศึกษาขั้นต้น
  • กระทรวงพาณิชย์ จะประชุมผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลกในเร็ว ๆ นี้ เพื่อประเมินสถานการณ์การส่งออกสินค้าไทยในปีนี้ใหม่ เพราะเป้าหมายการส่งออกปีนี้ที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งไว้ที่ 3.5% เป็นเป้าหมายในการทำงาน แต่การเติบโตดังกล่าวต้องขึ้นอยู่กับตลาดคู่ค้าในต่างประเทศด้วย หากตลาดต่างประเทศฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวได้ ก็จะสามารถผลักดันการส่งออกให้บรรลุตามเป้าหมาย แต่หากมีปัจจัยอื่นที่กระทบต่อการส่งออก จำเป็นต้องทบทวนเป้าหมายใหม่ ส่วนจะลดลงมาเหลือเท่าไรยังไม่สามารถระบุได้
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของยูโรโซนในเดือนส.ค.ลดลงสู่ระดับ 53.1 จาก 54.2 ในเดือนก.ค. และเมื่อเทียบกับตัวเลขเบื้องต้นที่ 53.5 หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของมาร์กิต กล่าวว่าข้อมูล PMI ล่าสุดบ่งชี้ว่าเศรษกิจยูโรโซนมีแนวโน้มจะขยายตัวระลอกใหม่ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ แต่อัตราการขยายตัวได้ลดลงแตะดับต่ำสุดแล้วในปีนี้
  • ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.3% แตะที่ 343.65 จุด เมื่อเวลา 08.10 น. ตามเวลาลอนดอน เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป(ECB) อาจจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมพรุ่งนี้
  • นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) วันพรุ่งนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินว่า ECB จะส่งสัญญาณหรือตัดสินใจใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ หลังจากในการประชุมเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ECB ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงสู่ระดับติดลบเป็นครั้งแรก และยังได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.15%
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) เริ่มต้นการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า BOJ จะคงนโยบายไว้เช่นเดิมและเน้นไปที่มุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจของธนาคาร ถึงแม้ว่าจะมีสัญญาณที่เป็นลบจากผลพวงของการปรับขึ้นภาษีการอุปโภคบริโภคไปเมื่อเดือนเม.ย.57 ก็ตาม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ