พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.วันนี้หารือถึงปัญหาเศรษฐกิจที่จำเป็นต้องเร่งดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล เพราะที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องค่าครองชีพ ขณะที่เงินทุนหมุนเวียนในประเทศมีน้อย และการจับจ่ายใช้สอยยังไม่มาก จึงให้แนวทางว่าจะต้องเร่งขับเคลื่อนงบประมาณปี 58 ในช่วง 3 เดือนแรกทันที ทั้งงบลงทุน งบประมาณด้านการก่อสร้าง ซึ่งจะมีเม็ดเงินหลายแสนล้านบาท
"ยอมรับว่าจากปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 22 พ.ค.ไม่สามารถเบิกจ่ายงบปี 57 มาใช้ได้เต็มที่ มีเม็ดเงินสูญหายในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลต้องเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ การจัดทำงบขาดดุลที่ตั้งไว้ที่ 2.5 แสนล้านบาท ใช้ได้จริงประมาณ 2 แสนล้านบาท เพราะส่วนหนึ่งต้องนำไปคืนงบกลางปี 57 รวมถึงต้องดูแลหนี้สาธารณะ ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 43% เป็นผลจากการผูกพันงบหลายแสนล้านบาทจากรัฐบาลที่ผ่านมา"นายกรัฐมนตรี กล่าว
สำหรับกรณีเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ยังไม่พอใจแนวทางการช่วยเหลือของรัฐบาลนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ไปหาแนวทางแก้ไขเพิ่มเติม พร้อมทั้งจะมีการเชิญสมาคมเกษตรกรมาพูดคุยอีกครั้ง เบื้องต้นถือว่าทางเกษตรกรพอใจแนวทางการช่วยเหลือของรัฐบาล เพียงแต่อาจจะมีข้อร้องเรียนบางส่วนเพิ่มเติมเข้ามา ซึ่งรัฐบาลจะพยายามหาทางออกต่อไป
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยว 2 รายบนเกาะเต่าว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รายงานความคืบหน้าการสอบสวนคดีมาเป็นระยะ ซึ่งรัฐบาลได้ประสานและพูดคุยทางการอังกฤษอยู่ตลอด โดยยืนยันว่าจะเร่งรัดหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ ส่วนผลกระทบต่อการท่องเที่ยวนั้น แม้จะยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาที่เกาะเต่าอย่างต่อเนื่อง แต่ก็จำเป็นต้องสร้างความเชื่อมั่นว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้อีก
"รัฐบาลยังคงคาดหวังว่าในช่วงไตรมาส 3 หรือ ยอดรวมนักท่องเที่ยวทั้งปี ยังเชื่อว่าจำนวนอาจไม่ต่ำไปมากนัก"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ ร.อ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบรายงานแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ 58 โดยให้หน่วยงานราชการนำแผนไปปฏิบัติงานไปเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ (ต.ค.–ธ.ค.57) รวม 1.1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำ 791,443 ล้านบาท รายจ่ายลงทุน 149,146 ล้านบาท พร้อมทั้งงบเหลือค้างจ่ายจากปีงบประมาณ 57 ซึ่งยังไม่ได้ผูกพันอีก 160,000 ล้านบาท เชื่อว่าหากสามารถเร่งรัดการเบิกจ่ายงบทั้งหมดได้ภายในไตรมาสแรกจะมีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 58