นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.24/26 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.21/22 บาท/ดอลลาร์
"วันนี้บาทคงนิ่งๆ โดยคาดว่าจะแกว่งในกรอบเดิม เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ก็ออกมากลางๆ ส่วนอเมริกาที่ส่งขีปนาวุธไป ก็ทำให้ตลาดอาจจะช็อคไปบ้างว่าจะยังมีการทำอะไรต่อหรือไม่" นักบริหารเงิน กล่าว
ทั้งนี้ คาดว่าเงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.20-32.30 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.64/65 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 108.32 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.2852/2855 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.2892 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.2460 บาท/ดอลลาร์
- คลังรับเศรษฐกิจโลกฟื้นต่ำกว่าคาดฉุดส่งออกไทยร่วง แต่มั่นใจเร่งอัดฉีดงบประมาณ 3 เดือนแรก-งบเหลื่อม จากปีก่อนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ คาด 3 เดือนเร่งเบิกจ่ายได้ 32% ด้าน "สุรินทร์ พิศสุวรรณ" จี้รัฐพัฒนาศักยภาพด้านการแข่งขัน-จัดการแรงงาน
- "แบงก์ชาติ" เชื่อแนวโน้มเอ็นพีแอล รถยนต์เริ่มทรงตัว โดยเฉพาะจากรถยนต์คันแรก เหตุระยะเวลาผ่อนชำระผ่านไปกว่า 2 ปี การทิ้งรถยนต์เริ่มไม่คุ้ม ขณะที่แบงก์พาณิชย์ปรับกลยุทธ์ โดยการยืดเวลาชำระหนี้-ลดดอกเบี้ยให้ เหตุยึดรถขายทิ้งอาจไม่คุ้มหลักประกัน ด้าน "ลีสซิ่งกสิกรไทย" ยอมรับยอดยึดรถแต่ละเดือนสูงถึง 100 คัน ขณะที่ราคารถตกเร็ว หันเน้นสร้างรายได้ผลิตภัณฑ์อื่น เพื่อรักษากำไร
- นักวิเคราะห์ฟันธงปัจจัยสนับสนุนในประเทศแข็งแกร่ง ประกอบกับมีมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องทั้งในยุโรป และญี่ปุ่นช่วยหนุนหุ้นไทย จับตา Q4 ทำนิวไฮใหม่ ด้าน "เกศรา" ยืนยันบริษัทจดทะเบียนไทยแข็งแกร่งไม่เกิดภาวะฟองสบู่ ขณะเดียวกันเตือนนักลงทุนอย่างไล่ซื้อหุ้น พิจารณาพื้นฐานให้ดี
- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร และปรับตัวขึ้นลงแตกต่างกันเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆ (23 ก.ย.) ท่ามกลางปฏิบัติการโจมตีที่นำโดยสหรัฐต่อกลุ่มหัวรุนแรงรัฐอิสลาม (IS) ในซีเรีย ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐโดยทั่วไปออกมาในเชิงบวก โดยเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2857 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2836 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นที่ 1.6404 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6355 ดอลลาร์
- บรรดานักวิเคราะห์ กล่าวว่า ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดอาจจะลดลง หลังจากที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐให้คำมั่นที่จะยังคงเดินหน้าโจมตีกลุ่ม IS โดยนักลงทุนอาจจะต้องการสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย ท่ามกลางความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้น
- รายงานเบื้องต้นของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐทรงตัวอยู่ที่ 57.9 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับเดียวกับในเดือนส.ค. และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.53
- สำนักงานเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FHFA) เปิดเผยว่า ราคาบ้านในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย.และ 0.2% ในเดือนพ.ค. โดยทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงขยับลง 10 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,330 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,227.18 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 1.08 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง