(เพิ่มเติม) สภาอุตฯ ลดคาดการณ์นักท่องเที่ยวปีนี้เหลือ 25.25 ล้านคน จากเดิม 28 ล้านคน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 22, 2014 14:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ปรับลดเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 57 ลงเหลือ 25.25 ล้านคน จากเดิมคาดไว้ที่ 28 ล้านคน ซึ่งลดลง 4.90% จากปี 56 พร้อมทั้งปรับลดเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวในปีนี้ลงเหลือ 1.9 ล้านล้านบาท จากเดิมคาด 2 ล้านล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์ช่วงครึ่งปีแรกเศรษฐกิจโลกยังฟื้นตัวไม่ดี และบรรยากาศการเมืองภายในประเทศไม่เอื้ออำนวย

ส่วนปี 58 ยังมั่นใจกับเป้าหมายเดิมที่ 2.2 ล้านล้านบาท และตั้งเป้าในอีก 4 ปีข้างหน้า (ปี 61) รายได้จะเพิ่มเป็น 4 ล้านล้านบาท

สำหรับสาเหตุที่ปรับลดจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้ลง เนื่องมาจากปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองโลก โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจในประเทศรัสเซียเอง และปัญหาความไม่สงบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทำให้นักท่องเที่ยวรัสเซียซึ่งเป็นตลาดหลักอันดับ 3 เดินทางลดลง โดยเม.ย.-ก.ค.57 นักท่องเที่ยวรัสเซียลดลงจากปีก่อน 12.30% และคาดว่าน่าจะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวรัสเซียในช่วงไตรมาสสุดท้ายลดลงจากปีก่อนเช่นกัน

อีกทั้งช่วง 7 เดือนแรก ของปีนี้ นักท่องเที่ยวจีนลดลงถึง 21.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่สถานการณ์ในเดือน ส.ค.57 เริ่มดีขึ้นหลังมีมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนในเดือนส.ค.สูงถึง 452,000 คน ลดลงจากปีก่อนเพียง 5.18% แต่ถือว่าเป็นเดือนแรกของปี 57 ที่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเกิน 370,000 คน

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น เป็นช่วงที่มีวันหยุดและเทศกาลท่องเที่ยวต่อเนื่องหลายช่วง ได้แก่ วันปิยมหาราช เทศกาลลอยกระทง วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันรัฐธรรมนูญ วันคริสต์มาส และเทศกาลปีใหม่ ประกอบกับสถานการณ์การเมืองในประเทศมีความสงบเรียบร้อยมากขึ้น อีกทั้งการจัดตั้งรัฐบาลที่มีความชัดเจน และอยู่ในช่วงโรดแมพที่ 2 ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในไตรมาส 3/2557 อยู่ที่ระดับ 93 ถือว่าก็เริ่มดีขึ้นกว่าในไตรมาสก่อน แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ ทำให้เชื่อว่าดัชนีความเชื่อผู้ประกอบการในไตรมาสที่ 4 จะอยู่ที่ระดับ 106 ซึ่งเป็นสูงสุดในปี 2557

ทั้งนี้ ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐในระยะสั้นคือ ควรรักษาความสงบเรียบร้อยจัดระเบียบบริการสถานที่ท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งเสริมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวกับต่างประเทศ สื่อสารให้เข้าใจถึงสถานการณ์ในประเทศที่เกิดขึ้นอย่างถูกต้อง ให้ความช่วยเหลือด้านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และพิจารณาขยายเวลายกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีนออกไปอีก 6-12 เดือน จากกำหนดเวลาเดิมจะหมดอายุในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้

ส่วนมาตรการระยะยาว ทาง สทท.เตรียมเสนอ Roadmap การท่องเที่ยวสู่เป้าหมาย 4 ล้านล้านบาทในปี 2561 ต่อ รมว.ท่องเที่ยวและกฬา รวมทั้งสิ้น 8 มาตรการ ได้แก่ 1.การกำหนดยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวในประเทศ โดยให้เห็นความชัดเจนของ Positioning ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดกลุ่มเป้าหมายซึ่ง ททท.มีผลการศึกษาทางการตลาดที่สำคัญอยู่แล้ว สามารถนำมาเป็นแนวทางในการกำหนดทิศทางได้ทันที 2.เร่งจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยว 5 กลุ่มจังหวัดหลัก ประกอบด้วย กลุ่มท่องเที่ยวอารยธรรมล้านนา ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัดภาคเหนือ คือ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง, กลุ่มท่องเที่แอคทีฟ บีช ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัดภาคตะวันออก คือ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด, กลุ่มท่องเที่ยอารยธรรมอีสานใต้ ครอบคลุม 5 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี, กลุ่มท่องเที่ยวรอยัลโคสต์ ครอบคลุม 4 จังหวัด ในภาคกลางและภาคใต้ ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง, กลุ่มท่องเที่ยวอันดามัน ครอบคลุม 5 จังหวัดในภาคใต้ ได้แก่ กระบี่ พังงา ภูเก็ต ตรัง สตูล

3.บูรณาการแผนการตลาดให้เป็นเอกภาพ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะทางสื่ออนไลน์โดยให้มีคณะทำงานร่วมที่จะทำให้การดำเนินการเป็นไปในลักษณะ Single Team/Single Web/Single Message ไม่เกิดการทำงานซ้ำซ้อนและมีการทำงานอย่างเป็นระบบ 4.พัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยวางโครงสร้างมใน 2 มิติ คือ การพัฒนาคนให้มีคุณภาพและเพียงพอต่อการใช้งานในปัจจุบันที่ให้ความสำคัญในเรื่องมาตรฐานสมรรถนะการทำงานและ การปลูกฝังเยาวชนให้มีความรักในธุรกิจบริการและหวงแหนวัฒนธรรมแหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่น 5.สร้างผู้ประกอบการให้มีการพัฒนาคุณภาพและเติบโตอย่างเข้มแข็ง โดยให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายของผู้ประกอบการ ระบบมาตรฐาน การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ รวมทั้งจัดหาแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมเพื่อการขยายธุรกิจและปรับปรุงกิจการ

6.ส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศซึ่งเป็นรายได้หลักที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งของภาคท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวชาวไทยมีจุดเด่นที่มีการกระจายการเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วประเทศ ต่างจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กระจุกตัวอยู่ในเพียงบางพื้นที่ 7.สนับสนุนการสร้างกลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชน ซึ่งเป็นการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง ก่อให้เกิดความรักสามัคคีในพื้นที่ มีการแบ่งปันรายได้อย่างเป็นธรรม ทำให้ชุมชนได้รับประโยชน์โดยตรงจากนักท่องเที่ยว ไม่ใช่เป็นเพียงผู้ถูกเที่ยวหรือเครื่องมือในการหารรายได้ของกลุ่มธุรกิจเท่านั้น และ 8.ผลักดันมาตรการอำนวยความสะดวกและยกระดับประสบการณ์ท่องเที่ยว ซึ่ง ก.พ.ร.ได้ทำการศึกษาให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2558 โดยมาตรการดังกล่าวได้ผ่านการให้ความเห็นของภาคอุตสาหกรรมและมีการวางกรอบระยะเวลาและผู้ดำเนินการแล้ว

นางปิยะมาน ยังกล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรมที่เกาะเต่า ระบุไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศในด้านการท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นอุทธาหรณ์เรื่องความปลอดภัยที่ต้องเพิ่มการดูแลจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ผู้ประกอบการ และคนในชุมชน ตลอดจนนักท่องเที่ยวเอง

สำหรับผลกระทบประเมินว่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้น เพราะเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดเหมือนอุบัติเหตุ และเจ้าหน้าที่กำลังเร่งทำงานอย่างรวดเร็ว ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ติดตามความคืบหน้าแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ