แต่ในวันนี้ได้เปิดให้มีการสัมมนารับฟังความคิดเห็น“ทิศทางพลังงานไทย"ขึ้นที่จ.ขอนแก่น และหลังจากนี้จะไปรับฟังอีก 2 ครั้ง ภาคเหนือ ที่จ.เชียงใหม่ และภาคใต้ที่ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นลำดับต่อไปภายในเดือน ก.ย.นี้ และรวบรวมทุกความเห็น แล้วนำไปพิจารณากับส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยมีคณะอนุกรรมการที่จะเข้ามาช่วยดู 9 คณะช่วยกัน ทบทวน ปรับปรุง ทิศทางพลังงานไทย แล้วรับฟังความคิดเห็นอีกครั้งประมาณเดือน ต.ค. ก่อนเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นลำดับไป เพื่อนำกลับมาเดินหน้าพลังงานไทยต่อไป
“กระทรวงพลังงานตระหนักดีว่า สิ่งสำคัญที่จะทำให้การจัดทำแผนพลังงานมีความสมบูรณ์ในทุกมิติ ก็คือการนำความเห็นจากประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ไปใช้ในการจัดทำแผนงาน ให้สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชน ตามเป้าหมายในการสร้างประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนโดยรวม" ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าว
ปัจจุบัน ภาคอีสานที่ขอนแก่น มีการผลิตปิโตรเลียม จาก 2 แหล่ง คือ แหล่งน้ำพอง 12 ล้าน ลบ.ฟ./วัน และแหล่งสินภูฮ่อม 90 ล้าน ลบ.ฟ./วัน ส่วนหนึ่งส่งไปโรงไฟฟ้าน้ำพอง และอีกส่วนหนึ่งไปผลิต NGV ซึ่งปริมาณก๊าซธรรมชาติกำลังจะหมดลง จำเป็นต้องจัดหาเชื้อเพลิงใหม่มาทดแทน ซึ่งวันนี้เป็นส่วนหนึ่งที่มารับฟังความคิดเห็นถึงความเหมาะสมกับวิถีชีวิตในภูมิภาคโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคอีสานมีข้าวพันธุ์ดีอยู่มาก เป็นพื้นที่เกษตรกรรม เศษวัสดุทางการเกษตรที่มีอยู่มาก มีค่าสามารถนำไปใช้ทดแทนเชื้อเพลิงได้
"การรับฟังความเห็นเป็นการเปิดให้ทุกภาคส่วนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมกำหนดทิศทางพลังงาน จะทำให้ได้ข้อมูลในเชิงพื้นที่เพิ่มมากขึ้น นำไปปรับปรุงแผนพลังงานให้สอดคล้องกับความต้องการทั้งระดับพื้นที่และระดับประเทศต่อไป โดยอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม และสอดคล้องกับการพัฒนาประเทศในยุคปัจจุบัน"นายอารีพงศ์ กล่าว