ปลัดคมนาคมเตรียมชง รถไฟทางคู่-รถไฟฟ้า 3 สาย-รถไฟเชื่อมสนามบินเสนอครม.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 16, 2014 15:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหารสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) และผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) ว่า ได้ทำความเข้าใจถึงแนวทางการปฎิบัติงานและเตรียมพร้อมข้อมูลสำหรับการประชุมเชิงปฏิบัติการ(Work Shop) ร่วมกับ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม ซึ่งในส่วนของ ร.ฟ.ท.จะต้องรับผิดชอบการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบรางตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เมื่อวันที่ 29 ก.ค.57 โดยการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ 6 สายทาง ขนาดราง 1 เมตร ระยะทาง 887 กิโลเมตร ซึ่ง ร.ฟ.ท.จะต้องรวบรวมรายละเอียดการทำงานทั้งหมด รวมถึงกรอบเวลาในการทำงานให้ชัดเจนเพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการโครงสร้างพื้นฐานที่ คสช.ตั้งขึ้น

ขณะนี้ระบบรางที่มีความพร้อมเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่ออนุมัติประกวดราคาในส่วนของ ร.ฟ.ท.ประกอบด้วย 1.โครงการรถไฟทางคู่ เส้นทาง จิระ-ขอนแก่น 185 กิโลเมตร วงเงิน 26,007 ล้านบาท 2.รถไฟสายสีแดง Missing Link ขนาดรางกว้าง 1 เมตร(Meter Gauge) ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง ระยะทาง 6.5 กิโลเมตร และช่วงบางซื่อ-พญาไท-หัวหมาก ระยะทาง 19.5 กิโลเมตร วงเงินรวม 3.9 หมื่นล้านบาท 3.โครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานกรุงเทพ(ดอนเมือง)-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ช่วงพญาไท-บางซื่อ-ดอนเมือง(แอร์พอร์ตลิ้งค์ส่วนต่อขยาย) ระยะทาง 21.8 กม. วงเงิน 3.1 หมื่นล้านบาท

ส่วนการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)นั้น สนข.ได้สรุปข้อมูลเสนอมายังกระทรวงคมนาคมแล้ว 2 สาย ประกอบด้วย รถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี ระยะทาง 36 กิโลเมตร วงเงิน 5.6 หมื่นล้านบาท และสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร วงเงิน 5.4 หมื่นล้านบาท

สำหรับรถไฟทางคู่ที่เหลืออีก 4 เส้นทาง ประกอบด้วย มาบกะเบา-จิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร วงเงิน 29,855 ล้านบาท, ลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กิโลเมตร วงเงิน 24,842 ล้านบาท, นครปฐม-หัวหิน ระยะทาง165 กิโลเมตร วงเงิน 20,038 ล้านบาท อยู่ในขั้นตอนของผู้ชำนาญการ เตรียมเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม(สผ.) ชุดใหญ่, ประจวบ-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงิน 17,293 ล้านบาท รออนุมัติเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม ส่วนหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 90 กิโลเมตร วงเงิน 9,437 ล้านบาท ได้รับงบประมาณสำหรับการออกแบบรายละเอียดเพื่อเติมเต็มโครงข่ายทั้ง 6 เส้นทางให้ต่อเชื่อมกัน

ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า นอกจากโครงการก่อสร้างต่างๆแล้ว ในส่วนของแผนฟื้นฟูที่กระทรวงคมนาคมได้ให้ ร.ฟ.ท.ไปจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมให้ชัดเจนในแต่ละเรื่อง เช่น หนี้สิน บุคลากร แผนงานโครงการ แผนงานภายใน การแยกอำนาจบริหารและการแบ่งทรัพย์สินระหว่าง ร.ฟ.ท.กับแอร์พอร์ตลิ้งค์ ซึ่งต้องเร่งนำเสนอกลับมาเพื่อเสนอต่อซุปเปอร์บอร์ดต่อไป รวมถึงเรื่องบำเหน็จดำรงชีพที่รัฐบาลมีมติให้ผู้ที่เกษียณอายุได้รับแต่ไม่เกิน 2 แสนบาทในสัดส่วน 50% จากที่เป็นบำเหน็จตกทอด ซึ่งในส่วนของ ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างออกข้อบังคับและรอ กนร.อนุมัติ เบื้องต้นคาดว่าจะต้องใช้เงินประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่ง ร.ฟ.ท.ต้องไปดูว่ามีงบประมาณพร้อมแค่ไหน

"ร.ฟ.ท.มีการบ้านที่ต้องทำมาก ซึ่งเรื่องสำคัญที่ให้ไปวางแผนคือ การสร้างบุคลากรโดยเฉพาะด้านวิชาชีพ หรือวิศวกร เพื่อรองรับการเติบโตและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบรางตามนโยบายซึ่งต้องการบุคลากรเฉพาะทางจำนวนมาก ที่ผ่านมาอัตรากำลังรถไฟลดลงเพราะติดมติ ครม.ปี 2543 ที่ห้ามรับพนักงานเพิ่มทำให้ต้องจ้างแรงงานภายนอก(Outrsource) จำนวนมาก" นางสร้อยทิพย์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ