รายงาน กนง.ระบุแนวโน้มเศรษฐกิจปี 58 ฟื้นต่อเนื่องแม้ปัจจัยเสี่ยงเพิ่มขึ้น

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 19, 2014 10:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เผยแพร่รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ครั้งที่ 7/2557 เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ระบุว่า เศรษฐกิจในปี 58 ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แม้มีปัจจัยเสี่ยงต่อการฟื้นตัวเพิ่มขึ้น โดยแรงขับเคลื่อนหลักมาจากนโยบายภาครัฐ ซึ่งหมายรวมถึงเม็ดเงินที่ใช้จ่าย ความชัดเจนและต่อเนื่องของนโยบาย โดยเฉพาะด้านการลงทุน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นและกระตุ้นให้การใช้จ่ายภาคเอกชนทยอยตามมา

นอกจากนี้ การส่งออกสินค้ามีแนวโน้มฟื้นตัวตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่ปรับดีขึ้นในปีหน้า แต่อาจได้รับผลกระทบบ้างจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีแนวโน้มลดลง ซึ่งจะมีผลต่อราคาสินค้าส่งออกบางประเภทของไทย ขณะที่การท่องเที่ยวมีแนวโน้มฟื้นตัวค่อยเป็นค่อยไปจากนักท่องเที่ยวเอเชียเป็นหลัก สำหรับอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงตามราคาพลังงาน รวมทั้งแรงกดดันด้านอุปสงค์ที่ยังอยู่ในระดับต่ำ

คณะกรรมการฯ เห็นสอดคล้องกันว่าเศรษฐกิจควรได้รับแรงสนับสนุนหลักจากการใช้จ่ายภาครัฐ ทั้งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นและการลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระยะยาว โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งความชัดเจนและต่อเนื่องของนโยบายรัฐบาล ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน

อย่างไรก็ตาม กรรมการบางท่านเห็นว่าในภาวะที่ราคาสินค้าเกษตรมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่าต่อเนื่อง อาจกระทบต่อมูลค่าการส่งออก รวมทั้งกำลังซื้อของครัวเรือน ซึ่งมีนัยต่อการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน นอกจากนี้ อาจส่งผลต่อแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในระยะข้างหน้า จึงเห็นควรให้ติดตามอย่างใกล้ชิด

สำหรับความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงินในภาพรวมปรับลดลงเล็กน้อย จากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆ โดยภาคครัวเรือนมีแนวโน้มก่อหนี้ใหม่ลดลง อย่างไรก็ดี หนี้สะสมในภาพรวมและภาระการชำระหนี้ (Debt Service Ratio) ของครัวเรือนบางกลุ่มที่ยังอยู่ในระดับสูงอาจกระทบต่อการบริโภคและความสามารถในการชำระหนี้ ภาคอสังหาริมทรัพย์ปรับดีขึ้นตามอุปสงค์ที่ทยอยฟื้นตัว ขณะที่ราคาที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นในอัตราใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในอดีต ฐานะการเงินของภาคธุรกิจโดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดี ด้านพฤติกรรมการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นบ้าง โดยเฉพาะมีสัญญาณการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาหุ้นบริษัทขนาดกลางและเล็ก ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม

กนง.มองว่าการดำเนินนโยบายที่เหมาะสมนั้น ภายใต้แรงกดดันเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 58 นโยบายการเงินที่ผ่อนปรนในปัจจุบันไม่เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และยังสอดคล้องกับการรักษาเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาว อย่างไรก็ดี คณะกรรมการฯ แสดงความห่วงใยต่อปัจจัยเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นจากทั้งสภาวะเศรษฐกิจโลกและความรวดเร็วของการดำเนินโครงการลงทุนภาครัฐ

ทั้งนี้ กรรมการ กนง.6 ท่านเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยให้เหตุผลว่า แม้เศรษฐกิจจะมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ในการประชุมครั้งก่อน แต่นโยบายการเงินปัจจุบันมีความผ่อนปรนเพียงพอและเหมาะสมกับเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 58 การใช้จ่ายภาครัฐที่มีความชัดเจนและต่อเนื่องควรเป็นแรงสนับสนุนสาคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ในปัจจุบัน และควรรักษา Policy space เพื่อรอดูพัฒนาการทางเศรษฐกิจซึ่งน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในระยะต่อไป

ส่วนกรรมการ 1 ท่านที่เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 ต่อปี ให้เหตุผลว่าภายใต้แรงกดดันด้านราคาที่อยู่ในระดับต่ำและเสถียรภาพทางการเงินที่ยังไม่น่ากังวล นโยบายการเงินควรผ่อนคลายเพิ่มเติมเพื่อรองรับความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่สูงขึ้นและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มต่ากว่าคาดการณ์ รวมถึงช่วยชดเชยแรงสนับสนุนจากภาคการคลังที่มาตรการส่วนหนึ่งจะมีผลเพียงระยะสั้นและส่วนงบลงทุนยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากในทางปฏิบัติจะมีขั้นตอนซึ่งอาจส่งผลให้ดำเนินการได้ล่าช้ากว่าเป้าหมาย

ท้ายที่สุดคณะกรรมการฯ มีมติ 6 ต่อ 1 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.00 ต่อปี โดยจะติดตามพัฒนาการทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด และจะดำเนินนโยบายที่เหมาะสมเพื่อรักษาแรงสนับสนุนที่เพียงพอต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการรักษาเสถียรภาพการเงิน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ