"อาคม"ลุ้น GDP ปีนี้โต 1.5-2%หากส่งออกช่วงที่เหลือฟื้น, ปี 58 ลงทุนรัฐหนุน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 28, 2014 18:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม และเลขาธิการสภาพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจแห่งชาติ กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน IRPC Business Forum 2014 หัวข้อ "วิเคราะห์เจาะลึกเศรษฐกิจไทย" ว่า คาดว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) จะสามารถขยายตัวได้ราว 1.5-2% หากการส่งออกในช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค.นี้ สามารถฟื้นตัวกลับมาได้ แม้ว่าในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาจะติดลบ ซึ่งมองว่าโอกาสความเป็นไปได้น่าจะออกมาอยู่ที่ระดับ 1.5%

ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยในปีนี้ ตั้งแต่ 9 เดือนแรกที่ผ่านมาประสบปัญหาทั้งภายในและภายนอก โดยความเชื่อมั่นการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่จะเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้นั้นก็ไม่ได้เป็นจริงเสมอไป ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศก็ได้รับผลกระทบจากภาคการส่งออกที่ขยายตัวได้ไม่มากนัก ซึ่งไทยมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกราว 70% ของรายได้รวมของประเทศ

สำหรับปัจจัยที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้นั้น ก็คงจะหนีไม่พ้นภาครัฐ ที่จะต้องเน้นการใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดิน ทั้งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรวางแผนใช้เงินงบประมาณที่ค้างท่อ เพื่อนำเม็ดเงินกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ซึ่งมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลำดับแรก คือ การล้างท่อเงินงบประมาณแผ่นดิน

นอกจากนี้ปัจจัยที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอีกส่วนหนึ่ง คือ ภาคเอกชน แม้ว่าจะเกิดภาวะชะงักงันมาตั้งแต่ต้นปี แต่ขณะนี้ภาพความเชื่อมั่นของสถาบันต่างๆ ทั้งเอกชนเองและผู้บริโภคเริ่มปรับตัวดีขึ้น และคาดว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ในช่วงไตรมาส 3-4 นี้ จากอำนาจการซื้อที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งเป็นไปตามระบบเศรษฐกิจ ขณะที่ในแง่ของดัชนีชี้วัดต่างๆก็คงจะมีการปรับตัวดีขึ้น แต่เป็นในลักษณะของการปรับตัวดีขึ้นอย่างช้าๆ

สำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 58 มองว่า การลงทุนภาครัฐ โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะเน้นการขนส่งระบบราง และการขนส่งทางน้ำ เพื่อช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ ฉะนั้นในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานจะเป็นส่วนขับเคลื่อนอีกประการหนึ่งที่จะทำให้ระบบเศรษฐกิจ ทั้งภาคเอกชน และประเทศโดยรวมมีความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น

ขณะที่ในเรื่องของการลดต้นทุนโลจิสติกส์ ทางสภาพัฒน์กับทางกระทรวงคมนาคม และรวมกับอีกหลายกระทรวง จัดทำแผนการพัฒนาโลจิสติกส์ของประเทศ โดยมองไปที่การสร้างแวร์เฮาส์ เพื่อให้บริการทั้งบริษัทขนาดใหญ่และขนาดเล็ก อย่างไรก็ตามในธุรกิจ SME ก็อยู่แผนเช่นเดียวกัน ที่จะทำอย่างไรที่จะให้มี Distribution center ให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ในราคาที่ไม่แพงมากนัก

พร้อมกันนี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 58 ยังมีเรื่องของการเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษ การค้าชายแดน ที่จะเอื้ออำนวยความสะดวกในเรื่องของแรงงาน ของอุตสาหกรรมที่ให้แรงงานจำนวนมาก อีกทั้งภาครัฐก็จะมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของ ถนน ไฟฟ้า สาธารณูปโภค

"สิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 58 นั้น ตัวหลักที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ คือการลงทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง และการเปิดเขตการค้าชายแดน ก็จะเป็นโอกาสที่จะขยายฐานการผลิตออกไป โดยขณะนี้คิดว่าองค์กรระหว่างประเทศ อย่าง IMF ได้ประเมินการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปี 58 ว่าจะขยายตัวได้ในระดับ 4-5% ขณะที่สภาพัฒน์ให้ไว้ 3.5-4.5% ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง โดยหากเห็นสัญญาณการฟื้นตัวมากกว่านี้ก็อาจจะมีการประเมินการเติบโตในปี 57-58 อีกครั้งหนึ่ง และจะมีการประกาศตัวเลขได้ในวันที่ 17 พ.ย.นี้"นายอาคม กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ