(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 32.53/55 แนวโน้มแข็งค่า หลัง GDP Q3/57 ของสหรัฐฯดีกว่าคาด

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 31, 2014 11:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.53/55 บาท/ดอลลาร์ ขยับแข็งค่าเล็กน้อยจากช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.56/58 บาท/ดอลลาร์ และลงไปทำโลว์ที่ระดับ 32.49 บาท/ดอลลาร์
"ทิศทางของบาทมีแนวโน้มแข็งค่า หลังอ่อนค่ามาหลายวัน" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 32.44-32.55 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.5000 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(30 ต.ค.) อยู่ที่ 1.84430% และ THAI BAHT FIX 6M(30 ต.ค) อยู่ที่ 1.87809%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.40 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 109.15 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2596 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.2577 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.5630 บาท/ดอลลาร์
  • นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า การยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือคิวอีของสหรัฐ มีผลต่อภาวะเงินทุนเคลื่อนย้าย เพราะค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่แข็งค่าขึ้นมีผลให้ค่าเงินบาท และค่าเงินในภูมิภาคอ่อนค่าลง ขณะเดียวกันต้องจับตาดูอัตราดอก เบี้ยพันธบัตร 10 ปีของสหรัฐ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสภาพคล่องของโลก และเป็นหัวจักรตลาดพันธบัตร ถ้าดอกเบี้ยปรับขึ้น 2.5% แสดงให้เห็นว่าสภาพคล่องในระบบเกิดการตึงตัวหรือสภาพคล่องลดลง ล่าสุดอยู่ที่ 2%
  • เอชเอสบีซีเผยนักลงทุนต่างชาติกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยต้นปีหน้า แห่ขายหุ้นตลาดเอเชียทำเงินไหลออกมากสุด 5.5 พันล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. ล่าสุดลดน้ำหนักหุ้น ไทย-มาเลเซีย-ฟิลิปปินส์-พร้อมให้น้ำหนักลงทุนอินเดีย-อินโดนีเซีย-จีน ชูหุ้น 3 กลุ่มน่าลงทุน แบงก์-สาธารณูปโภค-พลังงาน
  • "พาณิชย์" เดินหน้า ดันส่งออก 3 เดือนที่เหลือของปีนี้ หวังได้ 6.3-6.5 แสนล้านบาทต่อเดือน ทำทั้งปีโตบวกได้ ลั่นเป็นไปได้แน่ หันใช้กลยุทธ์เจาะตลาดใหม่ ทั้งอาเซียน จีน อินเดีย รัสเซีย ตะวันออกกลาง แต่ไม่ทิ้งตลาดเก่า
  • สภาผู้ส่งออกฯ ย้ำอีก การส่งออกปีนี้ติดลบ 0.4% หลังเศรษฐกิจโลกหด ไอเอ็มเอฟหั่นจีดีพีครั้งที่ 3 เหลือโต 3.3% ขณะที่ "ฉัตรชัย" ดัน 3 เดือนที่เหลือ ทำมูลค่าได้เดือนละ 6.3-6.5 แสนล้านบาท ทั้งปีโตบวกได้แน่นอน
  • กฟผ.ประกาศลงทุนอีกกว่าแสนล้าน กำลังผลิตเกือบ 9 พันเมกะวัตต์ เพิ่มความมั่นคงด้านไฟฟ้าตามแผนพีดีพีฉบับใหม่ เล็งเพิ่มกำลังผลิตป้อนระบบให้ได้มากกว่า 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 38% คาดอาจต้องลงทุนโรงไฟฟ้าถ่านหินเองทั้งหมด
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐขยายตัว 3.5% ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2557
  • สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 30 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,120 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือราคาเทียบเท่ากับ 1,202.88 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 3.25 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง
  • รัฐบาลญี่ปุ่น เผยอัตราว่างงานในเดือน ก.ย.ปรับเพิ่มขึ้นแตะ 3.6% จากระดับ 3.5% ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่สัดส่วนตำแหน่งงานต่อจำนวนผู้สมัครงานหดตัวแตะ 1.09 จากระดับ 1.10 เมื่อเดือน ส.ค.
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นในรอบสัปดาห์ที่แล้ว โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ร่วงลง 1.08 ดอลลาร์ ปิดที่ 81.12 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลง 88 เซนต์ ปิดที่ 86.24 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ไตรมาส 3 ที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด และธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ได้แสดงความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ได้หนุนสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค.ร่วงลง 26.3 ดอลลาร์ หรือ 2.15% ปิดที่ 1198.6 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลง 84.4 เซนต์ ปิดที่ 16.42 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ม.ค.พุ่งขึ้น 23.3 ดอลลาร์ ปิดที่ 1245.9 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ หลังจากข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ออกมาดีกว่าที่คาด ซึ่งหนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ประเมินกันไว้ เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มการปรับตัวขาขึ้นของเศรษฐกิจ โดยค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2612 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2646 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.6002 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6022 ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 109.34 เยน เทียบกับระดับ 108.79 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9562 ฟรังค์ จาก 0.9536 ฟรังค์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8837 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8805 ดอลลาร์

แท็ก เงินบาท   สหรัฐ   GDP  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ