(แก้ไข) สศอ.เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ก.ย. -3.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 31, 2014 13:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(MPI) เดือน ก.ย.57 หดตัว 3.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยอุตสาหกรรมที่ทำให้ดัชนีปรับตัวลดลง ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เครื่องประดับเพชรพลอย และผลิตภัณฑ์ยาสูบ ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 61.10%

นายสมศักดิ์ จันทรรวงทอง รองผู้อำนวยการ สศอ.รักษาการแทนผู้อำนวยการ สศอ. กล่าวว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(MPI) เดือนกันยายน 2557 หดตัว 3.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน แต่ดัชนีการส่งสินค้ามีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.3% ด้านอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 60.10% สำหรับอุตสาหกรรมที่ทำให้การผลิตลดลง ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เครื่องประดับเพชรพลอย และผลิตภัณฑ์ยาสูบ โดยภาวะการผลิตอุตสาหกรรมเดือนกันยายน 2557 สาขาที่สำคัญ มีดังนี้

อุตสาหกรรมรถยนต์ การผลิตรถยนต์เดือนกันยายนปี 2557 หดตัวเมื่อเปรียบเทียบจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการลดลงของตลาดในประเทศ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว และตลาดที่ปรับตัวสู่สมดุลหลังสิ้นสุดโครงการรถยนต์คันแรก ด้านการส่งออกรถยนต์เดือนกันยายน ปี 2557 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 17.49% โดยเป็นการลดลงของตลาดเอเชีย โอเชียเนีย ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกากลางและอเมริกาใต้

อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ภาวะการผลิตของอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในเดือนกันยายน 2557 ปรับตัวลดลง 3.49% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอุตสาหกรรมไฟฟ้าปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.59% เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น คือ พัดลมตามบ้าน กระติกน้ำร้อน เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนคอนเดนซิ่งยูนิต และเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนแฟนคอยล์ยูนิต เพิ่มขึ้น 50.32%, 41.72%, 8.16% และ 7.61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ เนื่องจากจะมีคำสั่งซื้อเพื่อรองรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ส่วนอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวลดลง 4.54% สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการผลิตปรับตัวลดลง ได้แก่ ฮาร์ดดิสก์-ไดรฟ์ ปรับตัวลดลง 9.05% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการผลิตเพื่อส่งออกไปยังตลาดหลัก เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป กลับมามีอัตราการหดตัว ด้านภาวะการส่งออกในเดือนกันยายน 2557 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 1.05% ส่วนการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น 4.37% ซึ่งมาจากการส่งออกแผงวงจรไฟฟ้าเพิ่มขึ้นตามความต้องการของตลาดโลกและความต้องการของสินค้าสำเร็จรูปอิเล็กทรอนิกส์ที่มีแผงวงจรไฟฟ้าเป็นส่วนประกอบ ทำให้การส่งออกแผงวงจรไฟฟ้ามีมูลค่าสูงตามไปด้วย

อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า ปริมาณความต้องการบริโภคเหล็กของไทยในเดือนกันยายนปี 2557 มีปริมาณ 1.24 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 11.71% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การผลิตมีปริมาณ 0.48 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 6.67% การส่งออกมีมูลค่า 73.01 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 7.58% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 641.62 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 7.65% โดยในส่วนของเหล็กทรงยาวการบริโภคและการผลิตลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหล็กนำเข้าจากจีน ซึ่งแม้จะมีการใช้มาตรการ AD ในส่วนของเหล็กลวด(5%) แต่ก็ยังมีการนำเข้าสินค้าจากประเทศดังกล่าวอยู่

อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม การผลิตผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มกลุ่มเส้นใยสิ่งทอ เดือนกันยายน ปี 2557 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นจากคำสั่งซื้อของตลาดภายในและต่างประเทศ ในส่วนกลุ่มผ้าผืน มีการผลิตลดลง แต่การจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น ส่วนกลุ่มเสื้อผ้าสำเร็จรูป มีการผลิตเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นการผลิตไว้ส่งมอบในช่วงปลายปี ซึ่งคาดว่าการบริโภคในประเทศจะฟื้นตัวดีขึ้น และยังมีคำสั่งชื้อจากต่างประเทศเริ่มทยอยเข้ามา ด้านการส่งออกเดือนกันยายน ปี 2557 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นในกลุ่มเส้นใยสิ่งทอฯ เนื่องจากมีการส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ อินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 23.03% และปากีสถาน เพิ่มขึ้น 28.76% ส่วนกลุ่มผ้าผืน การส่งออกมีมูลค่าลดลง ในตลาดคู่ค้าหลัก ได้แก่ ตลาดเวียดนาม บังคลาเทศ และสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ สำหรับกลุ่มเสื้อผ้าสำเร็จรูป มูลค่าการส่งออกจะเพิ่มขึ้น ในตลาดอาเซียนและญี่ปุ่น แต่จะลดลงในตลาดสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป

อุตสาหกรรมอาหาร การผลิตอุตสาหกรรมอาหาร เดือนกันยายน ปี 2557 ภาพรวมปรับตัวลดลงจากปีก่อน 17.0% เนื่องจากการผลิตผลิตมันสำปะหลัง และผักผลไม้ที่ลดลง เป็นผลจากปัญหาวัตถุดิบที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติและการระบาดของโรค และภาวะการใช้จ่ายในประเทศที่ยังทรงตัวจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังได้รับ ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะงักงัน ส่วนด้านการส่งออกในภาพรวมเพิ่มขึ้น 9.7% เนื่องจากการได้รับผลดีจากการเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศผู้นำเข้า เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ