และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) รมว.เกษตรและสหกรณ์หรือผู้แทนลงนามเอกสารดังกล่าวข้างต้น
สำหรับสาระสำคัญของบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในกรอบอาเซียนเกี่ยวกับแผนการส่งเสริมสินค้าเกษตรและป่าไม้ มีรายละเอียดดังนี้
1. มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มอำนาจการต่อรองในเรื่องการค้าผลิตภัณฑ์เกษตรและป่าไม้ของอาเซียนในตลาดโลก รวมถึงการเสริมความพยายามเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าที่จะนำไปสู่การขยายตลาด การพัฒนาคุณภาพและความปลอดภัยสินค้าและอาหาร เป็นฐานสำหรับการประสานงานระหว่างรัฐสมาชิกอย่างใกล้ชิด และสร้างความมั่นใจว่าจะมีวัตถุดิบในการผลิตที่ยั่งยืน
2. ภายใต้แผนงานการส่งเสริมสินค้าเกษตรและป่าไม้อาเซียนครอบคลุมสินค้าจำนวน 12 ชนิด ได้แก่ สาหร่ายทะเลและผลิตภัณฑ์ โกโก้ มะพร้าว กาแฟ ผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ น้ำมันปาล์ม เมล็ดถั่วและถั่วฝัก พริกไทย มันสำปะหลัง ชา ปลาทูน่า และหม่อนไหม ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกอย่างน้อยสองประเทศขึ้นไป
3. สำหรับแผนงาน/กิจกรรมในการส่งเสริมสินค้าเกษตรและป่าไม้อาเซียนมีแนวทางในการดำเนินงาน 4 ประเด็น ดังนี้
1) การพัฒนาความสามารถในการแข่งขันสู่ตลาดโลกด้านอาหารและสินค้าเกษตรของอาเซียน
2) การพัฒนาความร่วมมืออาเซียนและกลยุทธ์ร่วมในประเด็นที่เกี่ยวข้องในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ
3) การพัฒนา การส่งเสริม การถ่ายทอด และการยอมรับเทคโนโลยีใหม่
4. การส่งเสริมความร่วมมือของภาคเอกชน
5. กลไกการดำเนินงาน กำหนดให้จัดตั้งคณะทำงานรายสินค้าและองค์กรภาคประชาสังคมของอาเซียนที่เกี่ยวข้องเป็นหน่วยดำเนินการตามแผนงาน และรายงานความคืบหน้าต่อคณะกรรมการร่วมอาเซียนภายใต้แผนงานส่งเสริมสินค้าเกษตรและป่าไม้ทราบและรับรองผลการดำเนินงาน เพื่อเสนอรายงานความก้าวหน้าต่อที่ประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสและที่ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านเกษตรและป่าไม้เพื่อทราบตามลำดับ
6. บันทึกความเข้าใจฯ เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศและเป็นหนังสือสัญญา ตามมาตรา 23 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และแม้ว่าในย่อหน้า 15 (2) ของร่าง MOU จะระบุถึงความร่วมมือในมาตรการต่าง ๆ ทั้งที่เกี่ยวกับชายแดนและไม่เกี่ยวกับชายแดน (border and non-border measures) เพื่อเสริม (supplement and complement) ความพยายามที่จะนำไปสู่การเปิดเสรีทางการค้าและการลงทุน (ซึ่งรวมถึงการยอมรับใบรับรองและการตรวจสอบผลิตภัณฑ์การเกษตรและป่าไม้ร่วมกัน การขจัดข้อกีดกันต่าง ๆ และการแข่งขันที่เป็นธรรม) ก็เป็นเพียงมาตรการเพื่ออำนวยความสะดวกในการเตรียมการเปิดเสรีทางการค้าและการลงทุน จึงยังไม่เข้าข่ายเป็นหนังสือสัญญาเกี่ยวกับการค้าเสรี ตามมาตรา 23 วรรคสองของรัฐธรรมนูญฯ ที่จะต้องได้รับความเห็นชอบของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ